เสรีภาพและความรับผิดชอบ
แต่จงระวังอย่าให้สิทธิของพวกท่าน ทำให้พวกที่มีความเชื่ออ่อนแอสะดุด (1โครินท์ 8:9THSV11)
ผมสามารถพูดได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคนติดเหล้า ฟังดูแปลกที่จะเป็นคำพูดของศิษยาภิบาล แต่ขออธิบายครับ ผมใช้เวลาสิบเจ็ดปีแรกของชีวิตอยู่กับผู้คนที่ติดเหล้าอย่างหนัก ทุกคืนคุณแม่ของผมจะดื่มจนเมามายและหลับไปอย่างหมดสภาพ ผมได้เห็นพิษสงของแอลกอฮอลที่มีต่อกลุ่มเพื่อนของเธอ และชีวิตที่ย่อยยับหลังจากนั้น ผมเคยเห็นว่าแอลกอฮอลทำสิ่งใดได้บ้าง
คริสเตียนบางคนบอกว่าพวกเขามีเสรีภาพในการดื่ม แต่ด้วยเสรีภาพนั้นพวกเขาจำเป็นต้องระมัดระวัง มีผู้เชื่อบางคนเพิ่งผ่านการเลิกเหล้า และถ้าผู้เชื่อใหม่ที่เพิ่งได้รับการบำบัดมา และกำลังดีใจที่ได้ชัยชนะเห็นคริสเตียนบางคนดื่มเหล้าอยู่ล่ะครับ? และยิ่งถ้าพวกเขาบอกว่าดื่มได้ไม่เป็นไร – เป็นเหตุให้ผู้เชื่อใหม่กลับสู่วิถีเดิมอีกล่ะครับ?
ในฐานะผู้เชื่อ เราต่างก็เชื่อมโยงกัน พระคัมภีร์กล่าวว่า “พี่น้องทั้งหลาย เพราะว่าท่านถูกเรียกให้มีเสรีภาพ ขอแต่เพียงอย่าถือโอกาสใช้เสรีภาพเพื่อทำตามเนื้อหนัง แต่จงรับใช้กันและกันด้วยความรักเถิด” (กาลาเทีย 5:13THSV11)
นี่เป็นคำสอนที่ให้ปัญญา “ถ้าคุณไม่ดื่ม คุณก็จะไม่มีวันเมา แต่ถ้าคุณดื่ม คุณก็เมา” สุภาษิต 23 มีคำเตือนเรื่องแอลกอฮอลครับ “ในที่สุดมันจะกัดเหมือนงู และฝังเขี้ยวเหมือนงูทับทาง ตาของเจ้าจะเห็นสิ่งแปลกๆ และใจของเจ้าจะพูดตลบตะแลง” (32-33THSV11)
พระคัมภีร์กล่าวว่า “และอย่าเมาเหล้าองุ่นซึ่งจะทำให้เสียคน แต่จงเต็มเปี่ยมด้วยพระวิญญาณ จงปราศรัยกันด้วยเพลงสดุดี เพลงนมัสการ และเพลงฝ่ายจิตวิญญาณ คือร้องเพลงและสดุดีจากใจของพวกท่านถวายองค์พระผู้เป็นเจ้า” (เอเฟซัส 5:18-19THSV11) ผมเลือกที่จะอยู่ภายใต้ฤธิ์อำนาจของพระวิญญาณมากกว่าภายใต้ฤทธิ์อำนาจของน้ำเมา ผมไม่เคยเห็นสิ่งดีใดๆที่ได้จากการดื่มเหล้าเลยครับ
คริสเตียนควรดื่มเหล้าไหมครับ?
โดย: Pastor Greg Laurie
อนุญาตโดย Harvest Ministries with Greg Laurie
PO Box 4000,Riverside,CA92514
(Cr.ภาพ Drunken Cat by Angel Ciesniarska)