อำนาจของการเป็นแบบอย่างที่ดี
ส่วนภรรยาของโลท ผู้ซึ่งอยู่ข้างหลังโลท มองกลับไป นางจึงกลายเป็นเสาเกลือ (ปฐมกาล 19:26 THSV11)
โนอาห์และโลทต่างก็มีชีวิตอยู่ในวาระแห่งการพิพากษาที่จะมาถึงอย่างฉับพลัน โนอาห์รอคอยน้ำท่วมใหญ่ โลทรอเวลาแห่งการพิพากษาที่จะตกใส่โสโดมและโกโมราห์ เมืองที่ท่านอาศัยอยู่ อย่างไรก็ตาม โลทไม่ได้เข้าไปแตะต้องชีวิตของคนในครอบครัวเหมือนโนอาห์ ปัญหาของโลทคือท่านยอมประนีประนอม ท่านลดมาตรฐานตนเองลงมาเพื่อให้ชีวิตง่ายขึ้น
วันหนึ่งทูตของพระเจ้ามาหาโลท บอกท่านว่าให้รีบออกไปจากที่นั่นพร้อมกับครอบครัว เพราะการพิพากษากำลังจะตกลงมาเหนือเมืองนั้นแล้ว แต่เมื่อโลทไปบอกกับว่าที่ลูกเขยทั้งสอง พวกเขาคิดว่าท่านล้อเล่น
โลท ภรรยา และลูกสาวทั้งสอง รีรอจนทูตของพระเจ้าแทบจะลากตัวออกมา และนี่คือสิ่งที่พระเยซูตรัส “จงระลึกถึงภรรยาของโลทเถิด” (ลูกา 17:32 THSV11) เพราะขณะที่นางกำลังออกจากโสโดม นางถูกสั่งไม่ให้หันกลับไปดู แต่นางก็ทำ ในภาษาดั้งเดิม คำที่ใช้อธิบายการหันกลับไปดูของนางไม่ได้บอกว่ามองแป๊บเดียว แต่น่าจะมองด้วยความอาวรณ์
คุณเคยมองใคร หรือมองสิ่งใดด้วยสายตาอาวรณ์หรือไม่? ตัวอย่างเช่นคุณไปที่ร้านขายโดนัทคริสปี้ครีม พอไฟเปิดและคุณเห็นโดนัทที่เคลือบเกล็ดน้ำตาลแวววาวค่อยๆผ่านสายพานออกมา แต่คุณถูกสั่งห้ามทาน ทำนองเดียวกับที่ภรรยาของโลทมองไปที่โสโดมและโกโมราห์ แล้วนางก็กลายเป็นเสาเกลือ
ผมพบว่ามันน่าสนใจเมื่อโนอาห์บอกกับครอบครัว พวกเขาทำตาม แต่โลทบอกกับครอบครัว พวกเขากลับหัวเราะ คุณล่ะครับ สร้างผลกระทบใดให้กับครอบครัวบ้าง? คำพูดในฐานะพ่อแม่ของคุณศักดิ์สิทธิแค่ไหน?
คนที่เปลี่ยนแปลงโลกจะดึงดูดครอบครัวให้มาถึงพระคริสต์ แต่คนที่ถูกโลกเปลี่ยนแปลงจะดึงครอบครัวให้ออกห่างจากพระองค์
เราต่างก็เคยผ่านเวลาที่รีรอ เวลาที่หน้าอย่างหลังอย่าง แต่ลูกๆของเรากำลังเฝ้าดู พวกเขากำลังยึดเราเป็นแบบอย่าง ดังนั้นจงเป็นแบบอย่างที่ดีให้พวกเขา
คุณดึงดูดครอบครัวมาสู่พระคริสต์ หรือกำลังดึงพวกเขาออกห่างครับ?
โดย: Pastor Greg Laurie
อนุญาตโดย Harvest Ministries with Greg Laurie
PO Box 4000,Riverside,CA92514
(Cr.ภาพ ArtStation)