รอดจากพายุ
ขณะกำลังแล่นไปนั้นพระองค์บรรทมหลับ และเกิดพายุหนักขึ้นกลางทะเล น้ำก็ทะลักเข้าเรือจนทุกคนตกอยู่ในอันตราย พวกเขาจึงมาปลุกพระองค์ร้องว่า “พระอาจารย์ พระอาจารย์ เรากำลังจะจมน้ำตาย” พระองค์จึงทรงตื่นขึ้นห้ามลมและคลื่น แล้วคลื่นลมก็หยุดเงียบสงบ พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “ความเชื่อของท่านทั้งหลายอยู่ที่ไหน?” เขาก็กลัวและอัศจรรย์ใจพูดกันว่า “ท่านผู้นี้เป็นใครนะ ถึงสั่งลมกับน้ำได้ และมันก็เชื่อฟังท่าน?” (ลูกา 8:23-25THSV11)
ฉันเกลียดพายุ แต่ก็ดูเหมือนเพิ่งผ่านพายุมา ฉันเคยตกอยู่ในท่ามกลางพายุ เคยเห็นเมฆดำทมึนรออยู่ข้างหน้า พายุคือความเป็นจริงของชีวิต ฉันชอบคิดเสมอว่าพายุคือสิ่งเลวร้าย จนกระทั่งเมื่อได้มองย้อนกลับไปในชีวิต และเห็นในสิ่งที่พระเจ้าทรงทำเพื่อฉันในท่ามกลางพายุนั้น
บางครั้งพายุก็เกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว เป็นอุปสรรคบนเส้นทางชีวิต และบางครั้งก็เป็นประตูไปสู่สิ่งใหม่ๆ ทำให้ฉันเรียนรู้จักพระเจ้าขึ้นไปในอีกระดับ และใกล้ชิดพระองค์มากกว่าเดิม เคยคิดว่าพายุทุกลูกเป็นการลงโทษในสิ่งที่ฉันเคยทำมาในอดีต
พระเยซูและพวกสาวกได้เลี้ยงอาหารคนนับพันๆด้วยปลาไม่กี่ตัวและขนมปังไม่กี่ก้อน เมื่อการอัศจรรย์จบลง ทุกอย่างก็เหมือนฝัน พระเยซูตรัสสั่งให้พวกสาวกลงเรือพายข้ามทะเลไป พระองค์ทราบดีว่าพายุกำลังมา ทรงส่งพวกเขาให้ไปอยู่ในท่ามกลางพายุนั้น ถ้าคุณเองกำลังตกอยู่ในพายุ พระเจ้าอาจมีพระประสงค์บางอย่างให้คุณ
พระเจ้าไม่ได้ส่งให้คุณไปจมน้ำ พระองค์มีบางสิ่งที่อยากมอบให้ในพายุนั้น ฉันแน่ใจว่าพวกสาวกยังอยากอยู่ที่ฝั่งฟังคำเยินยอจากผู้คน แต่พระเจ้ามีบางสิ่งจะสอนพวกเขา – บทเรียนที่ไม่อาจเรียนรู้จากบนฝั่ง บทเรียนบางบทที่มีอยู่ในพายุชีวิตเท่านั้น – ในความมืดมิด เราจะเรียนรู้บางสิ่งที่ไม่อาจเรียนได้ในความสว่าง
ยอมรับว่าบางทีฉันเองก็ก่อพายุขึ้นมา – พายุที่พระเจ้าไม่ได้มีพระประสงค์ให้ต้องเผชิญ เราตัดสินใจโง่ๆเอง เอาตัวเข้าไปอยู่ในความสัมพันธ์ที่ไม่ถูกต้อง ปฏิเสธไม่ทำสิ่งที่พระเจ้าต้องการให้ทำ เราสงสัยในความสัตย์ซื่อของพระเจ้า มีคำถามในแผนการของพระองค์ แต่ … พระเจ้าก็ยังทรงเป็นพระเจ้า เป็นพระเจ้าที่ตัดสินใจถูกต้องเพื่อเรา และทรงอยู่กับเราในท่ามกลางพายุร้ายที่เราก่อขึ้นเอง นี่คือคุณความดีของพระเจ้า เป็นหัวใจของพระธรรมโรม 8:28 “เรารู้ว่าเหตุการณ์ทุกอย่างร่วมกันก่อผลดีแก่คนที่รักพระเจ้า คือแก่คนทั้งหลายที่พระองค์ทรงเรียกตามพระประสงค์ของพระองค์” (THSV11)
คำว่า “ทุกอย่าง” ในพระคำข้อนี้คือทุกๆประสบการณ์ที่เราผ่านหรือกำลังจะเผชิญในชีวิต – ไม่ว่าดีหรือร้าย ถูกหรือผิด ในท่ามกลางพายุคะนอง หรือในน้ำใสที่สงบนิ่ง แน่นอนไม่มีสิ่งใดหรือผู้ใดมาแยกเราออกจากความรักของพระเจ้าได้
หลายปีที่ผ่านมา ฉันได้เรียนรู้ความจริงที่สำคัญเกี่ยวกับพายุและความเจ็บปวดและจุดหมายที่มีในพายุนั้น พระเจ้าไม่ได้มีหน้าที่คอยทำให้ฉันสะดวกสบาย แต่มีพระประสงค์สร้างคุณลักษณะและท่าทีของฉันขึ้นใหม่ ฉันต้องยอมให้พระเจ้าเป็นพระเจ้าในชีวิต เลือกที่จะวางใจในพระองค์ไม่ว่าจะเกิดอะไรก็ตาม ต้องหยุดเอาความรู้สึกมานำหน้า แต่ให้พระเจ้าและความเชื่อในพระวจนะนำไป แม้มองไม่เห็นหนทาง แต่ก็ยินดีเชื่อฟังและก้าวออกไป และนี่คืออุปกรณ์ช่วยชีวิตในท่ามกลางพายุของคุณ:
เพราะข้าพเจ้าแน่ใจว่า แม้ความตาย หรือชีวิต หรือบรรดาทูตสวรรค์ หรือเทพเจ้า หรือสิ่งซึ่งมีอยู่ในปัจจุบันนี้ หรือสิ่งซึ่งจะมีในภายหน้า หรือฤทธิ์เดชทั้งหลาย หรือซึ่งสูง หรือซึ่งลึก หรือสิ่งใดๆ อื่นที่ได้ทรงสร้างแล้วนั้น จะไม่สามารถทำให้เราขาดจากความรักของพระเจ้า ซึ่งมีอยู่ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราได้ (โรม 8:38-39 THSV11)
ครั้งต่อไปที่เผชิญพายุ ให้มีคำตอบแทนคำถาม มีความกล้าแทนความกลัว ไม่ว่าจะมืดมิดแค่ไหน ความจริงคือพระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าผู้ควบคุมอยู่เหนือทุกสิ่งในชีวิตคุณ
โดย Mary Southerland
อนุญาตโดย Girlfriends in God – www.crosswalk.com
(Cr. ภาพ Flickr.com)