แตกหักเกินซ่อมแซม
ข้าแต่พระยาห์เวห์ บัดนี้พระองค์ยังเป็นพระบิดาของพวกข้าพระองค์ ข้าพระองค์ทั้งหลายเป็นดินเหนียว และพระองค์ทรงเป็นช่างปั้น ข้าพระองค์ทุกคนเป็นผลงานของพระหัตถ์พระองค์ (อิสยาห์ 64:8 THSV11)
คุณมีส่วนใดในหัวใจที่แตกหักอยู่หรือไม่? ฉันเข้าใจความรู้สึกที่ทุกข์ใจนั้นดี
มีเรื่องราวมหัศจรรย์ของคริสเตียนที่อยากจะเล่าให้ฟัง เป็นเรื่องเกี่ยวกับการนำชิ้นส่วนที่แตกหักมาประกอบขึ้นใหม่ และให้ความสว่างของพระเจ้าส่องผ่านรอยร้าวเหล่านั้นออกไป เป็นเรื่องที่สวยงาม
ถ้าสิ่งนั้นไม่เพียงแค่แตกหัก…แต่แตกละเอียดกลายเป็นผุยผงเกินกว่าจะซ่อมแซม ถ้าแตกเป็นชิ้นยังพอมีหวังนำมาทากาวติดกลับเข้าไปใหม่ แต่ถ้าไม่เหลือเป็นชิ้นให้เก็บ คุณก็ไม่อาจนำเศษฝุ่นนั้นมาทากาวได้ แค่กอบใส่มือยังยาก สิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของมีค่าตอนนี้เหลือแค่เศษผง ถูกลมพัดก็ปลิวหาย เราจึงรู้สึกสิ้นหวัง รู้สึกว่าพระสัญญาของพระเจ้าไม่เป็นจริงสำหรับเรา พระองค์อยู่ไกลเกินไปและไม่อาจฝ่าวงล้อมความมืดมาหาเราได้
สองสามปีที่ผ่านมา ฉันเองก็ตกอยู่ในฤดูกาลแห่งผุยผงนี้ และถ้าเรามีโอกาสได้นั่งคุยกัน ฉันคิดว่าคุณเองก็คงมีเรื่องราวที่ใกล้เคียงกันมาแบ่งปัน เราต่างเหมือนกัน เราต่างมีน้ำตา แม้เรื่องราวอาจไม่เหมือนกัน แต่เราต่างก็ต้องการให้พระเจ้าเข้ามาแก้ไข มาเปลี่ยนเรื่องราวของเรา มาซ่อมแซมหัวใจของเราให้จบลงอย่างสวยงามในแบบที่เราต้องการ
แต่ถ้าพระเจ้าไม่ซ่อมแซม ไม่เปลี่ยนแปลงและสร้างเราขึ้นมาใหม่อย่างที่เราต้องการ นั่นอาจไม่ใช่น้ำพระทัย ถ้าพระเจ้าต้องการจะสร้างเราขึ้นมาใหม่อย่างสิ้นเชิง ในขณะที่เรายังอยู่ในฟากนี้ของนิรันดร์กาล ไม่ว่าสถานการณ์จะดูยากแค่ไหน แล้วเราควรทำอย่างไร?
ขอบอกว่า สำหรับพระเจ้าแล้ว เศษผงนี่แหละคือส่วนผสมในแบบที่พระองค์ต้องการ
แต่เราชอบคิดว่าชิ้นส่วนที่แตกหักนี้จะทำให้เป็นสิ่งดีได้อย่างไร ฝุ่นผงก็คือสภาพดั้งเดิมก่อนถูกสร้างขึ้นมา เราอาจมองว่าฝุ่นผงนี้เป็นน้ำมือของความอธรรม หรือมองว่าเป็นส่วนผสมชั้นดีที่จะสร้างเราขึ้นใหม่ คิดถึงน้ำแข็ง มันจะคงรูปเป็นก้อนอยู่ในถาดน้ำแข็งในตู้เย็น เป็นแค่ก้อนน้ำแข็ง แต่ถ้าละลายเราสามารถนำไปใส่ลงในเบ้า และทำให้แข็งกลับขึ้นมาเป็นรูปร่างใหม่ที่สวยงาม ฝุ่นก็เหมือนกัน เป็นส่วนผสมพื้นฐานที่มีศักยภาพทำเป็นสิ่งใหม่ได้
จากสิ่งต่างๆที่พระเจ้าเนรมิตสร้าง พระองค์จะเลือกอะไรก็ได้มาสร้างเป็นมนุษย์ แต่พระองค์ทรงเลือกฝุ่นผง “พระยาห์เวห์พระเจ้าทรงปั้นมนุษย์ด้วยผงคลีจากพื้นดิน ระบายลมปราณเข้าทางจมูกของเขา มนุษย์จึงกลายเป็นผู้มีชีวิตอยู่” (ปฐมกาล 2:7 THSV11)
พระเยซูทรงใช้ฝุ่นบนพื้นมารักษาชายตาบอด พระองค์ตรัสว่า “ตราบใดที่เรายังอยู่ในโลก เราก็เป็นความสว่างของโลก” เมื่อตรัสอย่างนั้นแล้ว พระองค์ก็ทรงบ้วนน้ำลายลงที่ดิน แล้วทรงเอาน้ำลายนั้นทำเป็นโคลนทาที่ตาของคนตาบอด (ยอห์น 9:5-6 THSV11) และเมื่อเขาไปล้างตาในสระสิโลอัม เขาก็มองเห็น เมื่อเรานำฝุ่นมาผสมน้ำก็จะกลายเป็นดินโคลน เมื่อนำโคลนไปให้ช่างปั้น เขาก็จะสร้างผลงานที่งดงามขึ้นมาได้
ข้าแต่พระยาห์เวห์ บัดนี้พระองค์ยังเป็นพระบิดาของพวกข้าพระองค์ ข้าพระองค์ทั้งหลายเป็นดินเหนียว และพระองค์ทรงเป็นช่างปั้น ข้าพระองค์ทุกคนเป็นผลงานของพระหัตถ์พระองค์ (อิสยาห์ 64:8 THSV11)
“พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย เราจะทำแก่เจ้าอย่างที่ช่างปั้นหม้อนี้ทำไม่ได้หรือ?” พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ นี่แน่ะ พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย เจ้าอยู่ในมือของเรา อย่างดินเหนียวอยู่ในมือของช่างปั้นหม้อ (เยเรมีย์ 18:6 THSV11)
ฝุ่นยังไม่ใช่จุดจบ แต่สามารถเป็นจุดเริ่มของสิ่งใหม่ๆ แค่นำมาไว้ในพระหัตถ์ของพระเจ้า พระองค์จะทรงทำสิ่งมหัศจรรย์ที่สวยงามให้เกิดขึ้นได้ คุณเชื่อหรือไม่?
โดย Lysa Terkeurse
จาก Encouragement for Today : www.crosswalk.com
(Cr,ภาพ wallpaperUp.com)