ทำไมเราต้องเป็นพยาน?
“When brothers and sisters in Christ unite in the common bond of the Word of God and prayer, they are strengthened in their faith and witness.”
“เมื่อคริสเตียนชายหญิงผูกพันเป็นหนึ่งเดียวกันในพระวจนะของพระเจ้าและการอธิษฐาน พวกเขากำลังรับการเสริมสร้างให้เข้มแข็งขึ้นในความเชื่อศรัทธา และการเป็นพยานของพวกเขา” ― Billy Graham
ในศาล หากเราถูกเรียกตัวให้เป็นพยาน เราจะยอมเป็นพยานหรือไม่?
จะเกิดอะไรขึ้นหากว่าเราไม่ยอมไปเป็นพยานตามที่ถูกเรียก?
ผู้รู้บอกว่า คดีอาญาถ้าคุณไม่ไปเป็นพยานในศาลเมื่อมีหมายเรียกมาถึง คุณก็มีโอกาสที่อาจติดคุกได้ การขัดขืนหมายเรียกของศาลที่ให้ไปให้ถ้อยคำหรือเบิกความเป็นพยาน มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 170 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากในกรณีที่ไม่สะดวกไปในวันที่ศาลนัด ก็มีคำแนะนำให้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ที่ศาลเพื่อขอเลื่อนนัด โดยการชี้แจงเหตุผลถึงข้อจำเป็นที่ขอเลื่อนนัดศาล ส่วนศาลจะพิจารณาอนุญาตหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลท่าน หากเราไม่ต้องการจะไปเป็นพยาน เราต้องยื่นคำร้องต่อศาลก่อนถึงวันเบิกความว่าไม่สามารถไปได้เพราะอะไร หรือติดต่อกลับไปที่อัยการเจ้าของสำนวน หากเป็นพยานปากสำคัญ ศาลจะเลื่อนให้ แต่ถ้าไม่สำคัญ ศาลอาจตัดพยานปากนี้ทิ้งไปเลย
มีคำเตือนว่า ถ้าคุณหายไปเฉยๆ ไม่แจ้ง ไม่ไปเป็นพยาน คุณอาจโดนออกหมายจับก็ได้ ฟังแล้วน่ากลัวใช่ไหมครับ สำหรับคนที่เลี่ยงหลีกหลบไม่ยอมไปเป็นพยานให้ศาล แล้วอย่างนั้นคนที่หลบหลีก หรือเลี่ยงหนีไม่ยอมไปเป็นพยานให้พระเจ้าตามหมายที่บัญชา ผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไรหนอ?
ในพระคัมภีร์บอกอะไรเราบ้าง ในเรื่องการเป็นพยานให้องค์พระเยซูคริสต์?
1. เราได้รับบัญชาให้ออกไปเป็นพยานให้พระองค์
- มธ.28:19 “เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงออกไปและนำชนทุกชาติมาเป็นสาวกของเรา จงบัพติศมาพวกเขาในพระนามของพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์”
- อสค.3:11 “จงไปเถอะ เจ้าจงไปหาพวกที่เป็นเชลยคือชนชาติของเจ้านั้น จงพูดกับเขาทั้งหลาย และกล่าวกับพวกเขาว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสดังนี้’ ไม่ว่าพวกเขาจะฟังหรือปฏิเสธก็ตาม”
2.เราต้องรักต่อคนที่อยู่ในความมืดที่ไม่รู้เรื่องความรอดทางพระคริสต์โดยออกไปเป็นพยานให้เขารับรู้
- ยน3:16 “พระเจ้าทรงรักโลกดังนี้ คือได้ประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์”
- 2คร4:4 “คือในกรณีของพวกเขา พระของยุคนี้ได้ทำให้ความคิดของคนที่ไม่เชื่อมืดมนไป เพื่อไม่ให้เห็นความสว่างของข่าวประเสริฐ คือเรื่องพระสิริของพระคริสต์ผู้ทรงเป็นพระฉายาของพระเจ้า”
3.เราต้องออกไปเป็นพยาน เพราะเป็นสิ่งฉลาดที่จะทำเช่นนั้นในการได้คนมาหาพระเจ้า
- สภษ11:30 “ผลของคนชอบธรรมคือต้นไม้แห่งชีวิต คนมีปัญญาย่อมได้คนจำนวนมาก”
4.เราต้องออกไปเป็นพยานเพราะเป็นสิ่งที่จะทำให้คนรับฟังและคนรับรู้ยินดีเมื่อมีคนกลับใจใหม่
- ลก15:10 “ในทำนองเดียวกัน เราบอกท่านทั้งหลายว่า จะมีความชื่นชมยินดีท่ามกลางพวกทูตสวรรค์ของพระเจ้าเรื่องคนบาปคนเดียวที่กลับใจใหม่”
5.เราต้องออกไปเป็นพยานให้คนเชื่อและรอด เพื่อเขาจะร่วมสามัคคีธรรมในความรักกับพระคริสต์เจ้า
- 1ยน1:3 “สิ่งที่เราได้เห็นและได้ยินนั้น เราก็ประกาศให้พวกท่านรู้ด้วย เพื่อท่านจะได้มีสามัคคีธรรมกับเรา และเราก็มีสามัคคีธรรมกับพระบิดา และกับพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระองค์”
6.เราต้องออกไปเป็นพยานเพื่อเราจะไม่ต้องรับโทษจากการไม่ปฏิบัติตามการมอบหมายและการทรงเรียกของพระเจ้า
- 1คร9:16 “เพราะว่าถ้าข้าพเจ้าประกาศข่าวประเสริฐ ข้าพเจ้าก็ไม่มีเหตุที่จะอวดได้ เพราะว่าข้าพเจ้าจำต้องทำ และถ้าไม่ประกาศ วิบัติจะเกิดกับข้าพเจ้า”
7. เราต้องออกไปเป็นพยานเพราะเป็นสิ่งที่ทำให้พระเจ้าพอพระทัย และถวายเกียรติแด่พระองค์
- 1คร10:31 “เพราะฉะนั้นเมื่อพวกท่านจะรับประทาน จะดื่ม หรือจะทำอะไรก็ตาม จงทำเพื่อถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า
- 1ทธ2:3-4 “การกระทำเช่นนี้เป็นการดี และเป็นที่ชอบพระทัยของพระเจ้าพระผู้ช่วยให้รอดของเรา พระองค์ทรงประสงค์ให้ทุกคนได้รับความรอดและรู้ความจริง”
8.เราต้องออกไปเป็นพยาน เพื่อพระเยซูคริสต์จะเสด็จมาในยามที่คนในโลกนี้ได้รับฟังคำพยานเรื่องข่าวดีนี้แล้ว
- มธ24:14 “ข่าวประเสริฐเรื่องแผ่นดินของพระเจ้านี้จะถูกประกาศไปทั่วโลก ให้เป็นคำพยานแก่บรรดาประชาชาติ แล้วที่สุดปลายจะมาถึง”
9.เราต้องออกไปเป็นพยานเรื่องพระคริสต์ เพราะจะทำให้เราเจริญเติบโตเกิดผลมากในฝ่ายจิตวิญญาณ
- ฟม1:6 “ข้าพเจ้าอธิษฐานขอให้การที่ท่านมีส่วนร่วมในความเชื่อจะเกิดผลมากในความรู้ซึ้งถึงสิ่งดีทุกอย่าง ที่เรามีในพระคริสต์”
10.เราต้องเป็นพยานเรื่องพระคริสต์ด้วยฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์
- กจ1:8 “แต่พวกท่านจะได้รับพระราชทานฤทธานุภาพ เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จมาเหนือท่าน และท่านทั้งหลายจะเป็นสักขีพยานของเราในกรุงเยรูซาเล็ม ทั่วแคว้นยูเดีย ทั่วแคว้นสะมาเรีย และจนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก”
พี่น้องที่รัก !
ขอให้เราเข้มแข็งขึ้นในศรัทธาที่เรามีต่อพระเจ้าและเชื่อมั่นในฤทธิ์เดชแห่งข่าวประเสริฐของพระองค์ ขอให้เราหลอมรวมเป็นหนึ่งกับพระเจ้า และพระวจนะของพระองค์ ผ่านการอ่านและคิดใคร่ครวญภาวนาพระดำรัสของพระองค์ และการออกไปเป็นพยานแก่ผู้อื่นด้วยใจกล้าทั้งด้วยคำพูดและการประพฤติในชีวิตประจำวันของเรา
…จะดีไหม?
-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-
twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/lifeanswer, facebook.com/lifeanswer
(Cr.ภาพ Shutterstock)