หมดหน้าตัก
“พระบัญญัติของพระองค์ทำให้ข้าพระองค์ฉลาดกว่าศัตรูของข้าพระองค์ เพราะพระบัญญัตินั้นอยู่กับข้าพระองค์เป็นนิตย์ ข้าพระองค์ฉลาดกว่าครูทั้งหมดของข้าพระองค์ เพราะพระโอวาทของพระองค์เป็นคำภาวนาของข้าพระองค์ ข้าพระองค์เข้าใจมากกว่าผู้อาวุโส เพราะข้าพระองค์รักษาข้อบังคับของพระองค์” (สดุดี 119: 98-100 THSV2011)
คนรุ่นคุณย่าคุณยายจะรู้จักกับคำว่า “หมดหน้าตัก” เป็นอย่างดี เพราะหมายถึงการเข้าสมาคม “รำพัด” ซึ่งสมาชิกจะอดหลับอดนอนรำพัดกันข้ามวันข้ามคืนจนลืมคนที่บ้านสิ้น สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในสมาคมนี้คือ “ทุนหน้าตัก” ทุนหน้าตักนี้จะไม่นิ่ง จะขี้นลงตลอดเวลา มีบางเวลาที่ทุนนี้หนาแน่นไปจนถึง “หมดหน้าตัก” ถ้าไม่ทันระวัง หมดหน้าตักขึ้นมาเมื่อไร แปลว่าชีวิตเจ้าของตักกำลังตกที่นั่งลำบาก
เมื่อโลกเข้าสู่โหมดดิจิตัล สมาคมรำพัดและกองทุนหน้าตักก็เริ่มจางหายเปลี่ยนรูปแบบไป คำว่า “หมดหน้าตัก” จึงถูกนำมาใช้เปรียบเทียบในเรื่องอื่นๆ เช่นทุนในการดำเนินชีวิต อาจเป็นทุนเดิมที่มี หรือที่ไขว่คว้าหามาเอง หนึ่งในนั้นคือการเสาะหาและสั่งสมความรู้ในศาสตร์และวิทยาการต่างๆ เพื่อพรักพร้อมนำมาใช้และแบ่งปันออกสู่คนรุ่นต่อๆไป
ในฐานะผู้รับใช้ของพระเยซูคริสต์ เราต้องสั่งสมคำสอน พระวจนะ และประสบการณ์ชีวิตที่ได้ติดตามพระเยซูคริสต์ ผู้รับใช้ของพระเยซูต้องไม่หยุดนิ่ง ต้องนำหน้าศัตรูหรือก้าวทันแผนการของมันเสมอ ต้องแบ่งปันสิ่งที่ได้รับมาไปสู่ผู้เชื่อรุ่นใหม่ สามารถตอบคำถามผู้สนใจ ถ้าผู้รับใช้ของพระเยซูมีอาการ “หมดหน้าตัก” เมื่อไร ก็อาจแพ้ภัย หมดสิ่งดีที่จะแบ่งปันออกไป กลายเป็นผู้รับใช้ที่ไร้ผลในแผ่นดินของพระเจ้า
วันนี้ที่หน้าตักของคุณมีเหลืออยู่มากน้อยแค่ไหน?
บทเฝ้าเดี่ยวโดยทีม Vitamin CJ
(Cr.ภาพ ChurchArt)