นักศึกษาห้อง “คิง”
และเมื่อท่านอธิษฐาน ไม่ต้องพูดพร่ำซ้ำซากเหมือนคนต่างศาสนา เพราะเขาคิดว่าพูดมากๆ พระจึงจะได้ยิน (มัทธิว 6:7 TNCV)
คิดภาพคุณกำลังเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยมีชื่อแห่งหนึ่ง คุณมีโอกาสได้เรียนรู้จากผู้ทรงคุณวุฒิชั้นยอดจากหลากหลายสาขาวิชา คุณได้เรียนดนตรีภายใต้อิทธิพลของบีโทเวน เรียนรัฐศาสตร์จากโธมัส เจฟเฟอร์สัน การละครจากเชคสเปียร์ วิชาปรัชญาจาก ซี เอส ลูวิส หรือห้องเรียน “เรื่องการอธิษฐาน” จากพระเยซูคริสต์?
เรียนรู้เรื่องการอธิษฐานจะมีผู้ใดสอนได้ดีไปกว่าพระเจ้าของเรา?
พระเจ้าทรงสอนเราถึงวิธีที่เราควรพูดคุยกับพระองค์ นี่เป็นห้องเรียนที่เรียกได้ว่า “ห้องคิง” ในมัทธิว 6:9–13 พระเยซูสอนเราเรื่องการอธิษฐาน ที่จริงในพระคัมภีร์ไม่ได้บันทึกว่าเป็นคำอธิษฐานของพระเยซู แต่เป็นชื่อที่ใช้เรียกเพื่อให้เราเข้าใจตรงกัน อย่างไรก็ตาม นี่เป็นคำอธิษฐานที่พระเยซูไม่ได้ใช้เพื่อพระองค์เอง เพราะมีคำที่ทูลขอว่า “และขอทรงยกบาปผิดของพวกข้าพระองค์” (ข้อ 12 THSV11)
นี่คือคำอธิษฐานสำหรับพวกเรา เป็นต้นแบบการอธิษฐาน และเราควรทำความเข้าใจให้ดี แม้ไม่มีอะไรผิดเกี่ยวกับการอธิษฐานด้วยคำอธิษฐานนี้ทีละคำ เพราะนี่คือต้นแบบการอธิษฐานของเรา พระเยซูกำลังบอกว่า “ถ้าต้องการให้คำอธิษฐานมีผลให้พระเจ้าฟัง พวกเจ้าต้องอธิษฐานในแบบนี้”
ปัญหาเรื่องคำอธิษฐานของพระเยซูไม่ได้อยู่ที่คำอธิษฐาน แต่อยู่ที่เรา เราอาจตัดบางถ้อยคำมาใช้มากกว่าถ้อยคำอื่นๆ และใช้กันมาตลอดประวัติศาสตร์ ความยากคือถ้อยคำพวกนี้เราฟังกันจนชิน เราท่องถ้อยคำเหล่านี้ซ้ำๆจนผ่านเลยหูเราไป
เราต้องช้าลง และค่อยๆนำแต่ละถ้อยคำมาพิจารณา ทุกถ้อยคำที่พระเยซูสอนทรงมีพระประสงค์ ทุกวลีมีความหมาย การเรียงลำดับก็มีนัยสำคัญ เพราะทุกถ้อยคำนั้นคือบทเรียนเรื่องการอธิษฐานที่พระเจ้าทรงประทานให้พวกเรา
ในฐานะนักศึกษาห้องคิง เราเรียนรู้เรื่องใดในคำอธิษฐานของพระเยซู?
โดย: Pastor Greg Laurie
อนุญาตโดย Harvest Ministries with Greg Laurie
PO Box 4000,Riverside,CA92514
(Cr.ภาพ ThoughtCo)