ถ้าจะรับใช้ เราควรรับใช้แบบไหน?
“มือของเจ้าจับงานอะไร ก็จงทำการนั้นด้วยเต็มกำลัง เพราะในแดนคนตายที่เจ้าจะไปนั้นไม่มีการงาน หรือความคิด หรือความรู้ หรือปัญญา” –ปัญญาจารย์ 9:10 THSV11
การทำงาน หรือ การรับใช้อย่างทุ่มเทจริงจัง เต็มกำลังนั้นเป็นสิ่งที่สวยงาม แต่แรงจูงใจในการทำงานหนัก หรือ การรับใช้นั้น อาจเป็นแรงจูงใจที่ดีหรือไม่ดีก็ได้
มนุษย์อย่างเราอาจมองไม่เห็นหรือแยกแยะไม่ออก แต่พระเจ้าทรงทอดพระเนตรเห็นถึงก้นบึ้งแห่งแรงจูงใจของเราอย่างชัดเจน แบบที่เราไม่มีทางปิดซ่อนให้พ้นจากสายพระเนตรของพระองค์ได้เลย ไม่ว่าเราจะพยายามปิดหรือซ่อนไว้อย่างลึกลับซับซ้อนมากสักเพียงใดก็ตาม ดังนั้น เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องพยายามปิดซ่อนแรงจูงใจของเราให้เหนื่อยยากลำบากอย่างไร้ประโยชน์ เราควรจะทุ่มเทกระทำแต่เฉพาะสิ่งที่ไม่อายฟ้าอายดิน ทั้งต่อสายพระเนตรของพระเจ้าและในสายตาของมนุษย์ทั้งปวงจะดีกว่า
เราควรทำงานหรือรับใช้ด้วยความรัก ความยินดี อย่างมีจิตเสรี และอย่างสุดจิตสุดใจ ดังที่ Pearl S. Buck กล่าวไว้ว่า…
“To serve is beautiful, but only if it is done with joy and a whole heart and a free mind.”
(การรับใช้เป็นสิ่งสวยงาม ก็ต่อเมื่อได้กระทำด้วยความยินดี อย่างสุดใจ และ ด้วยจิตที่มีเสรี)
เคล็ดลับแห่งความสำเร็จที่แท้จริง อยู่ที่การที่เราใส่ใจ ความคิด สติปัญญา และจิตวิญญาณของเราลงไปในสิ่งที่เรากระทำ (ไม่ว่าสิ่งนั้นจะดูเล็กน้อยที่สุดสักเพียงใดก็ตาม) แต่สิ่งสำคัญที่ต้องย้ำอีกครั้งก็คือว่า การรับใช้ของเราจะยิ่งงดงาม และมีพลังเกิดผลมากยิ่งขึ้น ก็ต่อเมื่อเรารับใช้ด้วยการมีความรักของพระเจ้าเป็นแรงบันดาลใจในการปรนนิบัติผู้อื่น เพราะความรักของพระเจ้านอกจากสวยงามแล้วยังเปี่ยมด้วยพลังอันไม่รู้จบ
ดังที่ Martin Luther King Jr.กล่าวว่า…
“Love is the most durable power in the world.”
(ความรัก คือพลังอำนาจที่ทนทานมากที่สุดในโลก!)
ท่านมาร์ติน ลูเธอร์ คิง ยังกล่าวอีกว่า…
“To serve you only need a heart full of grace and a soul generated by love.”
(ในการรับใช้ คุณเพียงต้องการ หัวใจที่เต็มด้วยพระคุณ และ จิตวิญญาณที่เปี่ยมด้วยความรัก)
ดังนั้น หากคุณคิดจะรับใช้หรือกำลังรับใช้ และไม่มีความรัก ก็ขออย่ารับใช้ต่อไปเลย เพราะในไม่ช้าก็จะลงเอยหรือจบลงที่ความขมขื่นใจ ความเจ็บปวดเสียใจ และความเสียหายแก่ทุกคนที่เกี่ยวข้อง แต่หากคุณปรารถนาที่จะรับใช้ จงรับใช้ตามที่พระเจ้าทรงปรารถนา นั่นคือจงรับใช้ด้วยแรงจูงใจแห่งความรักที่ปราศจากเงื่อนไขซึ่งมาจากพระเจ้าโดยการทุ่มเทกระทำกุศลกิจนั้นอย่างสุดใจและต่อเนื่องจนกว่าองค์พระคริสต์จะเสด็จกลับมา หรือจนกว่าพระคริสต์จะทรงรับเราไปอยู่กับพระองค์
…เห็นด้วยกับผมไหมครับ?
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-
twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/lifeanswer, facebook.com/lifeanswer
(Cr.ภาพ Freepik)