Categories
Uncategorized

บทเรียนพระธรรมกิจการของอัครทูต บทเรียนที่ 7

อัครทูตถูกข่มเหง

พระธรรม        กิจการ 5:17-42

อ้างอิง            กจ2:46;4:1-3,18-21;10:39;13:29-32;15:5;22:3;ปฐก16:7;อพย1:17;3:2;ยน15:21;20:12;6:63,68;มธ5:2;มก16:19;ลก24:47-48;2พศด13:12;สภษ21:30

บทนำ             คนที่ปรารถนาติดตามพระเจ้าจะถูกข่มเหง อัครทูตก็เผชิญเช่นนั้นเมื่อพวกเขาติดตามพระคริสต์ แต่พวกเขากลับเห็นว่า นั่นเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับความอับอายเพื่อพระนามของพระองค์

บทเรียน

5:17 “มหาปุโรหิตและพรรคพวกคือพวกสะดูสีมีความอิจฉาอย่างยิ่ง 

        (But the high priest rose up, and all who were with him (that is, the party of the Sadducees), and filled  with Jealousy) 

5:18 “จึงจับพวกอัครทูตขังไว้ในคุกหลว”  

        (they arrested the apostles and put them in the public prison.) 

5:19 “แต่ในเวลากลางคืนทูตสวรรค์องค์หนึ่งขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาเปิดประตูคุกพาพวกอัครทูตออกไป และบอกว่า”

        (But during the night an angel of the Lord opened the prison doors and brought them out, and said)

5:20  “จงไปยืนในบริเวณพระวิหารประกาศบรรดาข้อความแห่งชีวิตใหม่นี้ให้ประชาชนฟัง” 

        (Go and stand in the temple and speak to the people all the words of this Life.)

5:21 “เมื่อพวกอัครทูตได้ยินเช่นนั้น ก็เข้าไปในบริเวณพระวิหารตอนรุ่งเช้าและสั่งสอน แต่มหาปุโรหิตกับพรรคพวกเรียกประชุมสภายิวและสมาชิกสภาทั้งหมดของคนอิสราเอล แล้วใช้คนไปที่คุกเพื่อพาพวกอัครทูตออกมา” 

       (And when they heard this, they entered the temple at daybreak and began to teach. Now when the high priest came, and those who were with him, they called together the council, all the senate of the people of Israel, and sent to the prison to have them brought. 

5:22  “พวกเจ้าหน้าที่ก็ไปแต่ไม่พบพวกอัครทูตในคุก จึงกลับมารายงานว่า”

        (But when the officers came, they did not find them in the prison, so they returned and reported) 

5:23  “เราเห็นคุกปิดอยู่แน่นหนามั่นคงและพวกยามยืนเฝ้าอยู่ตามประตู แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไป ไม่เห็นใครอยู่ข้างใน”

        (“We found the prison securely locked and the guards standing at the doors, but when we opened them we found no one inside.” )

5:24 “เมื่อหัวหน้ารักษาพระวิหารกับพวกหัวหน้าปุโรหิตได้ยินคำเหล่านี้ ก็ฉงนสนเท่ห์ในเรื่องของพวกอัครทูตว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป” 

       (Now when the captain of the temple and the chief priests heard these words, they were greatly perplexed about them, wondering what this would come to.)

5:25 “มีคนมาบอกพวกเขาว่า “นี่แน่ะ บรรดาคนที่ท่านทั้งหลายขังไว้ในคุกกำลังยืนสั่งสอนประชาชนอยู่ในบริเวณพระวิหาร” 

      (And someone came and told them, “Look! The men whom you put in prison are standing in the temple  and teaching the people.”) 

5:26 “แล้วหัวหน้ารักษาพระวิหารกับพวกเจ้าหน้าที่ก็ไปพาพวกอัครทูตมาโดยไม่ได้ทำอะไรรุนแรง เพราะกลัวว่าประชาชนจะเอาหินขว้าง”

      (Then the captain with the officers went and brought them, but not by force, for they were afraid of being stoned by the people.)

5:27 “เมื่อพวกเขาพาพวกอัครทูตมาแล้วก็ให้ยืนหน้าสภา มหาปุโรหิตจึงกล่าวว่า”

       (And when they had brought them, they set them before the council. And the high priest questioned them)

5:28  “เรากำชับพวกเจ้าอย่างแข็งขันแล้วว่าอย่าสอนโดยออกชื่อนี้ นี่แน่ะ พวกเจ้าทำให้คำสอนของพวกเจ้าแพร่ไปทั่วกรุงเยรูซาเล็มและต้องการให้ความผิดเรื่องการตายของคนนั้นตกอยู่กับเรา”

        (saying, “We strictly charged you not to teach in this name, yet here you have filled Jerusalem with  your teaching, and you intend to bring this man’s blood upon us.)

5:29 “เปโตรกับอัครทูตคนอื่นๆ ตอบว่า “เราจำเป็นต้องเชื่อฟังพระเจ้ามากกว่าเชื่อฟังมนุษย์” 

        (But Peter and the apostles answered, “We must obey God rather than men.) 

5:30 “พระเยซูผู้ซึ่งพวกท่านฆ่าเสียโดยแขวนไว้ที่ต้นไม้หมายถึง กางเขนนั้น พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของเราทรงให้เป็นขึ้นมาแล้ว”

       (The God of our fathers raised Jesus, whom you killed by hanging him on a tree.) 

5:31 “พระเจ้าทรงตั้งพระองค์ไว้ที่พระหัตถ์เบื้องขวาของพระองค์ ให้เป็นองค์พระผู้นำและองค์พระผู้ช่วยให้รอด เพื่อจะให้ชนอิสราเอลกลับใจใหม่ แล้วจะทรงอภัยบาปของเขาทั้งหลาย” 

       (God exalted him at his right hand as Leader and Savior, to give repentance to Israel and forgiveness of sins.) 

5:32 “เราคือสักขีพยานของเรื่องเหล่านี้ และพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่พระเจ้าประทานกับทุกคนที่เชื่อฟังพระองค์นั้นก็เป็นพยานด้วย

       (And we are witnesses to these things, and so is the Holy Spirit, whom God has given to those who obey him.”)

5:33 “เมื่อพวกเขาฟังแล้วก็โกรธมาก คิดกันว่าจะฆ่าพวกอัครทูตเสีย” 

       (When they heard this, they were enraged and wanted to kill them.) 

5:34 “แต่มีคนหนึ่งชื่อกามาลิเอล เป็นพวกฟาริสีและเป็นอาจารย์สอนธรรมบัญญัติ เป็นที่นับถือของประชาชน เขายืนขึ้นในสภาแล้วสั่งให้พาพวกอัครทูตออกไปข้างนอกครู่หนึ่ง” 

      (But a Pharisee in the council named Gamaliel, a teacher of the law held in honor by all the people, stood up and gave orders to put the men outside for a little while.) 

5:35 “ท่านกล่าวกับพวกเขาว่า “ท่านชนชาติอิสราเอล สิ่งที่ท่านทั้งหลายคิดจะทำกับคนเหล่านี้นั้น จงระวังให้ดี” 

      (And he said to them, “Men of Israel, take care what you are about to do with these men.) 

5:36 “เพราะก่อนหน้านี้มีคนหนึ่งชื่อธุดาสซึ่งอ้างตัวว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ มีผู้คนติดตามประมาณสี่ร้อยคน แต่ธุดาสถูกฆ่าและคนที่เป็นพรรคพวกก็กระจัดกระจายสาบสูญไป”

       (For before these days Theudas rose up, claiming to be somebody, and a number of men, about four hundred,  joined him. He was killed, and all who followed him were dispersed and came to nothing.) 

5:37 “ต่อจากคนนี้มีอีกคนหนึ่งชื่อยูดาส เป็นชาวกาลิลีปรากฏตัวขึ้นในช่วงที่มีการจดทะเบียนสำมะโนครัว เขาเกลี้ยกล่อมผู้คนให้ติดตามเขาไป และคนนั้นก็พินาศด้วย คนที่เป็นพรรคพวกก็กระจัดกระจาย”

      (After him Judas the Galilean rose up in the days of the census and drew away some of the people after him. He too perished, and all who followed him were scattered.) 

5:38 “เพราะฉะนั้นในกรณีนี้ ข้าพเจ้าจึงขอบอกพวกท่านว่า จงปล่อยคนเหล่านี้ไปตามเรื่อง อย่าทำอะไรพวกเขาเลย เพราะว่าถ้าความคิดหรือกิจการนี้มาจากมนุษย์ มันจะล่มสลายไปเอง”

      (So in the present case I tell you, keep away from these men and let them alone, for if this plan or this undertaking is of man, it will fail)

5:39 “แต่ถ้ามาจากพระเจ้า พวกท่านจะไม่สามารถทำลายพวกเขาได้ เกรงว่าพวกท่านกลับจะเป็นฝ่ายสู้รบกับพระเจ้า”

     (but if it is of God, you will not be able to overthrow them. You might even be found opposing God! “So they took his advice,)

5:40 “พวกเขาจึงยอมฟังกามาลิเอล และเมื่อเรียกพวกอัครทูตเข้ามาแล้ว ก็เฆี่ยนและกำชับไม่ให้สอนในนามของพระเยซูแล้วปล่อยไป” 

     (and when they had called in the apostles, they beat them and charged them not to speak in the name of Jesus, and let them go. )

5:41 “พวกอัครทูตจึงออกจากสภาไปด้วยความยินดี ที่พระเจ้าทรงนับว่าพวกเขามีค่าสมควรได้รับการหลู่เกียรติเพราะพระนามนั้น” 

     (Then they left the presence of the council, rejoicing that they were counted worthy to suffer dishonor for the name.) 

5:42 “พวกเขาสั่งสอนและประกาศว่าพระเยซูทรงเป็นพระคริสต์ทุกๆ วันไม่ได้ขาด ทั้งในบริเวณพระวิหารและตามบ้านเรือน”

     (And every day, in the temple and from house to house, they did not cease teaching and preaching that the Christ is Jesus.)

ข้อมูลมีประโยชน์


5:17     ”มหาปโรหิต” (high priest )
             -คายาฟาสเป็นมหาปุโรหิตที่โรมยอมรับอย่างเป็นทางการ แต่ชาวยิวถือว่าอันนาสพ่อตาของคายาฟาสเป็นมหาปุโรหิตตัวจริง เพราะตำแหน่งหน้าที่ปุโรหิตต้องเป็นตลอดชีวิต(4:6)
            “พรรคพวก”  (the party) =พวกพ้อง คือสมาชิกในครอบครัวของเขา
            “สะดูสี” (the Sadducees) -ดู4:1
5:18     ”คุกหลวง” (the public prison) = คุกสาธารณะ
            -ท่านถูกจับเพื่อรอการไต่สวนในวันถัดไป
5:19     ”ทูตสวรรค์องค์หนึ่งขององค์พระผู้เป็นเจ้า” ( an angel of the Lord)
            -วลีนี้ใช้ 4 ครั้งในกิจการ
                        1) 7:30-38 (สเทเฟนกล่าวถึง)
                        2) 8:26 (นำทางฟิลิป)
                        3) 12:7-10 (ช่วยเปโตร)
                        4) 12:23(ลงโทษเฮโรด)
                        -ปท.มธ1:20-24;2:13,19;28:2;ลก.1:11-38;2:9;ปฐก1:7;2พกษ.1:3;สดด.34:7;ศคย.1:8
5:20     ”ข้อความแห่งชีวิตใหม่” (the words of this Life)=ข่าวประเสริฐแห่งชีวิตนิรันดร์

             -ยน6:68;รม6:4;2คร5:17;ฟป1:21
5:21     ”สภายิว”  (the senate of the people of Israel,) =สภาแซนเฮดริน ซึ่งเป็นศาลสูงของยิว มีสมาชิก 70-100  คน (เหมาะสมที่71คน)จะนั่งเป็นครึ่งวงกลม ข้างหลังมีสาวกของ “คนที่มีการศึกษา อีก 3 แถว และมีเสมียนของสภายืนอยู่ข้างหน้า (มก.14:55)
5:24     ”หัวหน้ารักษาพระวิหาร” ( the captain of the temple ) -4:1
5:28     ”ต้องการให้ความผิดเรื่องการตายของคนนั้นตกอยู่กับเรา”( you intend to bring this man’s blood upon us) = ทำให้เรามีความผิดเนื่องด้วยความตายของชายผู้นี้,อาจเป็นการอ้างถึงคำประกาศย้ำของอัครทูตว่า พวกยิวและผู้นำยิวบางคนได้ฆ่าพระเยซู (2:23;3:13-15;4:10-11;มธ27:25)

5:30     ”ต้นไม้” (tree) =ไม้กางเขน (1ปต2:24;ฉธบ21:22-23)
5:32     ”พระวิญญาณบริสุทธิ์ที่พระเจ้าประทานกับทุกคนที่เชื่อฟังพระองค์นั้นก็เป็นพยานด้วย” 

            (the Holy Spirit, whom God has given to those who obey him.) -ยน15:26-27

           =คำพยานของสาวกได้รับการสอนและยืนยันจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ ผู้ทรงทำให้โลกสำนึกในความผิดบาปทางพระวจนะ (ยน16:8-11)  และประทานให้แก่ผู้ตอบสนองต่อพระเจ้าด้วยความเชื่อฟัง(รม1:5)

5:34    ”กามาลิเอลเป็นพวกฟาริสี” (a Pharisee in the council named Gamaliel) = อาจารย์ชาวยิวที่มีชื่อเสียงที่สุดในยุคนั้น อาจเป็นหลานของฮิลเลล ซึ่งมีทัศนคติเป็นกลาง เหมือนที่เขาเป็น (มธ19:3) เห็นได้จากคำแนะนำที่รอบคอบของเขาในตอนนี้
            -เปาโลก็เป็นศิษย์คนหนึ่งของกามาลิเอลด้วย
5:37     ”ยูดาส เป็นชาวกาลิลี”( Judas the Galilean) -โจซีฟัสนักประวัติศาสตร์ชาวยิว อ้างอิงยูดาสว่าเป็นคนมาจากกามาลาในกัวลานิติส ซึ่งไม่ยอมถวายบรรณาการแก่ซีซาร์ ในที่สุดการก่อการจลาจลของเขาถูกปราบปราม แต่ความเคลื่อนไหวที่เริ่มโดยเขายังอาจดำเนินต่อไปโดยพรรคชาตินิยม (1:13;มธ10:4)
            “ในช่วงที่มีการจดทะเบียนสำมะโนครัว” (in the days of the census) =ไม่ใช่การจดทะเบียนสำมะโนครัวครั้งแรกในสมัยคีรินิอัสใน ลูกา 2:2 แต่เป็นอีกครั้งในค.ศ.6

5:40     “เฆี่ยน” (beat)=โบยตี ตามการลงโทษของยิว จำนวน 39 ที (2คร.11:24)

คำถามนำอภิปราย

  1. คุณเคยต้องประสบเคราะห์ภัย เพราะความอิจฉาริษยาของผู้อื่นบ้างไหม? เรื่องอะไร? และอย่างไร?
  2. คุณเคยได้รับการช่วยเหลืออย่างเหลือเชื่อจากพระเจ้าหรือไม่? ในเรื่องอะไร? อย่างไร?
  3. คุณทำอะไรบ้างเมื่อได้รับความช่วยเหลือจากพระเจ้า? ส่งผลต่อคริสตจักรของพระเจ้าและผู้อื่นอย่างไรบ้าง?
  4. ชีวิตของคุณได้ทำให้คนอื่น (รวมทั้งคนที่ไม่ชอบคุณ) ฉงนสนเท่ห์บ้างหรือไม่? เรื่องอะไร? ทำไม?
  5. คุณเคยถูกข่มขี่ บังคับหรือกลั่นแกล้งไม่ให้กระทำบางสิ่งที่พระเจ้าบัญชาให้คุณกระทำบ้างหรือไม่? อย่างไร?  แล้วคุณสนองตอบอย่างไร? แล้วมีผลอะไรตามมา?
  6. คุณเคยกล่าวประโยคเช่นนี้ ต่อผู้ใดในชีวิตที่ผ่านมาหรือไม่ว่า “เราจำเป็นต้องเชื่อฟังพระเจ้ามากกว่าเชื่อฟังมนุษย์!”?
  7. คุณเห็นด้วยหรือไม่ว่าอย่าไปต่อต้านหรือต่อสู้ผู้ใดในสิ่งที่เราไม่รู้แน่ชัดจริงๆ ว่าถูกหรือผิด มาจากพระเจ้าหรือไมและควรปล่อยให้พระเจ้าจัดการเอง? ทำไม?
  8. คุณเคยมีความยินดีและรู้สึกว่าตัวเองมีค่าเพราะการถูกหลู่เกียรติเพื่อพระนามของพระเยซูบ้างหรือไม่? ในเรื่องอะไร? แล้วคุณตอบสนองอย่างไร? และมีอะไรเกิดขึ้นตามมา?

 

-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-

twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/lifeanswer, facebook.com/lifeanswer

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.