Categories
สารจากศบ.

สารจากศิษยาภิบาล

17 มิถุนายน 2018

สวัสดีครับพี่น้อง CJ ที่รัก 

วันนี้ ขอส่งคำทักทายมายังทุกท่านด้วยความรักของพระคริสต์ครับ แล้วขอทุกท่านกรุณาส่งความรักอันวิเศษนี้ต่อไปให้คนข้างๆ และคนรอบตัวต่อไปเรื่อย ๆ ตลอดทั้งวันนี้ และทั้งสัปดาห์ด้วยนะครับ

วันนี้ อีกเช่นกันที่ผมขอนำข้อคิดดีๆ ที่คัดสรรมาฝากให้เป็นอาหารสมองและอาหารใจควบคู่ไปกับอาหารฝ่ายจิตวิญญาณ  ดังนี้
                “1. ในแต่ละวัน… จงตั้งใจทำชีวิตให้ ” ดีขึ้น “
                    เพราะถ้าปล่อยไปตามธรรมชาติ ชีวิตของเรากำลัง “ต่ำลง” และ ” สั้นลง “ (เร็วกว่าที่ควรเป็น)
                2. การ “อยู่กับปัจจุบัน “ ไม่ใช่การ ” หยุดทำ “ ในเรื่องสำคัญ
                    แต่เป็นการ ” หยุดทุกข์ “ ไปกับเรื่องที่ไม่สำคัญ และสามารถมีความสุขได้กับสิ่งเล็กน้อยที่อยู่ตรงหน้าของเรา
                3. อารมณ์ ” ลบ “ ทุกชนิด มักจะทำร้ายเรา ก่อนที่จะไปทำร้ายคนอื่น…
                   ส่วนอารมณ์ ” บวก “ ทุกชนิด จะให้พรเรา ก่อนที่จะให้พรแก่คนอื่นเสมอ เช่นกัน…
                4. การวิจารณ์คนอื่นทุกวัน… จะทำให้ใจของเราต่ำลงทุกวัน
                   การวิจัยวินิจฉัยตัวเองทุกวัน… จะทำให้ใจของเราสูงขึ้นทุกวัน
                5. ถ้าไม่มีคนมาทำให้คุณโกรธ    … คุณจะไม่รู้เลยว่าระดับจิตวิญญาณของคุณอยู่ตรงระดับใด
                   ถ้าไม่มีใครมาทำให้คุณทุกข์ใจ                  … คุณจะไม่รู้เลยว่าตัวคุณเองยังมีอะไรต้องพัฒนาอีกแค่ไหน
                6. ไม่ว่า “ภายนอก “ เราจะอยู่กับคนมากแค่ไหน แต่ ” ภายใน “ เรายังอยู่ตัวคนเดียวเสมอ
                   จงหาวิธี ” รักตัวเอง “ ให้เจอ  เพราะไม่มีใครในโลกนี้ที่จะอยู่กับเราตลอดไปเหมือนกับ “ตัวเราเอง “
                   แต่ข่าวดีก็คือ เรายังมีพระเจ้าที่ทรงสถิตอยู่กับเราเสมอ แม้ไม่ใครสักคนเหลืออยู่ข้างๆ เราเลยก็ตาม
                7. การฝึกและพัฒนาจิตวิญญาณของตัวเอง อาจไม่ได้ทำให้เรา ” พ้นทุกข์ตลอดกาล “
                   แต่มันทำให้เรา ” ไม่ต้องเป็นทุกข์นานโดยไม่จำเป็น
                8. ความดีเล็ก ๆ ที่ทำไปนาน ๆ สุดท้ายอาจสร้าง ” ปาฏิหารย์ “ ให้เกิดขึ้นชีวิตได้
                9. ” ไป “ ได้เร็วแค่ไหน ก็จะถึงที่หมายเร็วขึ้นเท่านั้น…   แต่ต้องให้แน่ชัดว่าเรากำลังไปถูกทิศถูกทาง
                    หากรีบ ” ปล่อยวาง” ได้เร็วแค่ไหน เราก็จะยิ่งสุข(ใจได้)เร็วขึ้นมากเท่านั้น
                10.จงระลึกไว้เสมอว่า ” ความทุกข์ “ และ ” ความเจ็บปวด ”  ไม่ได้ผ่านเข้ามาในชีวิตเรา… เพื่อมอบ ” คำสาป “   แต่มันผ่านเข้ามาในชีวิตเรา… เพื่อมอบ “คำสอน” และ  “บทเรียน” ให้แก่เรา
                11. ก้าวแรกของการใช้ชีวิตอย่าง ” ผู้ตื่น “   คือการหยุดยุ่งวุ่นวายเรื่อง ” คนอื่น”
                     แล้วหันกลับมาวิเคราะห์ใจ ” ตัวเอง “
                12. ความทุกข์ทั้งหมดในชีวิต ไม่ได้เกิดจาก  ” สิ่งที่คนอื่นคิดเกี่ยวกับคุณ “
                     แต่มันเกิดจาก  ” สิ่งที่คุณคิดว่า คนอื่นคิดเกี่ยวกับคุณ “
                13. เราต้องขอบคุณคนที่ทำ ” ไม่ดี “   ที่ช่วยเป็นตัวอย่างที่ ” ดี “  ให้เราเห็นว่า อะไรคือสิ่งที่เรา ” ไม่ควรทำ “
                14. ไม่ว่าจะเจอทุกข์หนักหนาสาหัสสักแค่ไหน ทางออกก็ไม่เคยอยู่ไกลไปกว่า ” ใจ “ ของเราเอง
                   เพราะว่าชีวิตนั้นเริ่มต้นออกมาจากใจ!
                15.หากเกลียดเขา ” เราเองจะทุกข์ “  ถ้าเมตตาเขา ” เราเองก็จะสุข “
                16.คนเราฝึกเดินฝึกวิ่งหรือฝึกอะไรจนเก่งได้ ฉันใด
                    เราก็สามารถฝึกใจฝึกจิตของเราจนเป็นสุขได้ ในทุกสถานการณ์ ฉันนั้น…
                17.” ความตาย ” เป็นเรื่องธรรมดา แต่การได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างมีคุณค่า นับเป็นเรื่อง ” อัศจรรย์ “
                18. หากสังเกตให้ดี เราจะพบว่าสิ่งที่ทำให้เราเป็นทุกข์บ่อยที่สุดในแต่ละวันนั้น
                     ไม่ใช่  ” พฤติกรรม “ ของคนอื่น   แต่คือ ” ความคิด” ของเราเอง
                19. อย่าถือโทษ โกรธคน ไม่คู่ควร  อย่าตีตรวน ตนไว้ กับอดีต    ชะตาเรา อย่าให้ใคร มาเขียนขีด  อย่าเอาคำ ที่เหมือนมีด มากรีดใจ
                20.หากคุณคิดว่าตัวเองมีค่า เพราะมี ” เงิน ”  วันไหนเงินหมด คุณค่าคุณก็จะหมด
                    หากคุณคิดว่าตัวเองมีค่า เพราะ ” หน้าตา “ ดี  วันไหนคุณแก่ลง จนหน้าตาไม่ดี คุณค่าคุณก็หมด
                   แต่หากคุณตระหนักว่าตัวเองมีค่า เพราะเป็น “คนดี ” ตราบใดที่คุณมีความดี และทำดี  ตราบนั้นคุณก็จะ ” มีคุณค่า” ตลอดไป

แต่บางครั้งคุณก็อาจต้องยอมรับความจริงและสำนึกได้ว่าคุณเองไม่ได้เป็นคนดีจริงๆ แม้ว่าเปลือกนอก คุณจะพยายามทำดีสักแค่ไหนมาปกปิดก็ตาม ความรู้สึกผิดฟ้องเกิดขึ้นในใจ คุณก็จะพบว่า ความดีของคุณ ไม่ใช่สิ่งที่จะยึดเหนี่ยวไว้ได้อีกต่อไป

ในเวลานี้ เราต้องการการช่วยเหลือ และขอพระเจ้าทรงช่วยเราให้รอดพ้นจากบาปที่ฟ้องผิด และจากโทษของบาปที่เราทำทั้งในที่ลับและที่แจ้ง นั่นคือ ความตาย แต่โดยพระคุณของพระเยซูคริสต์ผู้ทรงสมัครใจรับแบกโทษบาปแทนเราบนไม้กางเขนไปแล้วพวกเราจึงสามารถรอดมาได้โดยพระคุณ เพราะความเชื่อ ไม่ใช่โดยความดีของเรา

            “เพราะว่าท่านทั้งหลายได้รับความรอดโดยพระคุณผ่านทางความเชื่อ 
            ความรอดนี้ไม่ได้มาจากตัวท่านเอง แต่เป็นของประทานจากพระเจ้า 
            ไม่ใช่ความรอดโดยการประพฤติ เพื่อจะไม่มีใครอวดได้!” 
~เปาโล (เอเฟซัส 2:8-9 TNCV)

วันนี้ ขอให้เรารับข่าวประเสริฐออกไป ด้วยใจขอบพระคุณพระเจ้าและให้เราประกาศข่าวดีนี้ออกไป เพื่อให้คนทั้งหลายที่ได้รับฟัง จะเชื่อศรัทธาและรับความรอดนิรันดร์ ดีไหมครับ?

วันนี้ ก็ขอแนะนำพี่น้องของเราอีกท่านหนึ่งให้รู้จักคือ คุณ ปัณฑิตา โสภณพรพิทักษ์ ชื่อเล่น : เนส อาชีพ : ธุรกิจส่วนตัว (นำเข้าแรงงาน) 

1.ถาม มาเชื่อพระเจ้า/มาเป็นสมาชิกCJ ได้อย่างไร ผ่านใครหรือช่องทางใด ?

ตอบ “มาเชื่อพระเจ้าผ่านทางคุณแม่ คุณแม่เป็นคริสเตียนมาประมาณ 20 ปี แต่ว่า ไม่ค่อยได้เจอกัน พอโตมาได้มีโอกาสเจอกันบ่อยขึ้น คุณแม่ก็พูดเรื่องพระเจ้าให้ฟังเรื่อยๆ ซึ่งเราไม่ได้ปฎิเสธ หรือรับ แต่ในความคิดตอนนั้นเหมือนเข้าใจ แต่ไม่เข้าใจ ยังไม่เข้าใจถึงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า คิดว่าพระเจ้า เหมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆที่ก่อนหน้านี้เราเคารพบูชามา ก็เลยไหว้ทุกอย่างเลย รวมทั้งพระเจ้าด้วยค่ะ

ในชีวิตตั้งแต่โตมาก็ต้องพยายามดิ้นรนเพราะอยากจะประสบความสำเร็จในชีวิต พึ่งพาตนเองจน มีเหตุการณ์ให้เราตัดสินใจผิด และชีวิตช่วงหนึ่งมันเคว้งๆมีวันหนึ่งนอนร้องไห้อยู่ที่โซฟา เลยตัดสินใจอธิษฐานกับพระเจ้าอย่างเฉพาะเจาะจง ว่า “ถ้าพระเจ้ามีจริง ขอให้ช่วยเนสที ลูกไม่ไหวแล้ว” หลังจากวันนั้น พระเจ้าได้เปลี่ยนชีวิตแบบอัศจรรย์เลย และเรารับรู้และรู้สึกว่าพระเจ้าอยู่กับเราเสมอตั้งแต่วันที่เราอธิษฐาน จนทุกวันนี้

มาเป็นสมาชิกที่โบสถ์ CJ ได้เพราะ ก่อนหน้านี้พอรับเชื่อ เนสและครอบครัวก็อยู่ในโบสถ์เล็กๆกันมาตลอด และช่วงหลังได้เริ่มทำพันธกิจเกี่ยวกับผู้สูงอายุและผู้ป่วย ได้สัก 2 ปี พอมีเอลียาห์หลานตัวน้อยเกิดขึ้นมา และน้องเพิรธ์ ก็เริ่มโตขึ้น ครอบครัวเราก็รู้สึกอยากให้หลานได้ไปโบสถ์ที่เหมาะสมกับเเขา มีเด็กวัยเดียวกันที่ได้เรียนรู้พระคัมภีร์จริงๆ ก็เลยลองหาข้อมูลในเน็ต ซึ่งเจอโบสถ์นี้เลยลองมาดูค่ะ ซึ่งมาแล้วก็ประทับใจ

2.ถาม ประทับใจอะไรเกี่ยวกับ CJ หรืออยากขอบคุณพระเจ้าอะไรผ่าน CJ ?

ตอบ CJ เป็นเหมือนบ้านหลังใหญ่ มีคนเยอะ หลากหลายวัยหลากหลายประสบการณ์ ให้เราได้เห็นชีวิตและเรียนรู้เป็นตัวอย่าง ให้เห็นถึงความถ่อมใจ ให้เห็นว่าชีวิตเราควรเดินกับพระเจ้ายังไง  ได้มีคำสอนจากอาจารย์ธงชัย  และอาจารย์หลายท่าน ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากๆกับการเติบโตกับพระเจ้า ขอบคุณพระเจ้าที่ได้นำให้เราได้เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้

3.ถาม อยากมีส่วนตอบแทนพระคุณพระเจ้าหรือทำอะไรผ่านทางCJ บ้าง อย่างไร ? หรืออยากหนุนใจพี่น้องด้วยข้อพระวจนะใด เพราะอะไรจึงใช้พระวจนะข้อนี้ ?

ตอบ  พระเจ้าให้อะไรกับเนสและครอบครัวเยอะมากๆๆๆ ให้ความรอดอันยิ่งใหญ่ ให้ครอบครัวได้รับความรอด ให้สันติสุข ให้ความสุขที่ครบบริบูรณ์ทุกๆเรื่อง ถึงแม้บางทีเราอาจจะไม่สมควรได้รับ แต่พระเจ้าก็ให้โดยพระคุณ และเพราะสิ่งที่พระเจ้าให้มานั้นมันมากมาย เราจึงรู้สึกว่าอยากจะแบ่งปันพระพรให้กับคนอื่น ซึ่งได้เริ่มต้นที่บ้านเด็กกำพร้าบางที่ ที่พอทำได้ และจะพยายามก้าวออกไปรับใช้ โดยใช้เวลาและความสามารถที่พระเจ้าให้

ส่วนที่โบสถ์ CJ ได้มีโอกาสเป็นปฎิคม ก็ดีใจที่ได้มีส่วนร่วมในงานรับใช้และได้ร่วมทำงานกับทีมพี่กระดาษและพีพรรณ และได้รู้จักพี่ๆเพื่อนๆสมาชิกในโบสถ์เพิ่มมากขึ้น ซึ่งการเป็นปฎิคม ก็ทำให้ตัวเราเปลี่ยนไปเยอะ เพราะเป็นคนที่คุยกับคนอื่นไม่เก่ง ให้ได้รู้จักทำงานร่วมกับผู้อื่น และเริ่มคุยกับผู้อื่นมากขึ้น

ส่วนข้อพระวจนะหนุนใจ คือ ยอห์น 10:10      “เรามาเพื่อพวกเขาจะได้ชีวิต และจะได้อย่างครบบริบูรณ์!”

ข้อนี้ เป็นพระสัญญาที่ทำให้เรามั่นใจ ว่าพระบิดาได้จัดเตรียมหนทางให้เราเสมอ และ เป็นหนทางที่ดีพร้อม ขอให้เราเดินตามพระองค์ ติดตามพระองค์ ทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรพระองค์อยู่ด้วย และไม่เคยปล่อยเราไว้เพียงลำพัง และพันธสัญญาของพระเจ้าไม่เคยเปลี่ยนแปลง”

ขอขอบคุณ คุณเนส ครับ และ ขอพระเจ้าทรงอวยพระพรทุกท่านเสมอไป

 ด้วยใจที่รักและห่วงใย

(ธงชัย  ประดับชนานุรัตน์) ศิษยาภิบาล

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.