Categories
บทเรียนพระคัมภีร์

บทเรียนพระธรรมกิจการของอัครทูต บทเรียนที่ 1

พระเยซูกำลังจะไปพระวิญญาณจะมา

พระธรรม     กิจการ 1:1-26

อ้างอิง         ลก.1:1-4;มธ.28:19-20;ยน.20:12;สดด.69:25

บทนำ          พระเยซูกระทำกิจสำคัญจนสำเร็จ ดังบันทึกไว้ในพระธรรมลูกา จากนั้น พระองค์ทรงมอบหมายภารกิจให้สาวกของพระองค์กระทำต่อ โดยอาศัยความช่วยเหลือของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ดังที่ปรากฏในพระธรรมกิจการ  จนบางคนเรียกพระธรรมกิจการว่า ลูกา ภาค 2

บทเรียน

1:1 “ท่านเธโอฟีลัส ในหนังสือฉบับแรกนั้น ข้าพเจ้ากล่าวแล้วถึงทุกสิ่งที่พระเยซูทรงตั้งต้นทำและสั่งสอน” 

    (In the first book, O Theophilus, I have dealt with all that Jesus began to do and teach )

1:2 “จนถึงวันที่พระเจ้าทรงรับพระองค์ขึ้นไป หลังจากตรัสสั่งโดยเดชพระวิญญาณบริสุทธิ์กับบรรดาอัครทูตแปลได้อีกว่าผู้ที่ทรงใช้ ไปซึ่งพระองค์ทรงเลือกไว้” 

    (until the day when he was taken up, after he had given commands through the Holy Spirit to the apostles whom he had chosen.) 

1:3 “เมื่อพระองค์ทรงทนทุกข์ทรมานแล้ว พระองค์ทรงสำแดงพระองค์กับพวกเขาด้วยหลักฐานหลายอย่าง พิสูจน์ว่าพระองค์ทรง      พระชนม์อยู่ ทรงปรากฏแก่เขาทั้งหลายระหว่างสี่สิบวัน และได้ทรงกล่าวถึงเรื่องแผ่นดินของพระเจ้า” 

    (He presented himself alive to them after his suffering by many proofs, appearing to them during forty days and speaking about the kingdom of God.)

1:4  “ขณะพระองค์ทรงพำนักอยู่กับพวกอัครทูต ทรงกำชับพวกเขาว่า “อย่าออกไปจากกรุงเยรูซาเล็ม แต่ให้รอคอยรับตามพระสัญญาของพระบิดา ซึ่งพวกท่านได้ยินจากเรา” 

     (And while staying with them he ordered them not to depart from Jerusalem, but to wait for the promise of  the Father, which, he said, “you heard from me) 

1:5 “นั่นก็คือยอห์นให้รับบัพติศมาด้วยน้ำ แต่อีกไม่นานพวกท่านจะรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์”

     (for John baptized with water, but you will be baptized with the Holy Spirit not many days from now.”)

1:6  “เมื่อเขาทั้งหลายประชุมพร้อมกัน พวกเขาจึงทูลถามพระองค์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์จะทรงตั้งราชอาณาจักรขึ้นใหม่ ให้ชนชาติอิสราเอลในครั้งนี้หรือ?” 

     (So when they had come together, they asked him, “Lord, will you at this time restore the kingdom to Israel?”)

 1:7 “พระองค์ตรัสตอบเขาทั้งหลายว่า “ไม่ใช่ธุระของพวกท่านที่จะรู้เวลาและวาระที่พระบิดาทรงกำหนดไว้โดยสิทธิอำนาจของพระองค์” 

     (He said to them, “It is not for you to know times or seasons that the Father has fixed by his own authority.)

   1:8 “แต่พวกท่านจะได้รับพระราชทานฤทธานุภาพ เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จมาเหนือท่าน และท่านทั้งหลาย จะเป็นสักขีพยานของเราในกรุงเยรูซาเล็ม ทั่วแคว้นยูเดีย ทั่วแคว้นสะมาเรีย และจนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก 

    (But you will receive power when the Holy Spirit has come upon you, and you will be my witnesses in Jerusalem and in all Judea and Samaria, and to the end of the earth.”)

 1:9 “เมื่อพระองค์ตรัสเช่นนั้นแล้ว พระเจ้าทรงรับพระองค์ขึ้นไปต่อหน้าต่อตาพวกเขา และมีเมฆคลุมพระองค์ให้พ้นสายตาของเขา” 

    (And when he had said these things, as they were looking on, he was lifted up, and a cloud took him out of their sight.)

 1:10 “เมื่อพวกเขากำลังเขม้นมองดูฟ้า ในขณะที่พระองค์เสด็จขึ้นไป มีชายสองคนสวมเสื้อขาวมายืนอยู่ข้างๆ พวกเขา” 

     (And while they were gazing into heaven as he went, behold, two men stood by them in white robes, )

1:11 “สองคนนั้นกล่าวว่า “ชาวกาลิลีเอ๋ย ทำไมพวกท่านถึงยืนจ้องมองฟ้าสวรรค์? พระเยซูองค์นี้ที่ทรงรับไปจากท่านทั้งหลายขึ้นไปยังสวรรค์นั้น จะเสด็จมาอีกในลักษณะเดียวกับที่ท่านทั้งหลายได้เห็นพระองค์เสด็จไปยังสวรรค์นั้น

      (and said, “Men of Galilee, why do you stand looking into heaven? This Jesus, who was taken up from you into heaven, will come in the same way as you saw him go into heaven.”)

 1:12 “แล้วอัครทูตจึงลงจากภูเขามะกอกเทศซึ่งอยู่ใกล้กรุงเยรูซาเล็ม (ระยะทางเท่ากับระยะที่อนุญาตให้คนเดินในวันสะบาโต)แล้วกลับไปกรุงเยรูซาเล็ม” 

    (Then they returned to Jerusalem from the mount called Olivet, which is near Jerusalem, a Sabbath day’s journey away. )

1:13 “เมื่อเข้ากรุงแล้วเขาเหล่านั้นจึงขึ้นไปยังห้องชั้นบนที่เคยพักอยู่นั้น มีเปโตร ยอห์น ยากอบกับอันดรูว์ ฟีลิป กับโธมัส บารโธโลมิวกับมัทธิว ยากอบบุตรอัลเฟอัส ซีโมนพรรคชาตินิยม กับยูดาสบุตรยากอบ”

    (And when they had entered, they went up to the upper room, where they were staying, Peter and John and James and Andrew, Philip and Thomas, Bartholomew and Matthew, James the son of Alphaeus and Simon the Zealot and Judas the son of James.) 

 1:14   “พวกเขาอุทิศตัวอธิษฐานด้วยกัน พร้อมกับพวกผู้หญิงและมารีย์มารดาของพระเยซูทั้งพวกน้องชายของพระองค์ด้วย”

     (All these with one accord were devoting themselves to prayer, together with the women and  Mary the mother of Jesus, and his brothers.)

 1:15   “ในเวลานั้นเปโตรยืนขึ้นท่ามกลางพวกพี่น้อง (ซึ่งอยู่รวมกันประมาณร้อยยี่สิบคน) และกล่าวว่า”

     (In those days Peter stood up among the brothers (the company of persons was in all about 120) and said)

 1:16  “นี่แน่ะ พี่น้องทั้งหลาย จำเป็นจะต้องสำเร็จตามพระคัมภีร์ซึ่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ตรัสไว้โดยปากของดาวิดเกี่ยวกับยูดาสผู้นำทางให้กับพวกที่ไปจับพระเยซู” 

     (“Brothers, the Scripture had to be fulfilled, which the Holy Spirit spoke beforehand by the mouth of David  concerning Judas, who became a guide to those who arrested Jesus. )

 1:17   “เพราะเขานับยูดาสเข้าในกลุ่มเรา และได้รับส่วนในพันธกิจนี้” 

      (For he was numbered among us and was allotted his share in this ministry.” )

1:18   (คนนี้ได้นำค่าตอบแทนที่ได้จากการอธรรมของตนไปซื้อที่ดิน แล้วก็คะมำตกและแตกกลางลำตัวไส้พุงทะลักออกมาหมด” 

      (Now this man acquired a field with the reward of his wickedness, and falling headlong he burst open in the middle and all his bowels gushed out. )

1:19  “เหตุการณ์นี้ทุกคนที่อยู่ในกรุงเยรูซาเล็มก็รู้ ที่ดินแปลงนี้จึงถูกเรียกตามภาษาของพวกเขาว่า อาเคลดามา คือนาเลือด)”

      (And it became known to all the inhabitants of Jerusalem, so that the field was called in their own language  Akeldama, that is, Field of Blood.)

 1:20 “เพราะมีคำเขียนไว้ในพระธรรมสดุดีว่า ‘ขอให้ที่อยู่ของเขาร้างเปล่าและอย่าให้มีใครอยู่ที่นั่น’ และ‘ขอให้อีกคนหนึ่งมายึดตำแหน่งของเขา’” 

     (“For it is written in the Book of Psalms, “‘May his camp become desolate, and let there be no one to dwell in it’;and”‘Let another take his office.’)

 1:21 “เพราะฉะนั้น คนหนึ่งในบรรดาคนที่อยู่กับเราตลอดเวลาที่พระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จเข้าออกท่ามกลางเรา” 

    (So one of the men who have accompanied us during all the time that the Lord Jesus went in and out among us,)

     1:22 “คือตั้งแต่บัพติศมาของยอห์น จนถึงวันที่พระเจ้าทรงรับพระองค์ขึ้นไปจากเรา คนหนึ่งในคนเหล่านี้จะต้องเป็น พยานร่วมกับเราเกี่ยวกับการคืนพระชนม์ของพระองค์ 

     (beginning from the baptism of John until the day when he was taken up from us—one of these men must become with us a witness to his resurrection.” )

 1:23  “เขาทั้งหลายจึงเสนอชื่อสองคนคือโยเซฟที่เรียกว่าบารซับบาส ที่มีนามสกุลว่ายุสทัส และมัทธีอัส” 

    (And they put forward two, Joseph called Barsabbas, who was also called Justus, and Matthias. )

1:24   “แล้วพวกสาวกจึงอธิษฐานว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงทราบใจของมนุษย์ทุกคน ขอทรงสำแดงว่าในสองคนนี้พระองค์ทรงเลือกคนไหน” 

    (And they prayed and said, “You, Lord, who know the hearts of all, show which one of these two you have chosen )

 1:25 “ให้รับส่วนในพันธกิจนี้และรับหน้าที่เป็นอัครทูตแทนยูดาสผู้ทิ้งหน้าที่นี้หันไปสู่ที่ของตนเอง”

     (to take the place in this ministry and apostleship from which Judas turned aside to go to his own place.” )

 1:26  “เขาทั้งหลายจึงจับฉลากกัน และฉลากนั้นได้แก่มัทธีอัส เขาจึงได้รับเลือกให้อยู่ในกลุ่มอัครทูตสิบเอ็ดคนนั้น”

     (And they cast lots for them, and the lot fell on Matthias, and he was numbered with the eleven apostles.)

ข้อมูลมีประโยชน์

1:1        “เธโอฟีลัส” (Theophilus) =ผู้รับคนเดียวกันกับผู้รับพระธรรมลูกา

              “หนังสือฉบับแรก” (the first book            ) = พระธรรมลูกา

“ทรงตั้งต้นทำและสั่งสอน” (began to do and teach) = บทสรุปที่กระชับอันเหมาะสมของพระธรรมลูกาเกี่ยวกับกิจของพระเยซูคริสต์ และบอกเป็นนัย ๆ ว่า พระองค์จะทรงกระทำกิจต่อไปในพระธรรมกิจการ โดยผ่านคริสตจักรและพระวิญญาณบริสุทธิ์

1:2        “พระเจ้าทรงรับพระองค์ขึ้นไป” (he was taken up) = ภาพสุดท้ายของพระธรรมลูกา (24:50-52) และปิดฉากสมบูรณ์ในพระธรรมกิจการ (ซึ่งเป็นเล่มที่ 2 หรือภาค 2 ของลูกา) –กจ.1:6-11

            = พระเยซูเสด็จสู่สวรรค์หลังจากเป็นขึ้นจากตาย 40 วัน (ข.3)

            “ตรัสสั่งโดยเดชพระวิญญาณบริสุทธิ์” (commands through the Holy Spirit) = หลังจากพระเยซูเป็นขึ้นจากความตาย พระองค์ตรัสสั่งอัครฑูตผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ และพระวิญญาณบริสุทธิ์จะช่วยทำให้งานของอัครทูตสำเร็จ (ข.4-5,8;ลก24:49;ยน.20:22)

1:3        “ด้วยหลักฐานหลายอย่างพิสูจน์ว่า” (by many proof)  -มธ.28:1-20;ลก.24:1-53;ยน.20:1-29;1คร.15:3-8

            “เรื่องแผ่นดินของพระเจ้า” (about the kingdom of God) = หัวใจของคำเทศนาสั่งสอนของพระเยซูคริสต์ (มธ.3:2;ลก.4:43)

1:4        “รอคอยรับตามพระสัญญาของพระบิดา” (to wait for the promise of the Father) = พระวิญญาณบริสุทธิ์ (ลก.24:49;ยน.14:26;15:26-27;16:12-13)

1:5        “ยอห์นให้รับบัพติศมาด้วยน้ำ” (John baptized with water  ) –ลก.3:16

            “อีกไม่นาน” (not many days) = หลังจากนั้นอีก 10 วัน

            “ท่านจะรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์” (you will be baptized with the Holy Spirit) = ในวันเพนเทคอสต์ (2:1-4)

1:6        “จะทรงตั้งราชอาณาจักรขึ้นใหม่…หรือ?” (will you at this time restore the kingdom… ?”) = พวกสาวกคิดเหมือนชาวยิวคนอื่นๆ ที่รอคอยการเสด็จมากอบกู้ชาวอิสราเอล จากชาวต่างชาติที่เข้ามาครอบครอง และจะทรงสถาปนาอาณาจักรแบบโลกขึ้นมาใหม่ เมื่อพูดถึงพระวิญญาณจะเสด็จมาจึงทำให้พวกเขาสงสัยว่า ยุคใหม่กำลังจะมาถึงแล้วใช่หรือไม่? 

1:7        “จะรู้เวลาและวาระ” (know times or seasons)  = เวลาที่กำลังล่วงเลยไป หรือลักษณะของเหตุการณ์ที่กำลังจะมาถึง  (มก.13:32;1ธส.5:1)

1:8        “จะได้รับพระราชทานฤทธานุภาพ…จนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก” (will receive power when the Holy Spirit …..to  the end of the earth.       ) = โครงเรื่องของพระธรรมกิจการ ที่อัครฑูตต้องเป็นพยานจากในกรุงเยรูซาเล็ม (บท 1-7) แคว้นยูเดียและสะมาเรีย (บท 8-9) และถึงสุดปลายแผ่นดินโลก ซึ่งก็รวมถึงซีซารียา อันทิโอก แคว้นเอเชียน้อย ประเทศกรีซและกรุงโรม (บท 10-28)

-แต่พวกเขาได้รับการกำชับว่า ก่อนเริ่มงานที่ยากลำบากนี้ พวกเขาต้องได้รับฤทธิ์อำนาจจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ก่อน (1:4-5)

“จะเป็นสักขีพยานของเรา” (will be my witnesses) = ประเด็นสำคัญหนึ่งตลอดในพระธรรมกิจการ (2:32;3:15;5:32;10:39;13:31;22:15)

“แคว้นยูเดีย”  (Judea) แคว้นที่ตั้งของกรุงเยรูซาเล็ม 

“แคว้นสะมาเรีย” (Samaria) แคว้นที่ติดกับทางเหนือของยูเดีย

1:9        “พระเจ้าทรงรับพระองค์นั้นไป” ( he was lifted up) –ข.2

             “มีเมฆคลุมพระองค์ให้พ้นสายตาเขา” (a cloud took him out of their sight) –มธ.17:5

1:10      “ชายสองคนสวมเสื้อขาว” (two men …in white robes) –ปท.ยน.20:12         

1:11      “ชาวกาลิลีเอ๋ย” (Men of Galilee) = อัครฑูตของพระเยซูทั้ง 12 คน ล้วนมาจากกาลิลี ยกเว้นยูดาส

             “ในลักษณะเดียวกับที่ท่านได้เห็น” (the same way as you saw him go into heaven.) = ด้วยพระกาย

หลังจากเป็นขึ้นจากตายในหมู่เมฆ = ด้วยพระเกียรติสิริที่ยิ่งใหญ่ (มธ.24:30)

1:12      “ภูเขามะกอกเทศ” (the mount called Olivet)  = การเสด็จสู่สวรรค์เกิดขึ้นที่เชิงเขาด้านตะวันออก ระหว่างกรุงเยรูซาเล็มกับหมู่บ้านเบธานี (ลก.19:28-29,37;ศคย.14:4;มก.11:1;ลก.19:29;24:50)

            “ระยะทางเท่ากับระยะที่อนุญาตให้คนเดินในวันสะบาโต” (a Sabbath day’s journey away) = ถูกกำหนดโดยรับบีชาวยิว (อพย.16:29;กดว.35:5;ยชว.3:4)

            = ราว ๆ 1000 เมตร คนยิวที่เคร่ง ๆ จะไม่เดินไปไกลเกินนี้เป็นอันขาด ในวันสะบาโต

1:13      “ห้องชั้นบน” (the upper room) = อาจเป็นห้องชั้นบนในบ้านหลังใหญ่ เช่นเดียวกับห้องที่พระเยซูรับประทานอาหารมื้อสุดท้ายกับพวกสาวก (มก.14:15) หรืออาจเป็นบ้านของมารีย์ผู้เป็นมารดาของมาระโก (12:2)

            “บารโธโลมิว” (Bartholomew ) = นาธานาเอล (ยน.1:45-49,21:2)

            “ยากอบบุตรอัลเฟอัส” (James the son of Alphaeus ) = ยากอบน้อยใน มก.15:40

            “พรรคชาตินิยม” (the Zealot) –มธ.10:4

            “ยูดาสบุตรยากอบ” (Judas the son of James) = ธัดเดอัส (มธ.10:3) ไม่ใช่ยูดาสอิสคาริโอท

1:14      “พวกผู้หญิง” (the women) =อาจหมายถึง ภรรยาของอัตรทูต  (ปท.1คร.9:5)  และพวกผู้หญิงที่ถูกเอ่ยชื่อว่าปรนนิบัติรับใช้พระคริสต์ (มธ.27:55;ลก.8:2-3;24:22)

            “มารีย์มารดาของพระเยซู” ( Mary the mother of Jesus) =ถูกเอ่ยถึงเป็นครั้งสุดท้ายในพระคัมภีร์

            “พวกน้องชายของพระองค์” (his brothers) = ลก.8:9 – หนึ่งในนั้นคือ ยากอบซึ่งต่อมากลายเป็นบุคคลสำคัญในคริสตจักรแรก (12:17;15:13;21:18;กท.1:9;2:9)

1:16      “จำเป็นต้องสำเร็จตามพระคัมภีร์” (the Scripture had to be fulfilled ) –1:20; ลก.24:27;45-47

1:18      “นำค่าตอบแทน…ไปซื้อที่ดิน” (acquired a field with the reward) = ยูดาสซื้อที่ดินทางอ้อม เพราะเงินที่เขาคืนให้พวกปุโรหิต (มธ.27:3) ถูกนำเอาไปซื้อที่ดิน (ทุ่งช่างปั้นหม้อ)  ใน มธ.27:7

“คะมำตกและแตกกลางลำตัวไส้พุงทะลักออกมาหมด” (falling headlong he burst open in the middle and all his bowels gushed out.) –ใน มธ.27:5 –บอกว่า ยูดาสผูกคอตาย คงจะเป็นตอนท้ายศพเน่าแล้วตกลงมา หรือไม่ก็มีใครตัดเชือกทำให้ศพที่เน่าแล้วตกลงมาท้องแตก (บางคนตีความว่า คำว่า “ผูกคอ” ในมธ.27:5 หมายถึง “เสียบทะลุ”) (อสธ.2:23)

1:20      “มีคำเขียนไว้” (it is written) = พระคัมภีร์ 2 ตอนผนวกกันเข้าเพื่อสื่อว่า ยูดาส ทำให้เกิดที่ว่าง ที่ต้องการคนมาแทนที่

1:21      “คนหนึ่งในบรรดาคนที่อยู่กับเรา” (So one of the men who have accompanied us) = คนที่ร่วมทำพันธกิจ ต่อสาธารณชน (ปท.9:28)

1:22      “จะต้องเป็นพยานร่วมกับเราเกี่ยวกับการคืนพระชนม์ของพระองค์” (must become with us a witness to his resurrection) = มีหลายคนที่มีคุณสมบัติเช่นนี้ แต่ในที่นี่ต้องการเลือกคนหนึ่งอย่างเป็นทางการมาเป็นพยานเรื่องนี้ จึงหมายถึงอัครทูตคนที่ 12 (ข.25)

1:23      “บารซับบาส” (Barsabbas)  = “บุตรแห่งวันสะบาโต”

               -การใช้ชื่อโดยอ้างชื่อบิดาได้นำมาใช้กับคริสเตียนยิวในยุคแรก 2 คน ซึ่งอาจเป็นพี่น้องกัน คนแรกคือ โยเซฟ ในข้อนี้ อีกคนคือ ยูดาส ผู้เผยพระวจนะในเยรูซาเล็ม ซึ่งถูกส่งตัวไปเมืองอันทิโอกพร้อมกับลิลาส (15:22,32)

                   “ยุสทัส” (Justus) = ชื่อภาษากรีกของโยเซฟ

 1:26      “จับฉลากกัน” (cast lots ) –สภษ.16:33 การจับฉลากคือการมอบสิทธิ์ให้พระเจ้าเป็นผู้เลือก สิ่งที่ใช้จับฉลากอาจเป็นก้อนหิน หรือกิ่งไม้ (1พศด.26:13-16;นหม.11:1;ยนา 1:7) และนี่เป็นครั้งสุดท้ายที่พระคัมภีร์พูดถึงการจับฉลาก

คำถามนำอภิปราย

  1. คุณเคยต้องรอเวลา ตามคำสั่งของพระเจ้าในเรื่องใดเรื่องหนึ่งบ้างหรือไม่? เรื่องอะไร? ยากหรือง่าย? ทำไม และผลออกมาเป็นอย่างไร?
  2. คุณเคยสงสัยในความคิดหรือแผนการของพระเจ้าและทูลถามขอคำตอบจากพระองค์บ้างหรือไม? อย่างไร? เรื่องอะไร? แล้วคุณได้คำตอบหรือไม่?
  3. คุณเคยร่วมใจขะมักเขม้นอธิษฐานกับพี่น้องในเรื่องใดที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคุณ? กับใคร? แล้วส่งผลเป็นอย่างไร?
  4. คุณเคยเห็นคนบาปได้รับผลกรรมต่อหน้าของคุณหรือไม่? ใคร? เรื่องอะไร? และอย่างไร?
  5. คุณเคยเห็นคนทรยศต่อพี่น้องหรือมิตรของตัวเองบ้างหรือไม่? บั้นปลายเป็นอย่างไร? หรือคุณเคยทำเช่นนั้นบ้างหรือไม่? กับใคร? แล้วผลเป็นอย่างไร?
  6. คุณเคยตัดสินใจเลือกสิ่งสำคัญโดยใช้การจับฉลากบ้างหรือไม่? เรื่องอะไร และอย่างไร? และพอใจในผลลัพธ์หรือไม่? ทำไม?

 

ศจ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.