จำได้หรือไม่ เมื่อเช้าคุณเห็นอะไรในกระจก?
แต่จงเป็นผู้ประพฤติตามพระวจนะ ไม่ใช่เป็นเพียงผู้ฟังเท่านั้น มิฉะนั้นจะเป็นการหลอกตัวเอง เพราะถ้าใครเป็นเพียงผู้ฟังพระวจนะและไม่ใช่ผู้ประพฤติตาม ผู้นั้นก็เป็นเหมือนคนที่ดูหน้าของตนเองในกระจกเงา เพราะว่าเมื่อเห็นแล้วก็จากไป และลืมในทันทีว่าตนเองเป็นอย่างไร แต่ผู้ที่พินิจพิจารณาธรรมบัญญัติอันสมบูรณ์แบบ ซึ่งเป็นธรรมบัญญัติแห่งเสรีภาพ และตั้งมั่นในธรรมบัญญัตินั้น ไม่ได้เป็นผู้ที่ฟังแล้วก็ลืม แต่เป็นผู้ที่ประพฤติตาม ผู้นั้นจะได้รับความสุขในการประพฤติของตน (ยากอบ 1:22-25 THSV11)
ยากอบอธิบายถึงชายคนหนึ่งที่ได้ยินพระวจนะแล้วแต่ไม่เคยนำไปปฏิบัติ ท่านกล่าวว่าเหมือนคนที่ตื่นขึ้นมาในตอนเช้า หนวดเครารกรุงรัง ผมยุ่ง มีถุงใต้ตา แถมยังมีเศษอาหารจากเมื่อคืนติดอยู่บนเคราด้วย เขาเดินไปส่องกระจกและเห็นว่าต้องรีบจัดการใบหน้าให้สะอาด แต่เขากลับแต่งตัวและออกไปทำงาน ลืมไปหมดว่าได้เห็นอะไรในกระจก ไม่ล้างหน้า ไม่อาบน้ำ ไม่โกนหนวด ไม่หวีผม เป็นอย่างที่ตื่นขึ้นมา ส่องกระจก มองเห็น และลืมสิ้น
สังเกตุพระวจนะพูดถึงผู้ที่ “ได้ดู” และลืมสิ้นในเวลาไม่นาน ส่วนคนอื่นๆที่ “พินิจพิจารณา” และประพฤติตาม คำว่า “ได้ดู” หมายถึงมองผ่านๆ คำว่า “พินิจพิจารณา” หมายถึงมองอย่างตั้งใจ เป็นคำเดียวกับที่ใช้เมือพวกสาวกตั้งหน้าวิ่งไปที่อุโมงค์ฝังพระศพ ก้มลงไปมอง พยายามเพ่งเข้าไปในความมืด สายตาสอดส่ายมองหาอย่างถี่ถ้วน แปลว่ามุ่งมั่นตั้งใจมองเข้าไป
นี่คือวิธีที่เรามองเข้าไปในพระวจนะของพระเจ้า
ไม่ใช่มองผ่านๆ แต่มองอย่างตั้งใจและใส่ใจ สำรวจอย่างรอบคอบ ค้นหา นำมาศึกษา ใคร่ครวญ วิเคราะห์ และปฏิบัติตาม
โดย Pastor Adrian Rogers’ daily devotional
อนุญาตโดย Love worth finding Ministries: www.lwf.org
(Cr ภาพ 9gag.com)