พระวจนะแห่งปัญญาและฤทธิ์เดช!
“พระวจนะของพระเจ้าทรงชีวิตและทรงพลานุภาพ พระวจนะของพระเจ้าจะปลดปล่อยคุณให้เป็นอิสระ ปลอบประโลมใจของคุณ เยียวยารักษาและเลี้ยงดูจิตวิญญาณของคุณ!”
(The Word of God is alive and powerful! It will set you free, comfort you heal you and feed your soul.) -Matthew Hager
พระวจนะของพระเจ้า ให้ปัญญา แต่พระวจนะของพระเจ้ายังเป็นพระวจนะแห่งสิทธิอำนาจที่ยิ่งใหญ่ด้วย อาจารย์เปาโล กล่าวว่า ความเชื่อของเราไม่ได้อยู่ในปัญญาของมนุษย์ แต่อยู่ในฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า
“เพื่อความเชื่อของพวกท่านจะไม่ขึ้นกับปัญญาของมนุษย์ แต่ขึ้นกับฤทธิ์เดชของพระเจ้า” (1คร.2:5)
พระวจนะของพระเจ้า เป็นพระวจนะที่มีชีวิต และทรงพลานุภาพ คมยิ่งกว่าดาบสองคม สามารถทะลุทะลวงเข้าไปในจิตและวิญญาณของเรา แม้แต่ในข้อไขในกระดูก สามารถวินิจฉัย ความคิดและทัศนคติในใจของเราได้ด้วย
“เพราะว่าพระวจนะของพระเจ้านั้นมีชีวิตและทรงพลานุภาพอยู่เสมอ และคมยิ่งกว่าดาบสองคมใดๆ แทงทะลุกระทั่งแยกจิตและวิญญาณ ทั้งข้อกระดูกและไขในกระดูก และสามารถวินิจฉัยความคิด และความมุ่งหมายในใจด้วย” (ฮบ.4:12)
พระวจนะของพระเจ้า จึงไม่ใช่ถ้อยคำแห่งปัญญาเท่านั้น แต่เป็นถ้อยคำแห่งปัญญาที่ทรงฤทธิ์เดชอนันต์ ในการเปลี่ยนแปลงแก้ไขชีวิตของมนุษย์อย่างเรา ดังนั้น หากเราเติมพระวจนะของพระเจ้าลงในความคิดของเราอยู่ตลอดเวลา เราก็จะไม่มีที่ว่างเหลือให้มารเติมคำโกหกลงไปในสมองของเราได้อีก!
“พระคริสตธรรมคัมภีร์ ไม่ใช่เป็นถ้อยคำของมนุษย์เกี่ยวกับพระเจ้า แต่เป็นพระวจนะของพระเจ้าเกี่ยวกับมนุษย์”
พระคัมภีร์จึงเป็นหนังสือที่บอกเล่าเรื่องมนุษย์เล่มเดียวในจักรวาลที่มองดูมนุษย์ในโลกจากมุมมองเบื้องบนในสวรรค์ และได้รับการดลใจจากพระเจ้าให้เขียนออกมาเพื่อเป็นประโยชน์แก่มวลมนุษย์
“พระคัมภีร์ทุกตอนได้รับการดลใจจากพระเจ้า และประโยชน์ในการสอน การตักเตือนว่ากล่าว การแก้ไขสิ่งผิด และการอบรมในความชอบธรรม” (2ทธ.3:16)
เราจึงควรอ่านพระคัมภีร์ให้กระจ่างแจ้งเพื่อจะได้มองให้เห็นมนุษย์ในมุมมองของพระเจ้าอย่างชัดเจน ถูกต้องมากขึ้น… ใช่ครับ! พระคัมภีร์เป็นพระวจนะแห่งปัญญาและฤทธิ์เดชที่เราทุกคนต้องอ่าน และเข้าใจ หากเราต้องการใช้ชีวิตในโลกนี้อย่างคุ้มค่า ตรงวัตถุประสงค์ของพระเจ้า พระผู้สร้างมากที่สุด นอกจากนี้ เราควรใช้ชีวิตตามพระวจนะของพระเจ้าในการเตรียมตัวของเราและคนอื่น ๆ ให้พรักพร้อมสำหรับการทำดีตามพระประสงค์ของพระเจ้าให้เต็มที่ด้วย
“เพื่อคนของพระเจ้าจะมีความสามารถและพรักพร้อมเพื่อการดีทุกอย่าง” (2ทธ.3:17)
ขอให้ความคิดของเราถูกครอบครองด้วยพระวจนะของพระเจ้าอยู่เสมอ ดังที่ มาร์ติน ลูเธอร์ เคยกล่าวว่า …. “จิตสำนึกผิดชอบของข้าพเจ้า ถูกครอบครองโดยพระวจนะของพระเจ้า” (My Conscience is captive to The Word of God.)
พระวจนะของพระเจ้า สำคัญต่อเรายิ่งนัก เพราะว่า
- พระวจนะของพระเจ้าทำให้เราสามัคคีธรรมกับพระเจ้าได้ (ยน.15:7)
- พระวจนะของพระเจ้าทำให้เราเกิดความเชื่อศรัทธา (รม.10:17)
- พระวจนะของพระเจ้า ทำกิจควบคู่กับพระวิญญาณบริสุทธิ์ในชีวิตของเรา (ยน.16:13) และ
- พระวจนะของพระเจ้า ทำให้เราเรียนรู้จักพระเจ้าและพระทัยของพระองค์อย่างถูกต้อง (มธ.11:28-30)
ดังนั้น นับจากวันนี้เป็นต้นไป ขอให้เราจัดเวลาที่จะอ่าน ศึกษา ใคร่ครวญ และปฏิบัติตามพระวจนะของพระเจ้าเป็นประจำ เพราะพระวจนะของพระเจ้าให้ทั้งปัญญา และสิทธิอำนาจ ในการเปลี่ยนแปลงชีวิตของเรา และคนในโลกนี้ได้อย่างมหัศจรรย์
…ถ้าเห็นด้วยก็ขอให้พวกเราลงมือทำเลย
จะดีไหมครับ?
-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-
twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, /twitter.com/lifeanswer, facebook.com/lifeanswer
(Cr.ภาพ Blog Bible)