คุณจะเอาชนะการล่อลวงของบาปได้อย่างไร
อย่าให้คนที่ถูกล่อลวงกล่าวว่า “พระเจ้าทรงล่อลวงข้าพเจ้า” เพราะว่าพระเจ้าจะไม่ถูกความชั่วล่อลวง และพระองค์เองก็ไม่ทรงล่อลวงใครเลย 14แต่ทุกคนถูกล่อลวงด้วยตัณหาของตัวเอง คือถูกตัณหานั้นล่อลวงและชักนำ (ยากอบ 1:13-14)
ผมอยากให้คุณนึกภาพท่อนเหล็กกว้างหกนิ้ววางอยู่บนพื้นข้างถนน ถ้ามีคนมาขอให้คุณลองเดินไปบนเหล็กท่อนนั้นขณะวางบนพื้น คุณก็คิดว่าได้ สบายมาก แต่ถ้าคุณเอาท่อนเหล็กเดียวกันนี้ไปพาดอยู่ระหว่างสองตึกสูงราว 200 ฟุต คุณคงจะคิดอีกอย่างแน่!
นี่คือสิ่งเดียวกับการทดลอง ใช่หรือไม่? เราดำเนินชีวิตแต่ละวันโดยคิดว่า “เฮ้ นี่ไม่เลวเลย ลองดู น่าจะรับมือไหว” แต่แล้วมีบางคนเข้ามาเกี่ยวข้อง หรือมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น เราก็เริ่มกลัว ถอนสายตาออกจากสิ่งที่ทำอยู่ ปล่อยให้ความกลัวดันเราไปจนพ่ายแพ้การทดลอง
ความจริงคือการเชื่อฟังก็คือการเชื่อฟังไม่ว่าจะเผชิญสถานการณ์อะไร ที่แตกต่างคือมุมมองของเรา โดยทั่วไปเราจะซื่อสัตย์ในเรื่องเงินทองได้ง่ายเมื่อประสบความสำเร็จ แต่เมื่อเงินขาดมือ การทดลองก็เข้ามาให้ทำในสิ่งที่ไม่โปร่งใส ไม่ใช่เพราะมาตรฐานของพระเจ้าเปลี่ยนไป แต่มุมมองของเราที่เปลี่ยนไป
คำถามคือ คุณจะวางใจในพระเจ้าและพระคำของพระองค์ในท่ามกลางสถานการณ์เหล่านั้นหรือเปล่า? หรือคุณจะปล่อยให้ความกลัวเข้ามาเกาะกุมหัวใจ และยอมแพ้ต่อการทดลอง?
มุมมองเปลี่ยนแปลงได้ แต่พระวจนะของพระเจ้าไม่เคยเปลี่ยน จงยึดมั่นในความจริงในทุกสถานการณ์ที่คุณเผชิญและมุ่งตรงไปที่พระเจ้า!
อย่าปล่อยให้มุมมองของคุณเบนคุณออกไปจากการเชื่อฟัง
วางใจในพระเจ้าและพระวจนะของพระองค์ เพราะพระองค์ไม่ทรงเปลี่ยนแปลง
อนุญาตโดย Pastor Jack Graham
Jack Graham Power Point Ministry: www.jackgraham.org
(Cr.ภาพ Pinterest.com)