คนที่รับการอภัยควรเป็นคนที่ให้อภัย
ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ทรงซื่อสัตย์และเที่ยงธรรม ก็จะทรงโปรดยกบาปของเรา และจะทรงชำระเราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น (1 ยอห์น 1:9 THSV11)
ในชั้นเรียนพระคัมภีร์เช้าวันอาทิตย์กำลังเรียนเรื่องการให้อภัย ครูถามนักเรียนในชั้นว่าเราต้องทำอะไรจึงจะได้รับการอภัยจากพระเจ้า ทั้งชั้นเงียบไปชั่วครู่ แล้วเด็กผู้ชายคนหนึ่งก็ยกมือตอบว่า “ต้องทำบาปครับ”
เป็นความจริง เราต้องทำบาปก่อน และเราก็มีความสามารถทำได้ เราทำบาปมากกว่าจะตระหนักได้ ใช่ครับ เมื่อเป็นเช่นนี้ เราต้องขอการอภัยจากพระเจ้า คริสเตียนส่วนใหญ่เข้าใจดีว่าพระเจ้าทรงมีพระคุณ ให้อภัยบาปเรา แม้เราไม่สมควรจะได้รับ พระองค์บอกเราว่า “ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ทรงซื่อสัตย์และเที่ยงธรรม ก็จะทรงโปรดยกบาปของเรา และจะทรงชำระเราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น” (1 ยอห์น 1:9 THSV11)
เป็นเรื่องน่าทึ่งนะครับ หลักๆแล้วเราเข้าใจดี แต่อาจซับซ้อนหน่อยสำหรับบางคน คนที่ได้รับการอภัยควรเป็นคนที่ให้อภัยผู้อื่นได้ เราต่างก็ได้รับการอภัยจากพระเจ้า ดังนั้นเราควรมอบการอภัยเดียวกันนี้ให้ผู้อื่น – โดยเฉพาะกับคนที่ทำผิดต่อเรา
ซี เอส ลูวิส เขียนไว้ว่า “ทุกคนพูดว่าการให้อภัยเป็นแนวคิดที่ดีเยี่ยม จนกระทั่งพวกเขาต้องให้อภัย”
จริงไหมครับ? การให้อภัยเป็นทฤษฎีที่ดีเยี่ยม แต่ทำให้ได้นั้นยากกว่า
ผมเคยอ่านบทค้นคว้าเรื่องการให้อภัย ผลสำรวจเปิดเผยว่า 75 เปอร์เซ็นต์ของคนที่ถูกสอบถามเชื่อว่าพระเจ้าทรงให้อภัยบาปในอดีตของพวกเขาแล้ว แต่มีเพียง 52 เปอร์เซ็นต์ที่ให้อภัยผู้อื่นได้ เรามีปัญหานะครับ
พระวจนะกล่าวว่า ถ้าเราทูลขอการอัยจากพระเจ้า เราก็ควรให้อภัยผู้อื่นได้ ชีวิตเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและผิดหวัง เรามีคนที่ทำให้เราเสียใจ เกิดอะไรขึ้นทราบไหม? และคนอื่นๆก็เสียใจด้วย เราต้อเรียนรู้วิธีขอโทษและขออภัย และเราต้องเรียนรู้วิธีให้อภัย
บางคนอาจพูดว่า “เดี๋ยวนะครับ คุณไม่รู้หรอกว่าเขาทำอะไรกับผมบ้าง คุณไม่รู้หรอกว่าผมต้องเจอกับอะไรในชีวิตเพราะเขา อภัยให้ไม่ไหวหรอก”
ครับ ผมคงตอบอะไรไม่ได้ แต่นี่คือสิ่งที่พระคัมภีร์พูด และนี่เป็นเหตุผลสำคัญที่สุดที่เราควรให้อภัยคนที่ทำผิดต่อเรา พระเจ้าสั่งเราให้ทำ ผมคิดว่าเราไม่ควรไปหาเหตุผลอะไรอีก แต่ก็ยังมีเรื่องเล็กๆน้อยๆบางเรื่อง
พระคัมภีร์บอกเราว่า “แต่จงมีใจกรุณา ใจสงสาร และใจให้อภัยแก่กันและกัน เหมือนอย่างที่พระเจ้าทรงให้อภัยพวกท่านในพระคริสต์” และ “จงอดทนต่อกันและกัน และถ้าใครมีเรื่องราวต่อกัน ก็จงให้อภัยกัน องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้อภัยพวกท่านอย่างไร ท่านก็จงทำอย่างนั้นด้วย” (เอเฟซัส 4:32; โคโลสี 3:13 THSV11)
การไม่ให้อภัยผู้อื่นอาจทำให้ชีวิตแห่งการอธิษฐานของคุณต้องหยุดชะงัก พระเยซูตรัสว่า “และเมื่อพวกท่านยืนอธิษฐานอยู่ ถ้าพวกท่านมีเรื่องกับใคร จงยกโทษให้คนนั้น เพื่อว่าพระบิดาของพวกท่านผู้สถิตในสวรรค์ จะทรงยกโทษความผิดของพวกท่านด้วย” (มาระโก 11:25 THSV11)
ทั้งหมดสรุปได้ว่า “คนที่ได้รับการอภัยควรเป็นคนที่ให้อภัยผู้อื่นได้”
การให้อภัยเป็นแนวคิดที่ดี แต่เมื่อเราต้องเป็นฝ่ายให้อภัยอาจทำได้ไม่ง่ายนัก
โดย: Pastor Greg Laurie
อนุญาตโดย Harvest Ministries with Greg Laurie
PO Box 4000,Riverside,CA92514
(Cr.ภาพ Pinterest.com)