ความตายยังไม่ใช่ตอนจบ
และโลกกับสิ่งยั่วยวนของโลกกำลังผ่านพ้นไป แต่คนที่ประพฤติตามพระทัยของพระเจ้าจะดำรงอยู่เป็นนิตย์ (1ยอห์น 2:17)
นักวิชาการพระคัมภีร์ อี เอ็ม บาวนส์ เขียนว่า “สวรรค์ควรเติมเต็มหัวใจของเรา ทุกส่วนในร่างกาย ท่าที การกระทำและคำพูด เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราเป็นคนแปลกถิ่นที่ในโลกนี้ … สวรรค์เป็นบ้านเกิดเมืองนอนและเป็นบ้านถาวรของเรา และความตายไม่ใช่นาทีสุดท้ายของชีวิต แต่เป็นนาทีแรกที่เริ่มต้นนิรันดร์กาลของเรา”
ชีวิตในโลกนี้ผ่านไปรวดเร็วมาก และเรารู้ดีว่าอีกไม่นานจะได้พบกับคนที่เรารักที่จากไปก่อนหน้า จะได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเข้าเฝ้าองค์พระผู้เป็นเจ้า การจากไปของผู้เชื่อเป็นเพียงเว้นวรรค ไม่ใช่ตอนจบ โลกเป็นที่ชั่วคราว เป็นสถานที่ๆเราต้องตัดสินใจว่าจะไปอยู่ที่ไหนในนิรันดร์กาล วันหนึ่งข้างหน้า พระเยซูคริสต์จะเรียกชื่อผู้เชื่อทุกคนให้ไปสวรรค์ ไม่ว่าจะถูกรับขึ้นไปหรือจากไปก่อนหน้า
สวรรค์เป็นบ้านถาวร และเป็นความหวังของเราขณะอยู่ที่นี่ อย่างที่ วอร์เรน ไวร์เอสบ์กล่าว “สำหรับคริสเตียน สวรรค์คือจุดหมายปลายทาง เป็นความหวังและแรงบันดาลใจ”
พระคัมภีร์เตือนเราใน 1ยอห์น 2: “อย่ารักโลกหรือสิ่งของในโลก …เพราะว่าทุกสิ่งที่อยู่ในโลก คือตัณหาของเนื้อหนังและตัณหาของตา และความทะนงในลาภยศไม่ได้มาจากพระบิดา แต่มาจากโลก และโลกกับสิ่งยั่วยวนของโลกกำลังผ่านพ้นไป แต่คนที่ประพฤติตามพระทัยของพระเจ้าจะดำรงอยู่เป็นนิตย์” (ข้อ 15–17)
แล้วคนที่ ไม่อาจทำสิ่งต่างๆตามที่หวังอยากทำ อาจเป็นเพราะเจ็บป่วยหรือพิการ หรือคนที่จบชีวิตลงตั้งแต่อายุยังน้อยเล่า?
แน่นอน พระเจ้ามีวิธีของพระองค์ และพระองค์จะไม่ปล่อยให้ชีวิตของผู้เชื่อคนใดสูญเปล่า
ความตายสำหรับผู้เชื่อ ไม่ใช่ตอนจบ แต่เป็นรอยต่อเข้าสู่สถานที่ใหม่และชีวิตใหม่
อย่าลืมว่าโลกนี้ชั่วคราว เป็นสถานที่ๆให้เราเลือกว่าเราจะไปอยู่ที่ไหนในนิรันดร์กาล
โดย: Pastor Greg Laurie
อนุญาตโดย Harvest Ministries with Greg Laurie
PO Box 4000,Riverside,CA92514
(Cr.ภาพ Wilhelm Pfeiffer -The image works)