คุณไม่อาจมีสิ่งหนึ่งและขาดอีกสิ่งได้
ในปีที่หนึ่งแห่งรัชกาลของท่าน ข้าพเจ้าดาเนียล ได้ดูในหนังสือพบจำนวนปี ซึ่งตามพระวจนะของพระยาห์เวห์ที่ทรงมีถึงเยเรมีย์ผู้เผยพระวจนะ จะต้องผ่านพ้นไปก่อนสิ้นวันกรุงเยรูซาเล็มร้างเปล่า คือจำนวน 70 ปี แล้วข้าพเจ้าก็หันหน้าไปหาพระเจ้าองค์เจ้านาย แสวงหาด้วยการอธิษฐานและการวิงวอน ทั้งด้วยการอดอาหาร และนุ่งห่มผ้ากระสอบและนั่งบนขี้เถ้า (ดาเนียล 9:2-3)
อะไรที่ทำให้ดาเนียลต้องหันหน้าไปหาพระเจ้า?
เพราะท่านได้อ่านจากหนังสือตามพระวจนะของพระยาเวห์ที่ทรงมีถึงผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์ เมื่อดาเนียลได้ศึกษาพระธรรมเยเรมีย์ พระเจ้าทรงแสดงให้ท่านเห็นคำพยการณ์ ชาวยิวประชากรของพระองค์จะต้องเข้าสู่โครงการตกเป็นเชลยในบาบิโลนเจ็ดสิบปี (เยเรมีย์ 25:11) และพระเจ้าได้ทรงกำหนดสิ่งต่างๆที่พวกเขาต้องทำในระหว่างเจ็ดสิบปีนั้น และเมื่อใกล้ครบเวลา พระเจ้าตรัสผ่านเยเรมีย์ไปถึงดาเนียลว่า “เราจะพิพากษาบาบิโลน”
ตอนนี้ดาเนียลกำลังเผชิญวิกฤติ ท่านจึงอธิษฐาน แต่สิ่งใดกระตุ้นให้ท่านอธิษฐาน?
เมื่ออ่านพระวจนะ ดาเนียลมองเห็นพิมพ์เขียวและรู้ว่าท่านกำลังอยู่ในช่วงใกล้จบลง จึงทูลขอสติปัญญาจากพระเจ้า
เราเรียนรู้สิ่งใดจากเรื่องนี้?
การศึกษาพระวจนะและคำอธิษฐานขึ้นและลงไปพร้อมๆกัน ชีวิตการศึกษาพระวจนะของคุณจะยิ่งใหญ่กว่าชีวิตแห่งการอธิษฐานหรือในทางกลับกันไม่ได้ คุณไม่อาจแยกการศึกษาพระวจนะจากการอธิษฐานได้
ดังนั้นเมื่ออ่านพระคัมภีร์ พระวจนะจะคอยเตือนให้คุณอธิษฐาน และเมื่อคุณอธิษฐาน ชีวิตแห่งการอธิษฐานจะกระตุ้นให้คุณอ่านพระวจนะ ทั้งคู่ต้องจูงมือไปด้วยกัน เมื่อคุณอ่านพระวจนะ พระเจ้ากำลังตรัสกับคุณ คำอธิษฐานของคุณคือการพูดคุยกับพระเจ้า และไม่ควรเป็นการสื่อสารทางเดียวไม่ว่าจะจากฝ่ายใดก็ตาม
โดย Pastor Adrian Rogers’ daily devotional
อนุญาตโดย Love worth finding Ministries: www.lwf.org
(Cr.ภาพ washingtonpost.com)