คุณจะศึกษาพระคัมภีร์ด้วยตัวเองอย่างไรเพื่อจะไม่อดตาย?
“จงศึกษาพระคัมภีร์เพื่อที่จะฉลาด จงเชื่อพระคัมภีร์ เพื่อจะปลอดภัย จงปฏิบัติตามพระคัมภีร์ เพื่อจะบริสุทธิ์”
(Study the Bible to be wises; Believe it to be safe; Practice it to be holy.)
โดยปกติขั้นตอนการศึกษาพระคัมภีร์มี 3 ขั้นตอนพื้นฐาน คือ
- สังเกตดี (Observation)
- ตีความถูก (Interpretation)
- ประยุกต์เหมาะ (Application)
I ในขั้นตอนการสังเกต (Observation)
เวลาอ่านพระคัมภีร์ เราจะดูให้รู้ว่า “พระคัมภีร์ตอนนั้นพูดอะไรและพูดอย่างไร?” เราจะมองดูที่คำศัพท์ (terms)
- โครงสร้าง (structure) หรือย่อหน้า (paragraph)
- การเน้น (Emphasis)
- การพูดซ้ำ (Repetition)
- ความสัมพันธ์ของแนวความคิด (Relationship between ideas)
- เหตุและผล (cause – and – effect)
- เงื่อนไข (ifs and thens)
- คำถาม และคำตอบ (questions and answers)
- การเปรียบสิ่งที่เหมือน และสิ่งที่ต่าง (comparisons and contrasts)
- รูปแบบวรรณกรรม (Literary form)
- บรรยากาศ (Atmosphere)
ในขั้นตอนนี้ เราต้องรู้จักใช้คำถามว่า
- ใคร?
- ทำอะไร?
- ที่ไหน?
- เมื่อไร?
- กับใคร?
หรือ 6) อย่างไร?
II ในขั้นตอนการตีความ (Interpretation)
เวลาอ่านเราจะมองหา “ความหมาย” ของเนื้อหาพระคัมภีร์ตอนที่อ่านนั้น เราจะค้นหา ความคิดหรือแนวคิดหลักของผู้เขียน โดยการ
- อ่านบริบท (Context) ให้ถี่ถ้วน
- โยงกับตอนอื่น (Cross-reference)
- เข้าใจวัฒนธรรมประเพณี (Culture)
- สรุปความหมาย (Conclusion)
- หาความรู้คำอธิบาย (จากผู้รู้) (Consultation)
III ในขั้นตอนการประยุกต์ใช้ (Application)
หลังจากอ่าน สังเกต และตีความหมายเป็นที่เข้าใจแล้ว เราต้องนำความจริงนั้นมาประยุกต์ ปฏิบัติใช้ในชีวิตจริง ด้วยความเชื่อฟังพระเจ้า เพื่อจะเติบโตขึ้นเหมือนพระเยซูคริสต์ เราอาจถามคำถามต่อไปนี้
- ความจริง (บทเรียน) ที่รับการเปิดเผยนี้ ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระเจ้าอย่างไร?
- ความจริงนี้ ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของเรากับคนอื่นอย่างไร?
- ความจริงนี้ส่งผลกระทบต่อตัวของฉันอย่างไร?
- ความจริงนี้ ส่งผลกระทบต่อการตอบสนองของฉันต่อปัญหาหรือการทดลองอย่างไร?
หากว่าคุณรู้จักวิธีอ่านและศึกษาพระคัมภีร์ ก็เหมือนกับคุณรู้วิธีทำอาหาร ดังนั้น หากตราบใดยังมีวัตถุดิบ (พระคัมภีร์) ตราบนั้น คุณจะไม่มีวันอดตาย (ในฝ่ายจิตวิญญาณ) อย่างแน่นอน
…เชื่อผมเถอะ!
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-
twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/lifeanswer, facebook.com/lifeanswer