เหตุผลที่ให้อภัย
จงเอาความขมขื่น ความฉุนเฉียว ความโกรธ การทุ่มเถียง การพูดจาดูหมิ่น รวมทั้งการร้ายทุกอย่างออกไปจากพวกท่าน แต่จงมีใจกรุณา ใจสงสาร และใจให้อภัยแก่กันและกัน เหมือนอย่างที่พระเจ้าทรงให้อภัยพวกท่านในพระคริสต์ (เอเฟซัส 4:31-32)
แม้ไม่รู้จักคุณ แต่ผมรู้ว่านี่เกี่ยวข้องกับคุณ : คุณเคยเจ็บปวด เคยมีคนพูดถึงในแง่ร้ายและทำเรื่องเห็นแก่ตัวกับคุณ มีเหตุการณ์ในชีวิตที่ไม่เป็นธรรมกับคุณ
คุณคิดว่ามีเหตุผลเพียงพอที่จะไม่ให้อภัยคนที่ทำร้ายคุณ เพราะพวกเขาไม่สมควรได้รับการอภัย แต่พวกเขาควรถามตัวเองว่าสมควรได้รับการอภัยหรือไม่ ตามที่ ซี เอส ลูวิสกล่าว “ทุกคนพากันพูดว่าการให้อภัยเป็นสิ่งที่ดี จนกว่าถึงคิวตัวเองที่ต้องให้อภัย”
พระวจนะพระเจ้ากล่าวว่าถึงการให้อภัยคนที่ทำผิดต่อเรา
และอย่าทำให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าเสียพระทัย ด้วยพระวิญญาณนั้นท่านได้รับการประทับตราไว้สำหรับวันที่จะได้รับการไถ่
จงเอาความขมขื่น ความฉุนเฉียว ความโกรธ การทุ่มเถียง การพูดจาดูหมิ่น รวมทั้งการร้ายทุกอย่างออกไปจากพวกท่าน 32แต่จงมีใจกรุณา ใจสงสาร และใจให้อภัยแก่กันและกัน เหมือนอย่างที่พระเจ้าทรงให้อภัยพวกท่านในพระคริสต์ (เอเฟซัส 4:30-32)
คำสั่งของพระเจ้าที่ให้อภัยน่าจะเพียงพอ แต่ผมอยากให้อีกสักเหตุผลว่าทำไมเราควรให้อภัยเพราะอาจต่อชีวิตให้ยืนยาวได้ มีการศึกษาไม่นานมานี้ที่บอกว่าคนที่ไม่ยอมให้อภัยมีแนวโน้มความดันโลหิตสูง ผลกระทบคือความฉุนเฉียว เครียด และกระวนกระวาย ดร.ชาล็อต แวน เอียนวิทไวเล็ต นักค้นคว้าจากมหาวิทยาลัยโฮป กล่าวว่า “ถ้าคุณยอมใช้ความพยายามทุกหนทางเพื่อจะให้อภัยได้ คุณก็จะได้ผลลัพท์ที่ดีต่ออารมณ์และสุขภาพของคุณ”
ผู้คนที่ศึกษาด้านการบำบัดด้วยยา ก็ยอมรับถึงผลดีของการให้อภัยนี้ด้วย เหมือนที่พระคัมภีร์กล่าวไว้นานแล้ว
เป็นการดีเสมอที่จะให้อภัยผู้อื่น
โดย: Pastor Greg Laurie
อนุญาตโดย Harvest Ministries with Greg Laurie
PO Box 4000,Riverside,CA92514
(Cr. ภาพ Pomgen.gov.pg)