ภาพที่ถ่ายตัวฉันเอง (เซลฟี่)
“อย่าทำสิ่งใดด้วยการชิงดีหรือถือดี แต่จงถือว่าคนอื่นดีกว่าตัวด้วยใจถ่อม” (ฟีลิปปี 2:3)
ตอนเป็นวัยรุ่นฉันชอบถ่ายรูปครอบครัวและเพื่อนๆ ไม่เคยขอให้ใครมาถ่ายรูปที่มีฉันคนเดียวสักครั้ง ทุกรูปต้องมีเพื่อนๆ ญาติพี่น้อง หรือกับ “พอคกี้” เจ้าแมวเทาตัวอ้วน … สมัยนั้นยังไม่มีการถ่ายภาพเซลฟี่ กล้องถ่ายรูปมันใหญ่เกินไปที่จะทำอย่างนั้น …แต่เวลาก็เปลี่ยนไปรวดเร็วจนน่าใจหาย
คำว่า “เซลฟี่” ถูกบัญญัติขึ้นในพจนานุกรมอ๊อกฟอร์ดในปี 2013 นิยามว่า “ภาพที่คนถ่ายภาพตนเองโดยใช้สมาร์ทโฟน หรือกล้องจากจอคอมพิวเตอร์ แล้วอัพขึ้นสังคมออนไลน์ “ เซลฟี่จึงนำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาสู่วิธีการถ่ายรูปของผู้คน
เราไม่ได้มองออกไปข้างนอก เรากำลังมุ่งมองมาที่ตัวเรา … เลนส์ไม่ได้ใช้จับจ้องไปที่ผู้อื่น แต่จับจ้องมาที่ตัวเรา
ลองค้นหาในอินเทอร์เน็ต “วิธีการถ่ายภาพเซลฟี่ให้เยี่ยมที่สุด” แล้วคุณจะได้ผลตอบกลับมามากกว่า 2.5 ล้านวิธี เริ่มจาก “ใช้แสงธรรมชาติ” ไปจนถึง “หันไปทางซ้ายอีกนิด” เซเลบคนหนึ่งกล่าวว่าเธอต้องถ่ายเซลฟี่ถึง 500 ภาพกว่าจะได้ที่ถูกใจเพื่อเอาขึ้นโพสท์ในโลกออนไลน์ บางบทความกล่าวว่าวัยรุ่นใช้เวลาเฉลี่ย 12 นาทีเพื่อถ่ายภาพเซลฟี่หนึ่งภาพ จากจัดเตรียมท่าทางไปจนถึงปรับโทนภาพให้ดูดีด้วยแอพต่างๆ
ถ่ายภาพเซลฟี่ผิดตรงไหน? ถ่ายภาพตัวเองโพสท์ให้เพื่อนๆดูเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าคุณหมกมุ่นกับการแต่งภาพเพื่อให้ตนเองดูดีที่สุดก่อนโพสท์ คุณก็กำลังมีปัญหา… หรือว่าวันๆคุณเอาแต่โพสท์ภาพเซลฟี่ของตัวเองลงในสังคมออนไลน์ บางอย่างคงไม่ใช่แน่นอน
พระวจนะวันนี้จาก อ เปาโลถึงคริสตจักรในเมืองฟีลิปปีสั่งว่า “อย่าทำสิ่งใดด้วยการชิงดีหรือถือดี…” (ฟีลิปปี 2:3ก) ถือดีหรือความหยิ่งเป็นศัตรูของวิญญาณ การใช้เวลาเลือกสรร คัดกรอง และตกแต่งภาพเพื่อให้ตัวเองดูดีที่สุดคือการเลี้ยงความหยิ่งให้ผยองขึ้นในชีวิต แต่ อ เปาโลกลับพูดถึงการให้คุณค่าผู้อื่นดีกว่าตนเอง เราควรต้องใส่ใจในสิ่งที่ผู้อื่นโพสท์ มากกว่าใส่ใจในสิ่งที่เราโพสท์ความเป็นตัวตนของเรา
ถ้าเพื่อนๆของคุณทำแบบนี้ แล้วมันทำให้คุณหัวปั่นด้วยความอิจฉาล่ะ? จำไว้ว่าคำตอบของ อ เปาโลคือปัญหาของความเห็นแก่ตัว : “…แต่จงถือว่าคนอื่นดีกว่าตัวด้วยใจถ่อม” (ฟีลิปปี 2:3ข) เมื่ออยู่ในโลกออนไลน์ จงระมัดระวังเมื่อคุณโพสท์ภาพตนเอง และใช้คำพูดออกความเห็นภาพของคนอื่น ในฐานะคริสเตียนเราต้องหนุนใจและให้กำลังใจผู้คน ไม่ใช่ยกย่องแต่ตัวเราเอง
อย่าตัดสินใคร อย่าใช้คำพูดวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่นอย่างรุนแรง แต่ให้เป็นการแบ่งปันพระคุณ ยกประโยชน์ให้ผู้ที่สงสัย เรามักจะคาดหวังจากผู้อื่นในขณะที่มีข้ออ้างมากมายให้ตัวเราเอง อย่าเข้าใจผิดว่าการถ่อมใจแปลว่ายอมให้ความคิดว่าตนเองต่ำต้อยและไร้ค่าในสายตาผู้อื่น ศิษยาภิบาลของฉันเคยพูดว่า “ความถ่อมใจไม่ใช่มองคุณค่าตัวเองลดลอง แต่เป็นการมองตัวเองให้น้อยลง”
คุณอาจไม่ชอบถ่ายภาพเซลฟี่ แต่อาจเป็นเหมือนฉัน คือต่อสู้กับการคิดถึงแต่ตัวเอง เรื่องของฉัน ปัญหาของฉัน แทนที่จะคิดถึงและอธิษฐานเผื่อผู้อื่น ยิ่งคุณส่องไฟไปที่ผู้อื่นเท่าใด คุณจะสุขใจและเติมเต็มมากเท่านั้น
บางทีช่วงนี้ลองให้โทรศัพท์ของคุณพักผ่อนจากการเซลฟี่ และย้อนกลับไปสมัยที่เราใช้กล้องเพื่อถ่ายภาพผู้อื่น เปลี่ยนเลนส์มองไปสู่ภายนอก ยิ้มให้เพื่อนๆ ญาติพี่น้อง หรือผู้คนที่เราถ่ายภาพ ไม่ใช่ยิ้มให้กล้องขณะถ่ายภาพตนเองน่าจะดีกว่านะคะ
โดย ARLENE PELLICANE
จาก Encouragement for today : www.christianity.com
(Cr.ภาพ littlethings.com)