ในความเงียบ
จิตใจของข้าพเจ้าสงบคอยพระเจ้าเท่านั้น เพราะความหวังของข้าพเจ้ามาจากพระองค์ (สดุดี 62:5)
เอลียาห์เป็นต้นแบบของคนที่ต้องหยุดพัก วันหนึ่งท่านได้รับชัยชนะ เป็นวีรบุรุษ แต่แล้วภาพที่เห็นต่อไป ท่านกลับไปนั่งอยู่ใต้ต้นซาก ในอาการตกหล่มแห่งการสงสารตนเอง คร่ำครวญขอให้พระเจ้าเอาชีวิตไป เอลียาห์ผู้น่าสงสารกำลังเหน็ดเหนื่อย เป็นความเหนื่อยที่มาเพราะชัยชนะ แต่มันก็คือความเหนื่อย
เอลียาห์เรียกไฟลงมาจากสวรรค์ เพื่อพิสูจน์ว่าพระยาเวห์คือพระเจ้าองค์เที่ยงแท้ที่ยังทรงพระชนม์ ท่านกำจัดรูปเคารพและคนที่กราบไหว้รูปเหล่านั้น เอลียาห์น่าจะเฉลิมฉลอง แล้วทำไมท่านถึงท้อแท้ขนาดนั้น? เพราะสตรีนางหนึ่ง เยเซเบล ต้นเหตุแห่งความท้อแท้ของท่าน
เยเซเบลเป็นหญิงชั่วร้าย เป็นภรรยาที่กุมอำนาจเหนืออาหับกษัตริย์แห่งอิสราเอล มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังราชบัลลังก์ของสามี เยเซเบลไม่ได้นมัสการพระเจ้าองค์เที่ยงแท้ของอิสราเอล แต่คลั่งไคล้กับพระต่างชาติ บาอัล พยายามยัดเยียดความเชื่อของนางให้ชาวอิสราเอล บุคคลท่านหนึ่งได้เข้ามาขวางทาง – เอลียาห์ – เมื่อเอลียาห์ท้าทายพวกผู้เผยวจนะของบาอัล ให้ไปจัดแสดงที่บนภูเขาคารเมล พระเจ้าทรงตอบคำอธิษฐานของท่าน ส่งไฟลงมาจากฟ้าสวรรค์ เราคงคิดกันว่าอัศจรรย์ขนาดนี้ อาหับและเยเซเบลคงมาเชื่อในพระเจ้า… แต่ไม่เลย ที่จริงพอรู้เรื่องนี้ เยเซเบลโกรธจัด และหาทางกำจัดเอลียาห์
ลองคิดสักครู่
พระเจ้าสถิตอยู่กับเอลียาห์ ทรงตอบคำอธิษฐานด้วยการอัศจรรย์ รูปเคารพถูกทำลาย ผู้เผยวจนะของบาอัลถ้าหนีไม่ทันก็ถูกสังหาร แต่เอลียาห์กลับไปกังวลกับผู้หญิงที่กำลังโกรธจัด ท่านเหน็ดเหนื่อยและจำเป็นต้องพัก – และก็ได้พักขณะนั่งอยู่ใต้ต้นซาก รอคอยพระเจ้าในความเงียบ
ฉันเป็นคนไม่ชอบคอย ไม่ชอบคอยใครหรืออะไร มองว่าช่วงเวลาชีวิตที่ต้องคอย เป็นการเสียโอกาสและไม่เกิดประโยชน์ พยายามหาทางร่นเวลาการคอยเสมอ และในความเงียบ ถ้ามีโอกาสพูด ฉันจะรีบพูด ส่วนใหญ่ในชีวิตฉันหลีกเลี่ยงการอยู่ลำพังหรืออยู่ในความเงียบ และได้เรียนรู้ว่าในฤดูกาลของความเงียบและการรอคอย ชีวิตและวัตถุประสงค์จะแตกต่างไป แต่ทั้งหมดนั้นเป็นไปเพื่อสิ่งดีสำหรับฉัน
ความเงียบบางครั้งเป็นเหมือนฝนพรำ บางเบา และสดชื่น ไม่ต้องทำอะไร พยายามป็นแบบไหน หรือค้นหาสิ่งใด พระบิดาทรงมอบความมั่นใจให้กับจิตใจที่หวาดวิตกและอ่อนล้า ทรงสถิตอยู่ด้วย แต่ก็มีบางเวลาที่การรอคอยในความเงียบกลับเหมือนตกลงไปในหลุมลึกที่ไม่มีก้นบึ้ง ไปไหนไม่ได้ มีแต่ความมืด คำถามที่ยังไม่ได้คำตอบ สันติสุขในใจเริ่มจางหาย ความโดดเดี่ยวทำให้ไม่เข้าใจว่าพระเจ้ากำลังทำสิ่งใด และไม่อยากคอยอีกต่อไป
อย่าสนใจว่าใคร หรือสิ่งใดดันคุณไปจนถึงใต้ต้นซาก ที่สำคัญคือการได้ไปอยู่ที่นั่น
อาการโรคซึมเศร้าทำให้ฉันต้องคุกเข่าลง และแสวงหาพระเจ้าอย่างที่ไม่เคยเป็น ที่นั่นพระวจนะเข้ามาในใจ เปลี่ยนเส้นทางชีวิตด้วยพระสัญญาจากหนังสือสดุดี 40:1-3:-
ข้าพเจ้า อดทนรอคอยพระยาห์เวห์ พระองค์ได้เอนพระองค์มายังข้าพเจ้า และฟังคำร้องทูลของข้าพเจ้า พระองค์ได้ทรงฉุดข้าพเจ้าขึ้นมาจากหลุมมรณะ ออกมาจากเลนตม แล้ววางเท้าของข้าพเจ้าลงบนศิลา ทำให้ย่างเท้าของข้าพเจ้ามั่นคง พระองค์ได้ทรงบรรจุเพลงใหม่ในปากข้าพเจ้า เป็นบทเพลงสรรเสริญพระเจ้าของเรา คนมากมายจะเห็นและเกรงกลัว และวางใจในพระยาห์เวห์
เมื่ออ่านหนังสือสดุดี ในความเงียบใต้ต้นซาก ฉันเริ่มหยั่งรากลงไป เรียนรู้ที่จะรอคอย เพราะเป็นสถานที่ๆทำให้ฉันร้องหาพระเจ้า และมีทางเลือกให้วางใจในยามสิ้นหวัง เหมือนเด็กที่ไปต่อไม่ได้ และตระหนักว่าไม่ว่าคนหรือสถานการณ์ที่ทำให้ทุกข์ใจจนร้องเรียกหาพระเจ้า คือพระพรที่พระองค์ประทานให้
ฉันกำลังเรียนรู้การอยู่ในความเงียบและรอคอย เป็นของขวัญจากพระหัตถ์พระเจ้า การได้นั่งนิ่งอยู่ใต้ต้นซาก เป็นสิ่งที่ดี และเราทุกคนจำเป็นต้องมีช่วงเวลานั้น… คุณเคยมีหรือยัง?
โดย Mary Southerland
อนุญาตโดย Girlsfriends in God : www.crosswalk.com
(Cr.ภาพ by Yongsun Kim)