รู้ได้อย่างไรว่าไม่เคยสาย
“เรารัก ก็เพราะพระองค์ทรงรักเราก่อน” (1 ยอห์น 4:19)
ยี่สิบห้าปีที่แล้ว ฉันโอบกอดลูกน้อยไว้ในอ้อมแขน เป็นทารกหญิงที่แม้ตัวจะเล็ก แต่ดงามเหลือเกิน ที่สำคัญเธอเป็นลูกน้อย “ของฉัน”
ตอนนั้นฉันอายุเพียง 19 ปี เป็นคุณแม่ที่ยังไม่พ้นวัยรุ่น เป็นเพียงนักเรียนชั้นเตรียมอุดม ปีที่ลูกสาวฉันเกิดเป็นปีที่ยากลำบากที่สุดในชีวิต – ใช่ค่ะยาก…ยากมาก
ผลทดสอบบอกความจริงถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในชีวิต – ฉันกำลังตั้งครรภ์ – ความจริงว่าฉันไร้ค่า ทำชีวิตพังทลาย และสร้างความผิดหวังให้กับคนที่ฉันรัก และรักฉัน ฉันกำลังจะเป็น “แม่คน” ในช่วงที่ชีวิตยังเป็นเด็กอยู่มาก และหมดโอกาสเป็น “เด็กดี” อย่างที่เคยตั้งใจไว้ … ทำให้อดสงสัยไม่ได้ “พระเจ้ายังทรงรักคนอย่างฉันอีกหรือ?”
ความเจ็บปวด บวกกับความตระหนกและความเสียใจที่โถมเข้ามา ความไม่แน่ใจว่าจะมีใครรักคนอย่างฉันได้ คิดว่าตัวเองหลุดลอยไปจากพระคุณของพระเจ้าแล้ว แม้รู้ว่าพระองค์ยังทรงรัก แต่ฉันสัมผัสรักนั้นไม่ได้ เหมือนถูกทิ้งให้อยู่ลำพังในที่มืดและหนาวเย็น
ในช่วงเวลาที่โดดเดี่ยวนั้น ฉันเปิดพระคัมภีร์ ค้นหาพระวจนะที่จะช่วยย้ำว่าพระเจ้ายังรักฉัน แน่นอนพระองค์ยังทรงรัก แต่ฉันต้องการสิ่งที่พิสูจน์ได้ ต้องการคำย้ำเตือนเพื่อมีที่พักพิงใจ และคำปลอบโยน ไม่ว่าชีวิตจะเป็นอย่างไร ขอพระองค์ทรงอยู่ด้วย
ฉันเขียนพระวจนะข้อหนึ่งลงในกระดาษ จากหนึ่งบันทัดเป็นสอง เป็นสาม สี่ ห้า และเป็นสามสี่หน้ากระดาษ เพื่อให้พระวจนะข้อนั้นย้ำเข้าไปในหัวใจ “พระเจ้าทรงรักฉัน” … ฉันเก็บกระดาษนั้นไว้กับตัวเสมอ พับไว้ในกระเป๋า ใส่ในเป้เมื่อเข้าไปในชั้นเรียน
เมื่อเวลาผ่านไป ฉันได้เรียนรู้ว่าความรักที่พระเจ้ามีให้นั้น ไม่มีเงื่อนไข แม้พระองค์ปรารถนาให้เชื่อฟังพระวจนะและเดินในทางชอบธรรม แม้จะทำไม่ได้ตามที่ทรงคาดหวัง แต่พระองค์ยังทรงยอมรับฉัน ไม่ว่าฉันต้องเผชิญกับผลที่ตัวเองเลือกทำ ความรักของพระเจ้ายังคงอยู่ ไม่เปลี่ยนแปลง
เมื่อท่องพระคำข้อนี้ที่เป็นความรักของชีวิตซ้ำไปซ้ำมา ฉันเรียนรู้ที่จะเชื่อในความรักนั้นในมุมที่ลงลึกและเป็นจริง และเมื่อเข้าใจในรักพระเจ้ามากขึ้น ยิ่งปรารถนาจะตอบแทนพระองค์ด้วยรักจนหมดหัวใจ “เรารัก ก็เพราะพระองค์ทรงรักเราก่อน” (1 ยอห์น 4:19)
มาวันนี้ ฉันกลับไปดูกระดาษเหล่านั้น แม้จะเก่าไปตามเวลา รำลึกถึงความรักที่พระเจ้ามอบให้กับคนที่ไม่สมบูรณ์แบบอย่างฉัน นอกจากจะรักฉันอย่างไม่มีเงื่อนไขแล้ว ยังเป็นผู้ที่รักฉันก่อนเสมอ ไม่ได้รอให้ฉันรักพระองค์ก่อน หรือเมื่อฉันพร้อม แต่ทรงรักฉันก่อน รักเรื่อยมา และจะรักตลอดไป เพื่อให้ฉันได้เป็นสตรีตามที่พระองค์ทรงสร้างมา
จากวัยรุ่นที่ตั้งครรภ์ในวัยเรียน ฉันเรียนรู้ผลของมันด้วยความยากลำบาก แต่สิ่งหนึ่งไม่เคยเปลี่ยน
พระเจ้าทรงรักฉัน รักมากและเชื่อในคุณค่าที่สร้างฉันมา ทรงคิดถึงฉันเสมอไม่ว่าชีวิตจะเป็นอย่างไร ทำให้เข้าใจ พระองค์ปรารถนาให้ดำเนินชีวิตอย่างไรเพื่อบรรลุตามพระประสงค์ – เป็นสตรีที่งดงาม แข็งแกร่ง และมีพลังในพระองค์
ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ ไม่เคยสายที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิต … จากที่ผิดพลาด หลงทาง หรือใช้ชีวิตหมดไปวันๆ ให้เป็นชีวิตที่เริ่มต้นใหม่ และรู้ว่าควรเดินหน้าไปอย่างไร
ฉันรู้ได้อย่างไรว่าไม่เคยสายที่จะรู้จักความรักของพระเจ้า?
เพราะไม่เคยสายไปสำหรับฉัน และที่ฉันรู้ – ไม่เคยสายไปสำหรับคุณด้วย
แสวงหาพระเจ้า แสวงหาพระทัย พระวจนะ และความรักของพระองค์ เพื่อความหวังในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ชีวิตอย่างที่พระเจ้าสร้างให้เราเป็น “สตรีในพระเจ้า”
โดย Chrystal Evan Hurst
จาก Encouragement for today : Christianity.com
(Cr.ภาพ Shoenstatt.org)