ทำไมต้องระวังความคิดของเรา?
“จงระวังความคิดของคุณให้ดี เพราะว่าความคิดของเราได้ยินไปถึงสวรรค์”
(Guard well your thoughts; Our thoughts are heard in heaven.) -Owen D. Young-
ในพระคัมภีร์เล่มแรกคือ พระธรรมปฐมกาล ได้เล่าให้เราทราบว่า … พระเจ้าทรงเห็นเค้าความคิดในใจทั้งหมดของมนุษย์
“5พระยาห์เวห์ทรงเห็นว่าความชั่วร้ายของมนุษย์มีมากบนแผ่นดิน และทรงเห็นว่าเค้าความคิดในใจทั้งหมดของเขาล้วนเป็นเรื่องชั่วร้ายตลอดเวลา 6พระยาห์เวห์เสียพระทัยที่ทรงสร้างมนุษย์ไว้บนแผ่นดินและโทมนัสยิ่งนัก 7พระยาห์เวห์จึงตรัสว่า “เราจะกวาดล้างมนุษย์ที่เราได้สร้างมานี้ไปเสียจากแผ่นดิน ทั้งมนุษย์และสัตว์ใช้งาน กับสัตว์เลื้อยคลานและนกในอากาศด้วย เพราะว่าเราเสียใจที่ได้สร้างพวกเขา” (ปฐมกาล 6:5-7)
พระธรรมตอนนี้เปิดเผยความจริงว่า
- พระเจ้าทรงเห็นความชั่วร้ายของมนุษย์ทวีมากยิ่งขึ้น
- พระเจ้าทรงทราบเค้าความคิด(ความคิดจิตใจ) ของพวกเขาล้วนโน้มเอียงไปในทางชั่วร้ายอยู่เสมอตลอดเวลา
- พระเจ้าทรงเสียพระทัยที่ทรงสร้างมนุษย์ไว้บนแผ่นดิน
- พระเจ้าทรงโทมนัสปวดร้าวในพระทัยยิ่งนักกับสิ่งที่มนุษย์คิดและทำ
- พระเจ้าทรงตัดสินพระทัยที่จะกวาดล้างมนุษย์ไปเสียจากผืนแผ่นดิน รวมทั้ง สัตว์ใช้งาน สัตย์เลื้อยคลาน และนกในอากาศด้วย
ในพระธรรมปฐมกาล 6:11-12 อธิบายเพิ่มเติมว่า … ในขณะนั้น โลกเสื่อมทรามมากในสายพระเนตรของพระเจ้า และเต็มไปด้วยความโหดร้ายทารุณ พระเจ้าจึงจะนำจุดจบมาถึงคนทั้งปวง!
เราทราบว่า พระเจ้าทรงให้โนอาห์สร้างเรือเพื่อช่วยคนในโลกที่สำนึกกลับใจขึ้นเรือเพื่อรอดพ้นจากความพินาศ แต่ก็น่าเศร้าที่ไม่มีใครเชื่อและกลับใจ อีกทั้งยังคงดำเนินชีวิตตามที่เป็นมา จนกระทั่งสายเกินไป
“37เพราะว่าสมัยของโนอาห์เคยเป็นอย่างไร เมื่อบุตรมนุษย์เสด็จมาก็จะเป็นอย่างนั้น 38เพราะว่าก่อนวันน้ำท่วมนั้น คนทั้งหลายพากันกินดื่มกัน สมรสกันและยกให้เป็นสามีภรรยากัน จนถึงวันที่โนอาห์เข้าไปในเรือใหญ่ 39และน้ำท่วมกวาดเอาพวกเขาไปทุกคนโดยไม่ทันรู้ตัวอย่างไร เมื่อบุตรมนุษย์เสด็จมาก็จะเป็นอย่างนั้น” (มธ.24:37-39)
มีแต่โนอาห์และคนในครอบครัว ทั้งหมด 8 คน เท่านั้นที่เชื่อฟัง ขึ้นเรือ และรอดตาย!
“ซึ่งในสมัยก่อนไม่เชื่อฟังพระเจ้า คราวเมื่อพระเจ้าทรงอดทนรอคอยให้กลับใจในสมัยโนอาห์ ขณะที่ท่านกำลังต่อเรือใหญ่ ในเรือนั้นมีน้อยคน คือแปดชีวิตรอดผ่านน้ำ” (1ปต.3:20)
“และไม่ได้ทรงยกเว้นโลกสมัยโบราณ แต่ได้ทรงคุ้มครองโนอาห์ผู้ประกาศความชอบธรรม กับคนอื่นอีกเจ็ดคน เมื่อคราวที่พระองค์ได้ทรงบันดาลให้น้ำท่วมโลกของคนอธรรม” (2ปต.2:5)
น่าเศร้าที่ตลอดประวัติศาสตร์มนุษย์ ล้วน 1. คิดชั่ว 2. ทำชั่ว และทำให้โลกนี้เสื่อมทรามลง
ในสมัยแรกพระเจ้าทรงล้างโลกด้วยน้ำ แต่ในวาระสุดท้ายนี้ พระเจ้าจะทรงล้างโลกด้วยไฟ!
ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยของชีวิตเราตลอดนิรันดร์ ขอให้เราคิดใหม่ กลับใจใหม่ และดำเนินชีวิตใหม่อย่างที่พระเจ้าพอพระทัย คือ บริสุทธิ์และยำเกรงพระเจ้าเพื่อเราจะได้รับความรอดและจะได้อยู่ในแผ่นดินใหม่ของพระองค์
“8แต่ท่านที่รักทั้งหลาย อย่ามองข้ามความจริงข้อนี้เสีย คือวันเดียวของพระเจ้าเป็นเหมือนกับพันปี และพันปีก็เป็นเหมือนกับวันเดียว 9องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรงเฉื่อยช้าในเรื่องพระสัญญาของพระองค์ ตามที่บางคนคิดนั้น แต่ทรงอดทนกับพวกท่าน พระองค์ไม่ทรงประสงค์ให้ใครพินาศเลย แต่ประสงค์ให้ทุกคนกลับใจใหม่ 10แต่วันขององค์พระผู้เป็นเจ้านั้น จะมาถึงเหมือนอย่างขโมยและในวันนั้น ฟ้าจะหายลับไปด้วยเสียงดังกึกก้อง และโลกธาตุจะสลายไปด้วยไฟ และแผ่นดินกับสิ่งสารพัดที่มีอยู่บนนั้นจะถูกเผาจนหมดสิ้น 11เมื่อเห็นแล้วว่าทุกสิ่งจะต้องสลายไปเช่นนี้ พวกท่านควรจะเป็นคนแบบไหนในการดำเนินชีวิตที่บริสุทธิ์และที่ยำเกรงพระเจ้า 12จงเฝ้ารอและเร่งวันของพระเจ้าให้มาถึง ซึ่งวันนั้นท้องฟ้าจะถูกเผาจนสลายไป และโลกธาตุก็จะสลายไปด้วยไฟ 13แต่ว่าตามพระสัญญาของพระองค์นั้น เราจึงคอยท้องฟ้าใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ ที่ความชอบธรรมจะดำรงอยู่ 14เพราะฉะนั้น ท่านที่รักทั้งหลาย เมื่อพวกท่านกำลังคอยและเร่งสิ่งเหล่านี้อยู่ ก็จงให้พระองค์ทรงพบพวกท่านมีใจสงบ ปราศจากมลทินและข้อตำหนิ” (2ปต.3:8-14)
พี่น้องที่รัก ..ขอให้เราดำเนินชีวิตอย่างมีวินัยในการคิดและทำอย่างที่พระเจ้าประสงค์
…จะดีไหมครับ
-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-
twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/lifeanswer, facebook.com/lifeanswer
(Cr.ภาพ RentSauce)