ตักเตือนแบบไหนที่พระคริสต์ต้องการ?
พี่น้องทั้งหลาย เราขอร้องท่านให้นับถือคนที่ทำงานอยู่ท่ามกลางพวกท่าน และปกครองท่านและตักเตือนท่านในองค์พระผู้เป็นเจ้า จงเคารพและรักเขาให้มากเพราะงานที่เขาได้ทำ จงอยู่อย่างสงบสุขด้วยกัน พี่น้องทั้งหลาย ขอให้พวกท่านตักเตือนคนที่เกียจคร้าน หนุนใจผู้ที่ขาดความกล้าหาญช่วยเหลือคนที่อ่อนกำลัง และมีความอดทนต่อทุกคน” (1ธส.5:12-14)
คำว่า “ตักเตือน” หมายความว่า
ก.“สั่งสอนให้รู้สำนึกตัว”
ข. “เตือน, พูดให้รู้ตัว, บอกล่วงหน้า”
ในพจนานุกรม ภาษาอังกฤษหลายฉบับแปลคำตักเตือนว่า
ก.“ว่ากล่าว, เตือน, ต่อว่า, ตำหนิ, ติเตียน”
ข. “ให้คำปรึกษา, ให้คำแนะนำ, ทำให้ฉุกคิด”
ในการอยู่ร่วมกัน ไม่ว่าจะในบ้าน ในโบสถ์ หรือในที่ทำงาน เราต้องมีการเตือนสติ หรือตักเตือนกันอยู่เสมอ เพราะว่า เราแต่ละคนล้วนไม่สมบูรณ์ โอกาสที่จะคิดผิด พูดผิด ตัดสินใจผิด หรือทำผิด ฯลฯ อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ดังนั้นหากว่ามีอาการใดบ่งบอกว่า เริ่มมีการคิดผิด ตัดสินใจผิด พูดผิด หรือทำผิด เราก็ควรจะรีบช่วยกัน เตือน (สติ) กันให้รู้ตัวในทันที
ในบ้าน ปกติก็เป็นหน้าที่ของหัวหน้าครอบครัวที่จะดูแลทุกคนในบ้านให้อยู่กันอย่างเข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกันและรักกัน ในโบสถ์ก็เช่นกัน พระเจ้าทรงแต่งตั้งคนบางคนหรือบางกลุ่มให้ทำหน้าที่ปกครองดูแลคริสตจักร (แต่ไม่ใช่อย่างเผด็จการที่รวบอำนาจ บังคับ ขืนใจ สมาชิก) ผู้นำหรือผู้รับใช้ของคริสตจักรมักมีหน้าที่หลัก(ในตอนนี้) 3 ประการ คือ
ก.ทำงานอยู่ท่ามกลางสมาชิก
ข. ปกครองสมาชิก
ค.ตักเตือนสมาชิก ในองค์พระผู้เป็นเจ้า
- ในพระธรรม (1ธส.5:12ก) ตอนนี้ บอกว่าหน้าที่ของผู้นำ หรือผู้รับใช้ประการแรกคือ เป็นผู้ทำงานหนัก
“พี่น้องทั้งหลาย เราขอร้องท่านให้นับถือคนที่ทำงานอยู่ท่ามกลางพวกท่าน” (1ธส.5:12ก) เมื่อผู้นำหรือผู้รับใช้ทำงานท่ามกลางเราเช่นนี้ เราก็ควรจะนับถือให้เกียรติแก่พวกท่าน
- ในพระธรรมฮีบรู 13 : 7 และ 13:17 ก็บอกว่า หน้าที่ของผู้นำในคริสตจักรประการที่ 2 คือ กล่าวพระวจนะของพระเจ้าแก่พวกสมาชิก ดังนั้น ให้สมาชิก
ก) พิจารณาดูผลบั้นปลายชีวิตของพวกเขา และ ข) ให้เลียนแบบความเชื่อของพวกเขา
“จงระลึกถึงบรรดาผู้นำของพวกท่าน ผู้กล่าวพระวจนะของพระเจ้ากับพวกท่าน จงพิจารณาดูผลบั้นปลายชีวิตของพวกเขา แล้วจงเลียนแบบความเชื่อของพวกเขา” (ฮบ.13:7)
3. ให้นบนอบเชื่อฟังบรรดาผู้นำของคริสตจักร ในพระธรรม 1ธส.5:12 ข บอกว่า ผู้รับใช้และผู้นำคริสตจักรมีหน้าที่ประการที่ 3 คือ ปกครองสมาชิก “และปกครองท่าน” (1ธส.5:12ข)
ซึ่งในพระธรรม ฮีบรู 13:17ข ก็ย้ำให้สมาชิกร่วมมือหนุนใจทำตามในสิ่งที่พวกผู้นำร้องขอหรือกำหนดไว้ เพื่อพวกเขาจะได้ทำงานนี้ได้อย่างชื่นชมยินดี ไม่ใช่ด้วยความเศร้าใจ และจะกลับเป็นประโยชน์ต่อสมาชิกคริสตจักรโดยรวม เพราะพวกเขาดูแลรักษาจิตวิญญาณของสมาชิก และต้องถวายรายงานต่อพระคริสต์
“จงนบนอบเชื่อฟังบรรดาผู้นำของท่านทั้งหลาย เพราะว่าพวกเขาดูแลรักษาจิตวิญญาณของพวกท่านอยู่อย่างคนที่ต้องถวายรายงาน จงให้พวกเขาทำงานนี้ด้วยความชื่นชมยินดี ไม่ใช่ด้วยความเศร้าใจ ซึ่งจะไม่เป็นประโยชน์แก่พวกท่านเลย” (ฮบ.13:17)
4.ในพระธรรม 1ธส.5:12(ค) บอกให้เราทราบถึงหน้าที่ประการที่ 4 ของผู้นำ (ผู้ปกครองดูแลคริสตจักร) ว่า พวกเขามีหน้าที่ตักเตือนสมาชิกในองค์พระผู้เป็นเจ้า “และตักเตือนท่านในองค์พระผู้เป็นเจ้า” (1ธส.5:12ค)
= พวกเขาต้องเตือนสมาชิกอย่างที่พระผู้เป็นเจ้าประสงค์ให้เตือน ไม่ใช่อย่างที่ตัวผู้นำต้องการเตือน ปัญหาเกิดขึ้นในบางครั้ง เพราะผู้นำตักเตือนสมาชิกด้วยอารมณ์ ด้วยความคิดเห็นส่วนตัว ด้วยท่าทีอย่างไม่สมควร ทำให้บางครั้งแทนที่จะเกิดผลดี กลับเกิดผลเสียหาย ต่อทั้งความสัมพันธ์ระหว่างกัน และต่อราชกิจของพระเจ้า ในตอนนี้ อ.เปาโล กำชับให้เรากระทำสิ่งต่อไปนี้เป็นการตอบสนองผู้นำและผู้รับใช้ของคริสตจักรที่ปกครองดูแลสั่งสอนและตักเตือนพวกเรา (ในคริสตจักร) ดังนี้ อ.เปาโลยังได้ขอให้สมาชิกคริสตจักร
- เคารพ
- รัก พวกผู้นำ/ผู้รับใช้ในคริสตจักรให้มาก เพราะงานที่พวกเขาได้ทำ
- ให้อยู่อย่างสงบสุขด้วยกัน ทั้ง ก) กับผู้นำ ข) กับสมาชิกคนอื่นๆ
1ธส.5:13 “จงเคารพและรักเขาให้มากเพราะงานที่เขาได้ทำ จงอยู่อย่างสงบสุขด้วยกัน
4.ตักเตือนสมาชิกด้วยกันเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เกียจคร้าน
“พี่น้องทั้งหลาย ขอให้พวกท่านตักเตือนคนที่ เกียจคร้าน” (1ธส.5:14ก)
- หนุนใจผู้ที่ขาดความกล้าหาญ(หรือท้อใจ) “หนุนใจผู้ที่ขาดความกล้าหาญ” (1ธส.5:14ข)
- ช่วยเหลือคนที่อ่อนกำลัง “ช่วยเหลือคนที่อ่อนกำลัง” (1ธส.5:14ค)
- มีความอดทนต่อทุกคน “และมีความอดทนต่อทุกคน” (1ธส.5:14ง)
- ไม่ทำชั่วตอบแทนชั่ว แต่หาทางทำดีเสมอแก่ทุกคน “อย่าให้คนใดทำชั่วตอบแทนการชั่ว แต่จงหาทางทำดีเสมอต่อพวกท่านเอง และต่อคนทั่วไปด้วย” (1ธส.5:15)
- ให้ชื่นบานอยู่เสมอ “จงชื่นบานอยู่เสมอ” (1ธส.5:16)
- ให้อธิษฐานสม่ำเสมอ “จงอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ” (1ธส.5:17)
- ให้ขอบคุณพระเจ้าในทุกกรณี “จงขอบพระคุณในทุกกรณี เพราะนี่แหละเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า สำหรับพวกท่านในพระเยซูคริสต์”(1ธส.5:18)
- ให้ไม่ขัดขวางพระวิญญาณ “อย่าขัดขวางพระวิญญาณ” (1ธส.5:19)
- ให้ไม่ดูหมิ่นถ้อยคำของผู้เผยพระวจนะ “อย่าดูหมิ่นถ้อยคำของผู้เผยพระวจนะ” (1ธส.5:20)
- ให้พิสูจน์ทุกสิ่ง สิ่งดีนั้นให้ยึดไว้ให้มั่น “จงพิสูจน์ทุกสิ่ง สิ่งที่ดีนั้นจงยึดถือไว้ให้มั่น” (1ธส.5:21)
- ให้เว้นเสียจากสิ่งชั่วทุกอย่าง “จงเว้นเสียจากสิ่งที่ชั่วทุกอย่าง” (1ธส.5:22)
ขอให้ทั้งผู้นำและสมาชิกคริสตจักรต่างก็ปฏิบัติต่อกันตามที่ได้กำชับไว้แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ให้ร่วมมือกันเป็นพิเศษในการตักเตือนซึ่งกันและกันอย่างที่พระคริสต์ ทรงปรารถนาที่จะให้เกิดขึ้นในคริสตจักรของคุณ
ดีไหมครับ?
–ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-
twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/lifeanswer, facebook.com/lifeanswer
(Cr.ภาพ v3 Churchplanting)