อย่าทำให้เจือจาง
หลังจากเหตุการณ์เหล่านี้ เยโรโบอัมไม่ได้ทรงหันกลับจากทางชั่วของพระองค์ แต่กลับให้บางคนในท่ามกลางประชาชนเป็นปุโรหิตประจำปูชนียสถานสูง ใครพอใจจะเป็นปุโรหิต ก็ทรงแต่งตั้งเขา ให้เป็นปุโรหิตประจำปูชนียสถานสูงต่างๆ และสิ่งนี้ได้เป็นบาปแก่ราชวงศ์เยโรโบอัม เพื่อจะทำลายล้างราชวงศ์นั้นเสียจากพื้นแผ่นดินโลก (1พงศ์กษัตริย์ 13:33-34)
สามีของฉันชอบเจือจางของ – เขาเติมน้ำลงในน้ำผลไม้เพื่อให้เจือจาง เติมในครีมอาบน้ำ แชมพูสระผม น้ายาล้างจาน แม้กระทั่งน้ำผึ้งบนโต๊ะอาหาร
อาหารเช้าเรามีแพนเค้ก สิ่งที่ทำให้ทุกคนในโต๊ะรู้สึกรำคาญใจคือน้ำผึ้งที่ใช้ราดแพนเค้กจะถูกเจือจางจนใสและจืดชืด ไม่ว่าจะราดให้ท่วมแค่ไหนก็ตาม
เช้าวันหนึ่ง น้ำผึ้งเกิดหมด ฉันจึงไปซื้อมา และประกาศกับสามีเสียงดังว่า “ห้ามใครเจือจางน้ำผึ้งนี้เป็นอันขาด!” เพราะน้ำผึ้งถ้าเจือจางแล้ว จะไม่มีรสชาตเหลือจนนำมาใช้ทานได้
เช่นเดียวกับพระวจนะของพระเจ้าที่เราต้องไม่นำไปเจือจาง ต้องนำมาใช้จากต้นฉบับ อย่าเติมสิ่งใดเข้าไปกับพระคำของพระเจ้า เพื่อให้เจือจาง และทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้น
เราอาจพูดได้ว่ากษัตริย์เยโรโบอัมในพระคัมภีร์เดิมเป็นคนที่ชอบเจือจาง
ใน 1พงศ์กษัตริย์ 13 คนของพระเจ้าไปกล่าวเตือนกษัตริย์เยโรโบอัมว่าวันหนึ่ง โอรสของท่านชื่อโยสิยาห์จะฆ่าปุโรหิตแห่งปูชนียสถานสูง แท่นบูชาจะถูกพังทลายลงและขี้เถ้าถูกเทออก เยโรโบอัมกลับไม่สำนึกผิด แต่พยายามจับคนของพระเจ้าไว้ แต่พระเจ้าทรงทำให้มือของท่านอ่อนแรงชักกลับไปไม่ได้ เยโรโบอัมจึงร้องขอให้คนของพระเจ้าอธิษฐานให้มือของท่านหายอ่อนแรงและชักกลับคืนได้ ท่านจีงได้รับการรักษา
คุณคงคิดว่าเรื่องร้ายแรงขนาดนี้กษัตริย์เยโรโบอัมคงจะเกรงกลัวสิ่งที่ผู้เผยพระวจนะประกาศ ไม่เลย เยโรโบอัมไม่ได้สำนึก แต่กลับตั้งปุโรหิตไปประจำการตามปูชนียสถานสูงเพิ่มขึ้น ไม่ทำตามคำสั่งที่เคร่งครัดของพระเจ้าตามที่กำหนดไว้เรื่องปุโรหิต ใครพอใจอยากเป็นปุโรหิตก็ได้เป็น เป็นการลดทอนความสำคัญของปุโรหิตลงอย่าน่าใจหาย !
บาปนี้ไม่ได้ลอยนวล พระคัมภีร์กล่าวว่า สิ่งนี้ทำให้ราชวงศ์ของเยโรโบอัมถูกทำลายล้างและหมดไปจากแผ่นดินโลก
เพื่อนๆคะ ถ้าคุณเลือกจะเจือจางน้ำผลไม้ หรือแม้แต่น้ำผึ้ง อาจไม่ใช่ปัญหาใหญ่ของชีวิต แต่ถ้าคุณเจือพระวจนะให้จางลง มีปัญหาตามมาแน่นอน สำหรับกษัตริย์เยโรโบอัม ต้องชดใช้ด้วยทั้งวงศ์ตะกูล
ในพระธรรมสุดดี 119 บัญญัติของพระเจ้าต้อง “เชื่อฟังอย่างเคร่งครัด” (ข้อ 4) “รักษาไว้ด้วยสุดใจ” (ข้อ 69) และ “ปฏิบัติตาม” (ข้อ 106) ให้เราประกาศในวันนี้ “ข้าพระองค์มิได้หันไปจากกฎหมายของพระองค์ เพราะพระองค์ได้ทรงสอนข้าพระองค์ พระดำรัสของพระองค์นั้น ข้าพระองค์ชิมแล้วหวานจริงๆ หวานกว่าน้ำผึ้งเมื่อถึงปากข้าพระองค์” (ข้อ 102-103)
หวานเหมือนน้ำผึ้งที่ไม่ได้ถูกเจือจาง !
ตั้งแต่ที่ฉันประกาศออกไป “ห้ามใครเจือจางน้ำผึ้งเด็ดขาด” ทุกคนในครอบครัวก็ได้ทานของอร่อยตามที่น้ำผึ้งควรเป็น
ขอให้เราลุกขึ้น ให้ความสำคัญและประกาศว่า “เราจะไม่ลดทอนความหมายของพระวจนะ หรือทำให้เจือจางลงเพื่อจะได้ทานได้คล่องคอ” พระวจนะของพระเจ้าตามที่เป็นอยู่นั้นมีฤทธิอำนาจ และเกิดผล ให้ความหวาน และสร้างคุณค่าให้กับชีวิต
โดย Arlene Pellicane
อนุญาตโดย Girlsfriends in God : www.crosswalk.com
(Cr.ภาพ Skinshares.sg)