เส้นบางๆระหว่างถ่วงเวลาและความบาป
เพราะฉะนั้น คนที่รู้ว่าอะไรเป็นความดีที่ต้องทำ แต่ไม่ได้ทำ คนนั้นจึงมีบาป (ยากอบ 4:17)
ผัดวันประกันพรุ่งเป็นที่มาของความเครียดในชีวิต ฉันเคยได้ยินอาจารย์ท่านหนึ่งเล่าเรื่องโบราณเกี่ยวกับพวกมารที่เถียงกันว่าวิธีไหนจะทำลายการงานของคริสเตียนได้ดีที่สุด มารตนแรกบอก “ไปบอกพวกคริสเตียนสิว่าสวรรค์ไม่มีจริง ถ้าเราเอาความหวังของพวกคริสเตียนออกไป พวกมันก็จะไม่เดินหน้าต่อ” มารที่สองบอกว่ามีแผนที่ดีกว่า “ไม่ต้องหรอก ให้บอกพวกคริสเตียนว่านรกไม่มีจริง ถ้าเราเอาความเกรงกลัวของพวกนี้ออกไป อะไรๆก็พังลงไปเอง” แต่มารที่สามเสนอว่า “สองความคิดที่ว่ามาก็ดี แต่คิดว่าน่าจะมีวิธีที่ดีกว่า แค่บอกพวกคริสเตียนว่าไม่ต้องรีบร้อน” มารทั้งสามต่างเห็นพ้องกัน พูดว่า “ผัดวันประกันพรุ่งน่าจะเป็นอาวุธทำลายล้างคริสเตียนได้ดีที่สุด”
ผัดวันประกันพรุ่งเป็นเรื่องปกติที่ใครๆก็ทำกัน แต่เป็นสิ่งที่พระเจ้าไม่ทรงพอพระทัย เราไม่เคยมองว่านี่คือความบาป แต่มันใช่
บาปไม่ใช่แค่ทำผิด แต่ไม่ทำในสิ่งที่รู้ว่าต้องทำหรือควรทำ ความรู้มีค่าเท่ากับความรับผิดชอบ ผัดวันประกันพรุ่งคือการไม่เชื่อฟัง เป็นอีกด้านของเหรียญเดียวกัน
บาปให้ความเพลิดเพลินเพียงชั่วครู่ ผัดวันประกันพรุ่งต่างไป มันช่วยให้เราเลี่ยงไม่ทำในสิ่งที่ “ไม่อยากทำ” เป็นภารกิจที่ต้องมีวินัย และอุทิศตนทำตามเป้าหมายของพระเจ้า ถ่วงเวลาจะทำให้เรารู้สึกกระวนกระวาย แล้วในที่สุดก็ไม่ได้ทำ จะรู้สึกผิด หาเหตุผลมาอ้างทั้งๆที่ความจริงคือเรากำลังทำบาป
กุญแจในการจัดการกับการผัดวันประกันพรุ่งเริ่มด้วยการเชื่อฟังพระเจ้า และนำพระปัญญามาใช้
เราสามารถเลือกที่จะให้พระปัญญา หรือให้ความรู้สึกชั่วครู่นำ
เราเลือกในสิ่งที่ถูกต้องได้ – เป็นผู้อารักขาที่ดีตามหน้าที่ที่พระเจ้ามอบให้
ฉันเคยไปสัมนาที่เปลี่ยนชีวิตหลายอย่าง นักพูดไม่ได้พูดเรื่องเงินทองหรือความสำเร็จ แต่เน้นไปยังความจริงที่พระเจ้าสร้างเรามาเพื่อให้ตอบสนองต่อแผนการเจาะจงที่มีให้เราแต่ละคน เป็นอุดมคติที่ฟังดูธรรมดาแต่มีอำนาจมาก และที่ได้จากการสัมนาครั้งนั้นคือ “จงลงมือทำ!”
รู้หรือไม่ ต้องใช้พลังพอกันระหว่างหลีกเลี่ยงไม่ทำ และลงมือทำ? ผัดวันประกันพรุ่งจะดูดพลังเราไป ขณะที่ลงมือทำจะสร้างให้เราแกร่งขึ้น พระเจ้าประทานกำลังให้เราทำในสิ่งที่พระองค์ทรงเรียกให้ทำ มัทธิว 6:33 กล่าวว่า “แต่พวกท่านจงแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า และความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งทั้งปวงนี้ให้”
พระเจ้ากำลังบอกเรา พระองค์ไม่ได้ประทับใจในความตั้งใจดี แต่การเชื่อฟังเป็นการเตรียมตัวที่ดีที่สุด พร้อมทำในสิ่งที่พระองค์จะมอบให้ ดังนั้นจงทำสิ่งที่ต้องทำให้เสร็จในทันที เพราะ
- สุภาษิต 31:25 กล่าวว่า “เธอหัวเราะให้แก่เหตุการณ์ที่จะมาถึง” สตรีท่านนี้ยืนอยู่ในความเป็นจริงของปัจจุบัน และเตรียมตัวสำหรับอนาคต
- สุภาษิต 31:19 บอกว่า “เธอยื่นมือออกจับไน และมือของเธอจับเครื่องปั่นฝ้าย” เธอกำลังปั่นด้าย ยังไม่ได้เป็นผืนผ้าที่ทอแล้ว เป็นภารกิจที่ต้องทำในวันนี้เพื่อจะได้ผ้าผืนงามในวันรุ่งขึ้น
สิ่งที่เธอจะได้คือการดำเนินชีวิตไปในความหวัง และไปตามเป้าหมายที่พระเจ้าทรงหมายพระทัย
โดย Mary Southerland
อนุญาตโดย Girlsfriends in God : www.crosswalk.com
(Cr.ภาพ oknation.nationtv.tv)