โบกมือลาอดีต
นี่แน่ะ เรากำลังทำสิ่งใหม่ๆ บัดนี้ มันงอกขึ้นมา เจ้าไม่เห็นหรือ?
และเราจะทำทางในถิ่นทุรกันดาร และแม่น้ำในที่แห้งแล้ง (อิสยาห์ 43:19)
อดีตเป็นเรื่องน่าฉงน แม้จะผ่านเลยมาแล้วเป็นปีๆ เรายังดำเนินเหมือนติดกับอยู่ในนั้น ยังกักเก็บอารมณ์เดิมๆ อุปนิสัยเดิมๆ หรือแม้การตอบสนองในแบบเดิมๆที่เราเคยทำมาตั้งแต่เด็ก เรากลัว ไม่แน่ใจ อับอาย หรือยอมแพ้ง่าย อาจเป็นเพราะเราถูกเลี้ยงมาจนกลายเป็นนิสัยประจำตัว แม้จะประกาศว่าเป็นผู้ที่ “เกิดใหม่แล้ว” เข้าสู่ชีวิตในแบบใหม่แล้ว แต่ถ้ายอมรับความจริง “ชีวิตใหม่” ของเรายังกักเก็บวิถีเก่าๆไว้ถึง 80%
ฉันถูกเลี้ยงมาในแบบที่เรียกได้ว่าท้าทาย เรื่องอารมณ์ที่ทั้งพ่อและแม่ต่อสู้อยู่ เป็นเหมือนคลื่นไฟฟ้าร้อนแรงที่ส่งกระแสไปทั่วบ้าน พวกเขาไม่สามารถจัดการกับอารมณ์ กับการประพฤติในแบบต่างๆอย่างที่ควรได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางกายภาพ การเงิน ความคิด ทัศนคติ และจิตวิญญาณ
ถ้าพูดถึงชีวิตในวัยเด็กที่แตกหักและบุบสลายวันแล้ววันเล่า ฉันก็เป็นพวกแถวหน้า ทำให้ต้องสร้างเกราะความหยิ่งยโสแห่ง “รู้ดีทุกอย่าง” ขึ้นมาครอบทัศนคติไว้ เป็นพวกหัวแข็ง ต่อต้านทุกคนและทุกอย่าง และถ้าจำเป็นต้องเอาตัวรอด ก็ทำ สิ่งหนึ่งที่แน่นอน อดีตของฉันมีข้อผิดพลาดมากมาย ซึ่งมีแต่จะทำลายอนาคต
จนกระทั่งเข้าสู่วัยรุ่น ได้พบกับความรักของพระเยซูคริสต์ (ผู้ทรงสัพพัญญูรู้ทุกสิ่ง) ในการทรงนำและด้วยฤทธิอำนาจ พระองค์ค่อยๆปลดสัมภาระที่ฉันแบกมาตั้งแต่เด็ก ใช้เวลาหลายปีก่อนสัมภาระเหล่านั้นจะถูกรื้อ และสัมผัสได้ถึงอำนาจแห่งการคืนพระชนม์ และชีวิตใหม่ในตัวตนใหม่ของฉัน!
สำหรับฉัน เรื่องราวการฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาในพระคัมภีร์ (นอกจากเรื่องของพระเยซูคริสต์แล้ว) คือเรื่องของลาซารัส พระสหายของพระองค์ เรื่องนี้ส่งผลต่อจิตใจฉันเป็นที่สุด สิ่งพระเยซูตรัสกับคนในครอบครัวและเพื่อนๆของลาซารัสหลังจากฟื้นขึ้นจากความตาย “จงแกะผ้าที่พันออกแล้วปล่อยเขาเถิด” (ยอห์น 11:44)
เมื่อคุณและฉันรับพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอด เราจึงเหมือนถูกเรียกให้ออกมาจากอุโมงค์ฝังศพ แต่เมื่อออกมามาสู่ชีวิตใหม่แล้ว เรายังสวมใส่ลินินพันศพของอดีตอยู่ คงเป็นไปไม่ได้ถ้าลาซารัสยังอยากมีชีวิตต่อไปในผ้าพันศพ เขาจำเป็นต้องปลดตัวตนเก่าออกไป รับการเยียวยาและฟื้นฟูจากความเจ็บปวดในอดีต
พระเยซูตรัสบอกเราในยอห์น 10:10 ว่า “ขโมยนั้นย่อมมาเพื่อจะลัก ฆ่า และทำลาย เรามาเพื่อพวกเขาจะได้ชีวิตและจะได้อย่างครบบริบูรณ์” เป็นความจริงที่เรายังถูกอดีตพันธนาการอยู่ อดีตของคุณยังทำให้คุณเป็นอย่างที่คุณเป็นในทุกวันนี้ ไม่อาจมีชีวิตที่ครบบริบูรณ์ได้ แม้อดีตทำให้คุณเป็นแบบนี้ แต่มันไม่อาจบงการว่าคุณจะเป็นอย่างไรในวันพรุ่งนี้ และในอนาคตต่อๆไปของคุณ
ถ้าคุณยังต้องดิ้นรนที่จะมีชีวิตต่างจากอดีต คิดว่าถึงเวลาแล้วที่คุณจะโบกมือลาอดีต ถอดผ้าพันศพแห่งอดีตทิ้งไป และสวมใส่เสื้อใหม่แห่งความชอบธรรมของพระเยซูคริสต์!
โดย Lisa Morrone, PT
อนุญาตโดย Girlsfriends in God : www.crosswalk.com
(Cr.ภาพ pinterest.com)