คริสตจักรจริงๆแล้วหมายถึงอะไร
พวกเขาจึงพาเด็กคนนั้นมาหาพระองค์ เมื่อผีนั้นเห็นพระองค์ มันก็ทำให้เด็กล้มชักทันที และลงไปกลิ้งเกลือกที่ดิน มีน้ำลายฟูมปาก พระองค์จึงตรัสถามผู้เป็นบิดาว่า “เขาเป็นอย่างนี้มานานเท่าไหร่?” บิดาทูลตอบว่า “ตั้งแต่เขายังเล็กๆ และผีมักจะทำให้เขาตกในกองไฟหรือในน้ำ เพื่อจะฆ่าให้ตาย ถ้าท่านสามารถช่วยได้ก็โปรดสงสารและช่วยเราทั้งสองด้วย” พระเยซูจึงตรัสกับบิดานั้นว่า “ถ้าช่วยได้’ น่ะหรือ? ใครเชื่อก็ทำให้ได้ทุกสิ่ง” บิดาของเด็กจึงร้องทูลทันทีว่า “ข้าพเจ้าเชื่อ และขอโปรดช่วยในส่วนที่ขาดอยู่ด้วยเถิด” (มาระโก 9:20-24)
ทุกวันนี้มีคริสตจักรหลายแห่งที่ต้องขอพูดตามตรงว่าจะเข้าเป็นสมาชิกได้ค่อนข้างยาก คุณต้องผ่านหลายชั้นเรียน ผ่านการทดสอบหลักศาสนศาสตร์ และผ่านการสัมภาษณ์จากคณะกรรมการอีกหลายคนถึงจะพิจารณาการเข้าเป็นสมาชิก
ผมเข้าใจเบื้องหลังของขั้นตอนเหล่านี้ เพราะทางคริสตจักรต้องการให้แน่ใจว่าเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ดีและถูกต้อง แต่เมื่อมองไปที่รูปแบบในพระคัมภีร์ใหม่ในการเข้ามีส่วนในสามัคคีธรรม ผมพบว่าผู้คนไม่ว่าจะเข้ามาในสภาพจิตวิญญาณแบบไหน จะได้รับการต้อนรับแม้มีความเชื่อเพียงน้อยนิดก็ตาม
เมื่อพระเยซูคริสต์พบกับชายที่บุตรถูกผีสิงในพระวจนะด้านบน พระองค์ไม่ได้ทดสอบเขาเรื่องหลักศาสนศาสตร์ พระองค์ทรงใช้ความเชื่อที่เขามีเพียงน้อยนิดรักษาบุตรของเขา ความเชื่อแม้เพียงเศษเสี้ยวก็เพียงพอ แม้จะมาพร้อมกับส่วนที่ขาดอยู่ก็ตาม
คริสตจักรที่เป็นของพระเยซูคริสต์ มีหน้าที่เลี้ยงดูผู้คนจากหลากหลายสภาพจิตใจที่เข้ามาพึ่งพิง คริสตจักรไม่ได้เป็นสังคมที่ศักดิ์สิทธิเกินกว่าคนบาปจะเข้ามา แต่มีเพื่อช่วยคนที่บาดเจ็บ คนที่จิตใจแหลกสลายและต้องการการเยียวยา ดังนั้นจงเป็นคริสตจักรตามที่พระคริสต์ตั้งพระทัย เชิญคนทุกแบบเข้ามารับการเยียวยาและฟื้นฟูจิตใจ และมามีสามัคคีธรรมกับผู้เชื่อด้วยกัน
จงต้อนรับผู้เชื่อในพระเยซูคริสต์ทุกคน เชิญพวกเขาเข้ามามีส่วนในสามัคคีธรรมในพระกายของพระองค์
อนุญาตโดย Pastor Jack Graham
Jack Graham Power Point Ministry : www.jackgraham.org
(Cr.ภาพ Wikimedia Commons)