สามัคคีธรรมที่ดีจะให้อะไร?
“สามัคคีธรรมที่ดี และมิตรภาพที่ดี คือ ความพึงพอใจที่เข้มแข็ง ชอบด้วยเหตุผล และยั่งยืน”
(Good fellowship and friendship are lasting, rational and manly pleasures.) –William Wycherley-
คนบางคนชอบอยู่คนเดียว ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่หากอยากจะอยู่โดยลำพังตลอดไป โดยไม่สุงสิงยุ่งเกี่ยวกับผู้ใดเลย นี่เป็นเรื่องไม่ปกติ!
พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์มา แล้วตรัสว่า ไม่ควรที่มนุษย์คนใดจะอยู่โดยลำพัง พระองค์จึงทรงบันดาลให้มี “ตัวช่วย” มากมายในชีวิต ที่จะมาเป็นเพื่อนหรือเป็นผู้คอยช่วยเหลือกันและกัน และลงตัวสุดท้ายของผู้ที่จะเป็นเพื่อนหรือคู่อุปถัมภ์ที่ดีที่สุดที่เรียกว่า คู่สมรส
อย่างไรก็ตาม ความเป็นจริงปรากฏว่า ไม่ใช่ทุกคนจะแต่งงานหรือได้แต่งงาน การแต่งงานไม่ใช่เรื่องจำเป็น แต่การมีเพื่อนเคียงข้างกันนั่นเป็นเรื่องที่จำเป็น!
เราถูกสร้างและถูกออกแบบมาให้มีเพื่อน มีคนเคียงข้าง มีชุมชนที่เราจะมีส่วนร่วมกับชีวิตของผู้อื่น ๆ และผู้อื่นมีส่วนร่วมในชีวิตของเราได้ ทั่ว ๆ ไปก็อาจเรียกสัมพันธภาพเช่นนี้ว่า “มิตรภาพ” (Friendship) แต่ในชุมชนคริสเตียนเราเรียกสัมพันธภาพเช่นนี้ว่า “สามัคคีธรรม” (fellowship) เพราะว่ามี “พระเจ้า” หรือ “ธรรมะของพระเจ้า” เป็นศูนย์กลางของสัมพันธภาพระหว่างกัน พระวจนะของพระเจ้าจะเป็นธรรมนูญหรือคู่มือแนวทางในการที่คนของพระเจ้าจะประพฤติปฏิบัติต่อกันและต่อผู้อื่น
สังคมคริสเตียนเป็นสังคมที่แปลกกว่าสังคมทั่วไป ก็คือเป็น … สังคมที่ไม่ได้ดำรงอยู่เพื่อประโยชน์ต่อคนในกลุ่มของตนเอง แต่เป็นสังคมมุ่งรวมพลังกันสร้างคุณประโยชน์แก่คนที่อยู่นอกคริสตจักรเป็นสำคัญ
วิลเลี่ยม เทมเพิล (William Temple) กล่าวว่า…
“คริสตจักรเป็นสังคมเดียวที่ดำรงอยู่เพื่อก่อเกิด “ประโยชน์” แก่คนที่ไม่ใช่สมาชิก!
(The church is the only society that exists for the Benefit of those who are not its members.)
สามัคคีธรรมของคริสเตียนจึงไม่ได้จบอยู่ภายในตัวเอง
…ไม่ใช่เพื่อความสนุกสนานภายในกลุ่มผู้เชื่อเฉย ๆ
…ไม่ใช่เพื่อการมาสังสรรค์ ผ่อนคลาย และรับประทานอาหารอร่อย ๆ แล้วกลับบ้าน
…ไม่ใช่เพื่อมาเรียน/ศึกษาพระคัมภีร์ ถกกันอย่างมีรสชาติแล้วแยกย้ายกันกลับไปบ้าน โดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นตามมา
…ไม่ใช่แค่มาร้องเพลง แบ่งปันคำพยานชีวิตแก่กัน หรืออธิษฐานเผื่อกันแล้วต่างก็แยกย้ายจากกันไปแค่นั้น ฯลฯ
และปล่อยให้เป็นวัฏจักรเช่นนี้ อาทิตย์แล้วอาทิตย์เล่า
แต่สามัคคีธรรมของผู้เชื่อเป็นกระบวนการที่ทำให้ผู้เชื่อทุกคนพร้อมที่จะทำดีมีคุณประโยชน์ต่อคนนอกสามัคคีธรรมของคริสตจักร ซึ่งรวมถึงคนในครอบครัว หรือในวงแห่งความสัมพันธ์ต่าง ๆ ในชีวิตของเราที่ยังไม่ได้รู้จักกับพระเจ้า อาทิ คนในที่ทำงาน คนในสถานศึกษา คนรอบบ้าน หรือคนรอบตัวที่ยังไม่ได้ยินเรื่องราวแห่งข่าวประเสริฐแห่งความรอดของพระเจ้า ที่องค์พระเยซูคริสต์ทรงนำมาประกาศให้โลกได้รับรู้ และเชื้อเชิญให้คนที่ได้ยินได้ฟัง ให้ถ่อมใจกลับใจ และรับพระเมตตาจากพระเจ้า ในการช่วยพวกเขาให้รอดพ้นจากโทษของบาปที่บรรพบุรุษและตัวเขาแต่ละคนก่อขึ้นกันเอง
สามัคคีธรรมที่แท้จริง ตามพระประสงค์ของพระเจ้าเช่นนี้ จะนำความพึงพอใจที่ยั่งยืน สมเหตุสมผลและมั่นคงเข้มแข็ง มาสู่ทุกฝ่ายทั้งต่อพระเจ้า ต่อตัวเราเองและต่อคนรอบตัวของเรา
วันนี้ คุณพร้อมจะมีส่วนร่วมในสามัคคีธรรมเช่นนี้กับกันและกันแล้วหรือไม่?
หากพร้อมก็ขอให้คุณจงจัดการกับตัวเอง มีวินัยในการจัดเวลาที่จะเข้าร่วมสามัคคีธรรมกับพี่น้อง(ในคริสตจักร) อย่างจริงจัง และต่อเนื่อง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเลย
…จะดีไหมครับ?
ศจ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์