เวลาใดที่มีความหมายยิ่งสำหรับชีวิตของคุณ?
“เพื่อที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ความสัมพันธ์ของเรากับพระเจ้า เราต้องมีเวลาที่มีความหมายโดยลำพังกับพระองค์”
(To strengthen our relationship with God, we need some meaningful time alone with Him.) -Dieter F Uchtdort-
เวลาที่ใช้โดยลำพังกับพระเจ้า เป็นเวลาที่มีความหมาย และสำคัญอย่างยิ่งต่อชีวิตของเรา
- เราไม่อาจมีความสัมพันธ์กับพระเจ้า โดยไม่มีเวลาให้กับพระองค์ และนี่เป็นสัจธรรมของชีวิตในทุกสัมพันธภาพ
- เราไม่อาจมีความสัมพันธ์ที่ดีกับสามีหรือภรรยาของเรา หากว่าเราไม่มีเวลาให้แก่กัน
- เราไม่อาจมีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูก ๆ ของเรา หากเราไม่มีเวลาให้กับพวกเขา
- เราไม่อาจมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนในองค์กร(ที่ทำงาน) ของเรา หากเราไม่มีเวลาที่จะใช้คลุกคลีด้วยกัน
- เราไม่อาจมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนในคริสตจักรของเรา หากว่าเราไม่มีเวลาที่จะร่วมสามัคคีธรรมกับพวกเขา ฯลฯ
ความสัมพันธ์ของเราจะแข็งแกร่งไม่ได้ หากเราไม่มีเวลาให้แก่กัน
- เราจะไม่มีทางรู้จักกันและกัน หากเราไม่มีเวลาเรียนรู้จักกันและกัน
- เราจะไม่มีทางเข้าใจซึ่งกันและกัน หากเราไม่มีเวลาพูดคุยและฟังกัน
- เรา ไม่มีทางเป็นหนึ่งเดียวกันได้ หากเราไม่มีเวลาร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน
- เราไม่มีทางจะเป็นหนึ่งเดียวกันกับพระเจ้าได้
หากเราไม่มีเวลาสำนึกตัว เข้าหาพระเจ้า สารภาพบาปผิดและให้พระเจ้าทรงชำระเราให้สะอาด และแยกเราออกมาให้บริสุทธิ์เพื่อพระองค์ ด้วยพระวจนะอันมีชีวิตและทรงพลานุภาพ
“เพราะว่าพระวจนะของพระเจ้านั้นมีชีวิตและทรงพลานุภาพอยู่เสมอ และคมยิ่งกว่าดาบสองคมใดๆ แทงทะลุกระทั่งแยกจิตและวิญญาณ ทั้งข้อกระดูกและไขในกระดูก และสามารถวินิจฉัยความคิดและความมุ่งหมายในใจด้วย ไม่มีสิ่งทรงสร้างใดใดถูกปิดซ่อนไว้จากพระองค์ แต่ตรงกันข้าม ทุกสิ่งก็ปรากฏแจ้งต่อพระเนตรของพระองค์ผู้ซึ่งเราจะต้องถวายรายงานด้วย” (ฮีบรู 4:12-13)
ด้วยเหตุนี้ การเฝ้าเดี่ยวโดยลำพังกับพระเจ้าจึงเป็นกุญแจสำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระเจ้า เราต้องมีวินัยในการตั้งใจที่จะจัดเวลาเข้าใกล้ชิดพระเจ้าเช่นนั้น
เราไม่จำเป็นเข้าเฝ้าพระเจ้าในตอนเช้าเหมือนที่บางคนทำก็ได้ (แม้ว่าจะดียอดเยี่ยมมากหากทำได้) ประเด็นไม่ได้อยู่ที่เวลาเช้า แต่อยู่ที่เราต้องมีเวลาที่เหมาะกับตัวเรามากที่สุดในการเข้าเฝ้าพระองค์! นั่นคือ ขอให้เป็นช่วงเวลาที่เราจะมีสมาธิ มีจิตใจที่พร้อมทูลกับพระเจ้า และฟังพระองค์ตรัสกับเราตามวิถีแห่งตารางชีวิตจริงของเรา
ดังนั้น แม้ว่าวันนี้ตารางเวลาในการใช้ชีวิตของคุณจะแตกต่างจากคนทั่วๆไป แต่คุณก็สามารถมีวินัยในการจัดเวลาซึ่งคุณสะดวกที่สุดในการใช้เวลาอย่างมีคุณภาพกับพระเจ้าได้
สำหรับผม ผมคิดว่าเวลาที่เหมาะที่สุดในการเข้าเฝ้าพระเจ้า คือ เวลาที่คุณพร้อมที่ใกล้เคียงกับเวลาที่คุณตื่นนอนมากที่สุด
ถ้าคุณตื่นเช้าก็เข้าเฝ้าพระองค์ตอนเช้า หากคุณตื่นสายก็เข้าเฝ้าพระองค์ตอนสาย หากคุณตื่นบ่ายก็เข้าเฝ้าพระองค์ตอนบ่าย หากคุณตื่นเย็นก็เข้าเฝ้าพระองค์ตอนเย็น หากคุณตื่นค่ำก็เข้าเฝ้าพระองค์ตอนค่ำ!
ไม่ว่าจะเวลาใด พระเจ้าก็ทรงพร้อมเสมอที่จะสดับรับฟังและตรัสกับคุณ!
เวลาที่เราใช้กับพระองค์ดังกล่าวเช่นนี้ จึงนับว่าเป็นเวลาที่มีค่ายิ่งสำหรับชีวิตของคุณ! และเวลาที่ใช้กับพระเจ้าอย่างมีวินัยด้วยความรักยำเกรงพระองค์เช่นนี้ มักจะนำเอาปาฏิหารย์มาสู่ชีวิตของเราอยู่เสมอ เพราะเมื่อคุณทูลความปรารถนาหรือความทุกข์ใจของคุณแด่พระเจ้า พระองค์ทรงสดับฟัง และเมื่อคุณฟังพระองค์ตรัสผ่านพระวจนะ (พระคัมภีร์) ของพระองค์ และผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ จนเกิดความไว้วางใจในความรักของพระองค์อย่างแท้จริง สิ่งมหัศจรรย์ก็จะเกิดขึ้น!
…ขอให้เวลาอันล้ำค่าเช่นนี้ เกิดขึ้นในชีวิตของคุณด้วยเถิด!
อาเมนไหมครับ?
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-
twitter.com/thongchaibsc /fanpage@thongchaibsc , BB 2381A496
(Cr.ภาพ lambsofthelord.com)