Categories
บทความแปล

ชีวิตที่เคยวุ่นวาย

ชีวิตที่เคยวุ่นวาย

ดู‍สิ พระ‍องค์​ทรง​ทำ​ให้​วัน‍เวลา​ของ​ข้า‍พระ‍องค์​สั้น​แค่​สอง​สาม​ฝ่า‍มือ​เท่า‍นั้น ช่วง‍ชีวิต​ของ​ข้า‍พระ‍องค์​ไม่‍เท่า‍ไร​เลย เฉพาะ‍พระ‍พักตร์​พระ‍องค์ แน่​ที‍เดียว มนุษย์​ทุก​คน​ดำรง​อยู่​ชั่ว​เวลา​หนึ่ง​อย่าง​ลม‍หาย‍ใจ (สดุดี 39:5)

เราแอบเอาฟิล์มเก่า 8 มม. และอุปกรณ์ฉายออกจากบ้าน กล่องที่ใส่มันแตก ของข้างในไม่อยู่ในสภาพ จำได้ครั้งแรกที่ได้ดูฟิล์มพวกนี้  แม่สามีพยายามนำมาฉายขึ้นไปบนผนังห้อง แต่เนื่องจากฟิล์มเก่ามาก ดูไปขาดไปแทบไม่ปะติดปะต่อ ยิ่งเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีก้าวไปไกลหาอุปกรณ์มารองรับไม่ได้เลย จึงไม่เห็นประโยชน์ที่จะเก็บเอาไว้

เราต้องแอบเอาออกไป ไม่อยากให้แม่สามีมีความหวังว่าจะได้ดูอีก แต่เมื่อผ่านร้านที่มีอุปกรณ์เก่าจึงแวะถาม มีทางทำอะไรได้บ้าง เขานำฟิล์มที่บรรจุความทรงจำเหล่านั้นไป และสัญญาว่าจะลองทำให้ดีที่สุด

สามสี่วันจากนั้นเจ้าของร้านโทรมาแจ้งว่าได้บันทึกฟิล์มเหล่านั้นลงบนแผ่นดีวีดีให้แล้ว

ฉันนำแผ่นดีวีดีแห่งความทรงจำห้าสิบปีของชีวิตกลับมาให้แม่สามี…เธอร้องไห้  …ฉันก็ร้องไห้

เรานั่งดูเรื่องราวในแผ่นดีวีดีด้วยกัน เป็นภาพจากห้องนั่งเล่นในบ้านที่เธอเคยอยู่ ฉันเองรู้สึกดี แต่ไม่มีทางเทียบได้กับความรู้สึกของแม่สามี เป็นภาพพ่อและแม่ของเธอ ภาพความวุ่นวายเมี่อมีเด็กเกิดใหม่ เป็นความทรงจำที่มีคุณค่ายิ่งของเธอ เพราะชีวิตเปลี่ยนไปตลอดเวลา เดี๋ยวนี้เธอเป็นคุณย่า และคนที่อยู่ในฟิล์มต่างก็ไม่อยู่แล้ว

วันนี้ฉันเองก็เป็นคุณยาย พวกเราที่เคยอายุน้อยต่างก็จากไป

พระวจนะวันนี้ ผู้เขียนสดุดีพูดถึงชีวิตว่า “สั้นแค่สองสามฝ่ามือเท่านั้น” ซึ่งสั้นมาก ผู้เขียนย้ำถึงความมั่งคั่งและสิ่งของๆโลกนี้ ทำให้ฉันนึกถึงสิ่งอื่นๆที่ทำให้เราเขวไป  ต้องยอมรับว่าบางครั้งช่วงเวลาที่มีค่า ฉันกลับมองไม่เห็น นึกเอาเองว่าเรื่องราวในโลกโซเชี่ยลนั้นมีคุณค่ากว่าชีวิตของคนใกล้ตัว คนที่รักฉัน และฉันรักพวกเขา แต่กลับเอาหน้าที่การงาน  กิจกรรมต่างๆ เพื่อผัดผ่อนการใช้เวลากับคนเหล่านั้น   

เราถูกดึงให้ไปเห็นคุณค่าในสิ่งชั่วคราวและเสื่อมสลาย แต่มองข้ามสิ่งที่วันหนึ่งจะนึกได้ว่ามีคุณค่า

คืนนั้นฉันเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋า และลงนั่งพูดคุยกับแต่ละคน หน้าต่อหน้า มีความสุขกับการใช้เวลาด้วยกัน วันนี้ห้องที่ฉันอยู่มีเสียงดัง เสียงเด็กเล่นกันโครมคราม แต่ฉันรู้ดี วันหนึ่งข้างหน้าห้องนี้จะเงียบลง เด็กๆจะโตขึ้นและจากไปมีชีวิตของตนเอง

วันหนึ่งข้างหน้าเมื่อมองย้อนกลับมา เราจะคุยกันถึงวันเก่าๆ วันที่เคยหัวเราะ เคยร้องไห้ด้วยกัน คนเหล่านั้นจะลดจำนวนลงและไม่นานก็จากไป ฉันได้แต่หวังว่าเราได้ให้ความสำคัญ และใช้ช่วงเวลาอดีตของอนาคตอย่างคุ้มค่ากับคนที่เรารักนะคะ

 

โดย Suzie Eller  

Encouragement for today : www.christianity.com

( Cr.ภาพ jasonepowell.com)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.