เราควรมีความสัมพันธ์ จุดยืน และบทบาทอย่างไรต่อ สังคม และรัฐ?
“Whatever makes men good Christians make them good citizens.” -Daniel Webster-
(อะไรที่ทำให้คนเราเป็นคริสเตียนที่ดีได้ สิ่งนั้นก็ทำให้พวกเขาเป็นพลเมืองที่ดีด้วย) (ดาเนียล เว็บสเตอร์)
เราที่เป็นคริสเตียนที่ดี จึงสมควรเป็นพลเมืองที่ดีของบ้านเมือง โดยประพฤติดังนี้
- เราต้องไม่ทำสิ่งที่ผิด แม้ว่าใคร ๆ ในสังคมเขาจะทำกัน
รม.12:2 “อย่าลอกเลียนแบบอย่างคนในยุคนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจ แล้วอุปนิสัยของท่านจึงจะเปลี่ยนใหม่ เพื่อท่านจะได้ทราบพระประสงค์ของพระเจ้า จะได้รู้ว่าอะไรดี อะไรเป็นที่ชอบพระทัย และอะไรดียอดเยี่ยม”
- เราต้องไม่เข้าสังคมกับคนทำบาปที่สร้างปัญหา หรือทำร้ายผู้อื่น
สภษ.20:19-20 “คนที่เที่ยวซุบซิบย่อมเผยความลับ ฉะนั้นอย่าเข้าสังคมกับคนปากบอน 20คนที่แช่งบิดาหรือมารดาของตนประทีปของเขาจะดับมืดมิด”
- เราต้องไม่เสแสร้งทำตัวเป็นคนเคร่งศาสนา แต่กลับทำตรงกันข้าม
สดด.50:16-21 “แต่พระเจ้าตรัสกับคนอธรรมว่า “เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาท่องกฎเกณฑ์ของเรา หรือรับพันธสัญญาของเราด้วยปากของเจ้า? 17เพราะเจ้าเกลียดวินัย และเจ้าเหวี่ยงคำของเราไว้ข้างหลังเจ้า 18เมื่อเจ้าเห็นขโมย เจ้าก็คบเขา และเจ้าเข้าสังคมกับคนล่วงประเวณี 19“เจ้าปล่อยปากของเจ้าให้พูดชั่ว และลิ้นของเจ้าปั้นการหลอกลวง
20เจ้านั่งพูดใส่ร้ายพี่น้องของเจ้าเจ้านินทาเขา21เจ้าได้ทำสิ่งเหล่านี้ แล้วเราก็นิ่งเงียบ เจ้าคิดว่าเราเป็นเหมือนเจ้าแต่เราจะตำหนิเจ้า และกล่าวโทษเจ้า”
- เราต้องยุติการกระทำที่ไม่ดี(ที่เคยทำมา) และทำสิ่งที่ดีต่อสังคมทดแทน
อฟ.4:28 “คนที่เคยขโมยก็อย่าขโมยอีกต่อไป แต่จงใช้มือ [ของตน]ตรากตรำทำงานที่ดีดีกว่า เพื่อจะได้มีอะไรแจกจ่ายให้คนที่มีความจำเป็น”
- เราต้องเป็นคนที่สัตย์ซื่อสุจริตในทุกด้าน
สภษ.10:9 “คนที่ดำเนินในความซื่อสัตย์ก็ดำเนินอย่างมั่นคง แต่ผู้ที่ทำทางของตนให้คดก็จะถูกเปิดโปง”
20:7 “คนชอบธรรมดำเนินในความซื่อสัตย์ของตน ลูกหลานของเขาที่เกิดตามมาก็เป็นสุข”
ทต.2:10 “อย่าให้ยักยอกแต่ให้สำแดงความซื่อสัตย์และดีงามในทุกอย่าง เพื่อเขาทั้งหลายจะเทิดพระเกียรติ พระดำรัสสอนของพระเจ้าพระผู้ช่วยให้รอดของเราในทุกๆ ด้าน”
- เราต้องดำเนินชีวิตอย่างมีสติสัมปชัญญะ
ทต.2:4-6 “เพื่ออบรมหญิงสาวให้รักสามีและบุตรของพวกตน 5มีสติสัมปชัญญะ เป็นคนบริสุทธิ์ ดูแลบ้านเรือนอย่างดี มีความเมตตาและเชื่อฟังสามีของตน เพื่อว่าพระวจนะของพระเจ้าจะไม่ถูกดูหมิ่น 6ส่วนพวกชายหนุ่มก็เหมือนกัน จงเตือนสติพวกเขาให้มีสติสัมปชัญญะ”
2:11-12 “เพราะว่าพระคุณของพระเจ้าปรากฏแล้ว เพื่อช่วยทุกคนให้รอด 12และเพื่อสอนเราให้ละทิ้งความอธรรมและโลกียตัณหา และให้ดำเนินชีวิตในยุคนี้อย่างมีสติสัมปชัญญะ อย่างชอบธรรมและให้ดำเนินตามทางพระเจ้า”
- เราต้องดำเนินชีวิตอย่างคนมีปัญญาที่ก่อประโยชน์
อฟ.5:15-18 “เพราะฉะนั้น จงระวังในการดำเนินชีวิตให้ดี อย่าเหมือนคนไร้ปัญญา แต่ให้เหมือนคนมีปัญญา 16จงใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์ เพราะว่าทุกวันนี้เป็นยุคสมัยที่ชั่วร้าย17เพราะเหตุนี้ อย่าเป็นคนโง่เขลา แต่จงเข้าใจว่าอะไรคือพระประสงค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า18และอย่าเมาเหล้าองุ่นซึ่งจะทำให้เสียคน แต่จงเต็มเปี่ยมด้วยพระวิญญาณ”
- เราต้องประพฤตตัวให้เป็นที่น่านับถือของคนในชุมชน
ทต.2:1-3 “ส่วนท่านจงสอนให้สอดคล้องกับคำสอนที่ถูกต้อง 2สอนบรรดาผู้ชายสูงอายุให้รู้จักประมาณตน มีความน่านับถือ มีสติสัมปชัญญะ มีความเชื่อที่ถูกต้อง มีความรัก และความทรหดอดทน 3ส่วนบรรดาผู้หญิงสูงอายุก็เหมือนกัน สอนพวกนางให้ประพฤติด้วยความน่านับถือ ไม่ใส่ร้าย ไม่ติดเหล้า แต่เป็นผู้สอนสิ่งที่ดีงาม”
- เราต้องดำเนินชีวิตให้เป็นแบบอย่างที่ดีในทุกด้านไม่มีใครติได้
ทต.2:7-8 “ท่านเองจงประพฤติตนให้เป็นแบบอย่างในการดีทุกด้าน ในการสอนอย่างจริงใจ จริงจัง 8และถูกต้องที่ไม่มีใครจะตำหนิได้ เพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามอับอายและไม่สามารถกล่าวร้ายอะไรต่อเรา”
- เราต้องเรียนรู้จักยอมรับในความแตกต่าง (ในความคิด/ความเชื่อและวิถีปฏิบัติ)
รม.14:1-5 “จงต้อนรับคนที่ยังมีความเชื่อน้อยอยู่ แต่ไม่ใช่เพื่อให้โต้เถียงกันในเรื่องที่เป็นความคิดเห็นส่วนตัว 2คนหนึ่งถือว่าจะกินอะไรก็ได้ แต่อีกคนหนึ่งที่มีความเชื่อน้อยก็กินแต่ผักเท่านั้น3อย่าให้คนที่กินนั้นดูหมิ่นคนที่ไม่กิน และอย่าให้คนที่ไม่กินตัดสินคนที่กิน เพราะว่าพระเจ้าทรงยอมรับเขาแล้ว 4ท่านเป็นใคร จึงกล่าวโทษบ่าวของคนอื่น? บ่าวคนนั้นจะตั้งมั่นหรือจะล่มจมก็สุดแล้วแต่นายของเขา และเขาจะตั้งมั่นแน่นอน เพราะว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสามารถให้เขาตั้งมั่นได้ 5คนหนึ่งถือว่าวันหนึ่งดีกว่าอีกวันหนึ่ง แต่อีกคนหนึ่งถือว่าทุกวันเหมือนกัน ขอให้ทุกคนมีความแน่ใจในความคิดเห็นของตนเถิด”
- เราต้องเคารพในเกียรติผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้อาวุโสหรือเจ้านาย
ลนต.19:32 “จงลุกขึ้นคำนับคนผมหงอกและเคารพผู้อาวุโส และจงยำเกรงพระเจ้าของเจ้า เราคือยาห์เวห์”
1ทธ.6:2 “ส่วนพวกมีนายที่มีความเชื่อก็ต้องไม่ขาดความเคารพนาย เนื่องจากเป็นพี่น้องกันแล้ว แต่กลับจะต้องรับใช้นายให้ดียิ่งขึ้น เพราะว่านายทั้งหลายที่ได้รับประโยชน์จากการรับใช้ของพวกเขานั้น เป็นพวกมีความเชื่อและเป็นที่รัก จงสั่งสอนและกำชับในเรื่องเหล่านี้”
- เราต้องปฏิบัติตามระเบียบวินัย และบทบาทหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
1คร.9:25 “ส่วนนักกีฬาทุกคนก็ควบคุมตัวเองในทุกด้าน พวกเขาทำเพื่อจะได้มงกุฎใบไม้ที่ร่วงโรยได้ แต่มงกุฎของเราจะไม่ร่วงโรยเลย”
1ทธ.5:21 “ข้าพเจ้ากำชับท่านเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าและพระเยซูคริสต์ และต่อหน้าบรรดาทูตสวรรค์ที่ทรงเลือกไว้ว่า จงรักษาระเบียบเหล่านี้ไว้โดยไม่ต้องเห็นแก่หน้าใคร และไม่ควรทำสิ่งใดๆ ด้วยใจลำเอียง”
- เราต้องทำให้เพื่อนบ้าน ชุมชน หรือสังคมมีความพอใจในสิ่งดีที่เราทำ
รม.15:1-2 “พวกเราซึ่งมีความเชื่อเข้มแข็ง ควรจะอดทนต่อข้อบกพร่องของคนที่อ่อนแอ ไม่ควรทำอะไรตามความพอใจของตัวเอง 2เราทุกคนจงทำให้เพื่อนบ้านพอใจ เพื่อประโยชน์ในการเสริมสร้างความเชื่อของเขา”
- เราต้องกระตือรือร้นในการช่วยเหลือผู้ที่มีความจำเป็นด้วยใจเมตตา
มธ.9:36-38 “และเมื่อพระองค์ทอดพระเนตรฝูงชนก็ทรงสงสารเขาทั้งหลาย เพราะพวกเขาถูกรังควานและไร้ที่พึ่งเหมือนฝูงแกะไม่มีผู้เลี้ยง 37แล้วพระองค์ตรัสกับสาวกทั้งหลายของพระองค์ว่า “ข้าวที่ต้องเกี่ยวนั้นมีมากนักหนา แต่คนงานยังน้อยอยู่38เพราะฉะนั้นท่านจงอ้อนวอนพระองค์ผู้ทรงเป็นเจ้าของนา ให้ทรงส่งคนงานมาเก็บเกี่ยวพืชผลของพระองค์”
- เราต้องเป็นพลเมืองดีที่เคารพกฎหมายและให้เกียรติผู้ปกครองบ้านเมือง
รม.13:1-5 “ทุกคนจงยอมอยู่ใต้บังคับของผู้ที่มีอำนาจปกครอง เพราะว่าไม่มีอำนาจใดเลยที่ไม่ได้มาจากพระเจ้า และผู้ที่ถืออำนาจนั้น พระเจ้าทรงแต่งตั้งขึ้น 2เพราะฉะนั้นผู้ที่ขัดขืนอำนาจนั้น ก็ขัดขืนผู้ซึ่งพระเจ้าทรงแต่งตั้งขึ้น และผู้ที่ขัดขืนนั้นจะต้องถูกลงโทษ 3เพราะว่าผู้ครอบครองนั้นไม่น่ากลัวเลยสำหรับคนที่ประพฤติดี แต่ว่าเป็นที่น่ากลัวสำหรับคนที่ประพฤติชั่ว ท่านไม่อยากจะกลัวผู้มีอำนาจหรือ? ถ้าอย่างนั้นก็จงทำแต่ความดี แล้วท่านก็จะได้เป็นที่พอใจของผู้มีอำนาจนั้น 4เพราะว่าผู้ครอบครองนั้น เป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าเพื่อให้ประโยชน์แก่ท่าน แต่ถ้าท่านทำความชั่วก็จงกลัวเถิด เพราะว่าผู้ครอบครองไม่ได้ถือดาบไว้เฉยๆ แต่เป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า และจะเป็นผู้ลงโทษแทนพระเจ้าแก่ทุกคนที่ประพฤติชั่ว 5เพราะฉะนั้นท่านจะต้องเชื่อฟังผู้ครอบครอง ไม่ใช่เพื่อจะหลีกเลี่ยงการลงโทษอย่างเดียว แต่เพื่อมโนธรรมด้วย”
13:6-7 “เพราะเหตุผลนี้ ท่านจึงได้เสียส่วยด้วย เพราะว่าผู้มีอำนาจนั้นเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า และปฏิบัติหน้าที่นี้อยู่ 7จงให้แก่ทุกคนที่ท่านต้องให้เขา คือ ส่วย แก่คนที่ท่านต้องเสียส่วยให้ ภาษี แก่คนที่ท่านต้องเสียภาษีให้
ความยำเกรง แก่คนที่ท่านต้องให้ความยำเกรงเกียรติ แก่คนที่ท่านต้องให้เกียรติ”
- เราต้องสร้างอิทธิพลที่ดี มีประโยชน์และนำสังคมไปในทางที่เจริญรุ่งเรือง
ยน.12:18-19 “เหตุที่ฝูงชนพากันไปหาพระองค์ ก็เพราะเขาได้ยินว่าพระองค์ทรงทำหมายสำคัญนั้น 19พวกฟาริสีจึงพูดกันว่า “เห็นไหม? เราทำอะไรไม่ได้เลย ดูซิ โลกตามเขาไปหมดแล้ว”
ทต.3:8 “คำกล่าวนี้สัตย์จริง ข้าพเจ้าปรารถนาให้ท่านเน้นเรื่องเหล่านี้ เพื่อพวกที่เชื่อในพระเจ้าแล้วจะได้มุ่งทำการดี การกระทำเหล่านี้ดีและเป็นประโยชน์กับทุกคน”
- เราต้องเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าที่รักการประกาศข่าวประเสริฐต่อคนในชุมชนและสังคม
รม.15:14-16 “พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าเชื่อแน่ว่าท่านบริบูรณ์ด้วยความดี และพร้อมด้วยความรู้ทุกอย่าง สามารถจะเตือนสติกันและกันได้ 15แต่การที่ข้าพเจ้ากล้าเขียนบางเรื่องถึงท่าน เพื่อเตือนความจำของท่าน ก็เนื่องจากพระคุณของพระเจ้าที่ได้ประทานแก่ข้าพเจ้า 16เพื่อให้เป็นผู้รับใช้ของพระเยซูคริสต์ไปยังคนต่างชาติ และทำหน้าที่ปุโรหิตฝ่ายข่าวประเสริฐของพระเจ้า เพื่อคนต่างชาติจะเป็นเครื่องบูชาที่ชอบพระทัย คือเป็นที่ชำระไว้โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์”
สรุป
ให้เราเป็นพลเมืองดีที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อสังคม ประเทศชาติ และโลกนี้ ในฐานะเกลือ และแสงสว่าง ที่ทำให้คนสรรเสริญพระเจ้า ผู้สูงสุด!
“ท่านทั้งหลายเป็นเกลือแห่งโลก ถ้าเกลือนั้นหมดรสเค็มไปแล้ว จะทำให้กลับเค็มอีกได้อย่างไร ตั้งแต่นั้นไปก็ไม่เป็นประโยชน์อะไร มีแต่จะถูกทิ้งเสียให้คนเหยียบย่ำ 14“ท่านทั้งหลายเป็นความสว่างของโลก นครซึ่งอยู่บนภูเขาจะถูกปิดบังไว้ไม่ได้ 15เมื่อจุดตะเกียงแล้วไม่มีผู้ใดเอาถังครอบไว้ ย่อมตั้งไว้บนเชิงตะเกียง จะได้ส่องสว่างแก่ทุกคนที่อยู่ในบ้านนั้น 16ทำนองเดียวกันพวกท่านจงส่องสว่างแก่คนทั้งปวง เพื่อว่าเมื่อเขาทั้งหลายได้เห็นความดีที่ท่านทำ พวกเขาจะได้สรรเสริญพระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์” (มธ.5:13-16)
ศจ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์