สัมพันธภาพจะดีกว่าที่ผ่านมาได้อย่างไร?

สัมพันธภาพจะดีกว่าที่ผ่านมาได้อย่างไร?

“สัมพันธภาพที่ดีที่สุด เป็นอย่างนี้:

คุยกันได้อย่างเพื่อนที่สุดรัก เล่นด้วยกันได้อย่างเด็กๆ ถกเถียงกันได้อย่างคู่ผัวตัวเมีย ปกป้องซึ่งกันได้ดุจพี่น้องกัน!”

ไม่ว่าความสัมพันธ์ของเราในคริสตจักรจะเป็นอย่างไรในอดีตที่ผ่านมา แต่ปีใหม่นี้ สมควรจะเป็นเวลาที่เราได้ตัดสินใจว่าจะเอาจริงอาจังในการพัฒนาสัมพันธภาพกับพี่น้องของเราให้ดีขึ้นกว่าเดิม

ไม่ว่าเวลานี้ความสัมพันธ์ของเรากับพี่น้องในคริสตจักรจะเป็นเช่นไร

..แย่

..กลางๆ

..ค่อนข้างดี

หรือ

..ดีมาก

ก็ขอให้เราแน่ใจได้เลยว่า … อย่างไร ๆ เราก็ยังมีพื้นที่เหลือมากพอสำหรับการที่จะพัฒนาตัวพวกเราให้สูงขึ้นสู่ความเป็นเลิศได้เสมอ!

พระเจ้าทรงเป็นบิดาของทุกคนในคริสตจักร ซึ่งเป็นครอบครัวของพระองค์ที่ทรงได้มาโดยการไถ่ด้วยโลหิตและพระชนม์ชีพขององค์พระเยซูคริสต์พระบุตร และได้ทำให้เราทุกคนกลายมาเป็นพี่น้องร่วมสายโลหิตของพระคริสต์ เราจึงควรรักกันอย่างที่พระคริสต์ทรงกระทำให้เห็นเป็นแบบอย่าง

ในคริสตจักร

• เราต้องรักกันอย่างไร้ข้อแม้!
• เราต้องรักกันแม้อีกว่าอีกคนจะไม่สมบูรณ์อย่างที่คิด
• เราต้องรักเขาแม้ว่าเขาจะบกพร่องหรือทำผิดพลาด
• เราต้องรักเขาแม้ว่าเขาจะทำอะไรออกมาต่ำกว่ามาตรฐานที่คาดหวัง
• เราต้องรักเขาแม้ว่าเขาจะทำให้เราผิดหวัง เสียใจและเจ็บปวด

แต่เราจะรักเขาอย่างไรดี?

ต่อไปนี้เป็นแนวทางที่พึงกระทำ…

• เราควรปฏิบัติต่อเขาดุจเป็นมิตรสหายที่คบหากันได้สนิทสนมจนกลายเป็นเพื่อนรักรู้ใจที่ไว้ใจได้และคุยกันได้ทุกเรื่อง โดยไม่เหลืออะไรให้ปิดบังกันอีกต่อไป
• เราควรแสดงอาการผ่อนคลายเวลามาโบสถ์และเจอะเจอเขา สามารถหยอกล้อหรือเล่นสนุกสนานด้วยกันได้อย่างเด็กๆ โดยที่ไม่ต้องวางเชิงหรือฟอร์ม ใดๆ นอกจากความจริงใจซื่อใสไร้เดียงสา โดยปราศจากวาระแอบแฝงใดๆ ต่อกัน(แม้ว่าในความเป็นจริงอาจจะมีใครบางคนที่มาตีสนิทคบหากับเราเพื่อมุ่งแสวงหาประโยชน์จากความสัมพันธ์ที่เรามอบให้แก่เขาอย่างจริงใจก็ตาม แต่เราต้องเข้าใจก่อนว่า แม้ว่าเราควรจะมีจิตใจที่ดีงาม แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องโง่ ปล่อยให้ผู้ใดมาหลอกลวงหรือเอาเปรียบตัวเราหรือพี่น้องของเราถึงในโบสถ์ที่เราเป็นสมาชิกอยู่)
• เราควรสามารถมองต่างมุม หรือถกเถียงกันในเรื่องความคิดเห็นที่แตกต่างกันได้ในโบสถ์ของเราได้ โดยตกลงที่จะยอมรับในจุดต่าง และสงวนจุดเหมือนไว้และอยู่ร่วมกันได้ด้วยความเคารพในจุดยืนของกันและกันแบบที่คู่สามีภรรยาที่รักกันและครองคู่ร่วมกันมาอย่างยาวนานกระทำให้เห็นด้วยความเข้าใจและให้เกียรติแก่กันและกัน แม้ว่าเราอาจไม่เห็นด้วยกันในบางเรื่องบางประเด็นก็ตาม

ยิ่งกว่านั้น… เราควรมีความห่วงใยในสวัสดิภาพของคนในคริสตจักรของเรา

• ไม่ว่าเราจะรู้จักเขาดีหรือไม่ก็ตาม
• ไม่ว่าเราจะชอบเขาหรือไม่ก็ตาม
• ไม่ว่าเราจะเห็นด้วยกับเขาหรือไม่ก็ตาม

ขอให้เราอดเอาเบาสู้ต่อพวกเขา พร้อมปฏิบัติและปกป้องพวกเขาเสมือนว่าเป็นพี่น้องในครอบครัวเดียวกันของเรา โดยไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ไม่แบ่งเขาแบ่งเรา   และไม่ลังเลที่จะช่วยเหลือคุ้มครองเขาให้รอดปลอดภัยพ้นจากวิกฤติหรือภัยต่างๆ ที่เขาเผชิญ อย่างน้อยก็อธิษฐานกับเขา หรืออธิษฐานเผื่อเขา

เชื่อได้เลยว่า…

หากเราปฏิบัติต่อคนในคริสตจักรของเราดังที่พรรณนามาแล้วอย่างจริงใจ และเต็มใจ โบสถ์ของเรา(ในวันอาทิตย์ และวันอื่น ๆ) ก็จะกลายเป็นครอบครัวที่อบอุ่นสนิทสนมแบบที่คนในไม่อยากออก แต่คนนอกอยากเข้า

คริสตจักรแห่งนี้  ก็จะกลายเป็นคริสตจักรแห่งความสุข ที่แท้จริง

…มิใช่หรือ?

 

-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-

twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/lifeanswer, facebook.com/lifeanswer

(Cr.ภาพ www.flicker.com)