ไม่อยากจะลืม
ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระเจ้าทุกครั้งที่ระลึกถึงท่านทั้งหลาย (ฟีลิปปี 1:3)
พอเดินเข้าประตูไป ท่านชี้นิ้วมาที่ฉัน ทำหน้างงๆ พูดว่า “แล้วคุณคือ…?”
“หนูคือลูกสะใภ้คนโปรดของคุณพ่อไง ลืมหนูแล้วหรือ?” ฉันตอบขำๆ สำหรับเรามันเป็นเรื่องขำเดิมๆ แต่สำหรับท่าน มันเป็นเรื่องใหม่ทุกครั้ง
คุณพ่อสามีของฉัน ครั้งหนึ่งเคยเป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นผู้ใหญ่และหลักของครอบครัวเรา ถูกโจมตีด้วยโรคสมองเสื่อม (อัลไซเมอร์) มากว่าสิบปีแล้ว เหมือนกระดานดำที่รอยชอล์คค่อยๆลบเลือน ความทรงจำเกี่ยวกับพวกเราก็ค่อยๆจางหายไปด้วย
ไม่นานมานี้เรามีโอกาสไปใช้เวลากับท่าน เมื่อเราเตรียมตัวกลับ ท่านดึงริชาร์ดสามีของฉันไปข้างๆ ถามว่า
“ฉันรู้จักเธอมั้ย?”
“ผมเป็นลูกชายคนโตของพ่อไงครับ” ริชาร์ดตอบ
คุณพ่อจึงดึงกระเป๋าสตางค์สีดำใบเก่าออกมา ดึงธนบัตร 20 เหรียญออกมาด้วย พร้อมด้วยน้ำตานองหน้าท่านพูดว่า “พ่อให้ลูก เพราะลูกเป็นเด็กดี” ริชาร์ดนำเงินไปคืนให้คุณแม่ แต่สิ่งที่นำกลับไปมีค่ามากมายสำหรับเขา
ชั่วขณะหนึ่ง คุณพ่อจำเขาได้
คุณพ่อสามีที่ต่อสู้กับโรคร้ายนี้สอนฉันถึงอำนาจของความทรงจำ แม้ท่านจะถูกโรคสมองเสื่อมขโมยความทรงจำไป ยังมีสิ่งอื่นๆอีกที่ปล้นของขวัญนั้นไปจากเรา
บางครั้งฉันปล่อยให้ช่วงเวลาแห่งความเจ็บปวดขโมยความทรงจำที่ดีๆไป เพื่อนพูดบางอย่างที่เจ็บปวด หรือโต้เถียงกับคนที่ฉันรัก แล้วความทรงจำดีๆที่เรามีต่อกันสูญหายไปสิ้น ทำให้ฉันต้องหยุดคิดถึงเรื่องราวต่างๆที่ทำให้มิตรภาพของเราพังลงมา
บางครั้งฉันก็ปล่อยให้ความยุ่งเหยิงมาขโมยความทรงจำไป มีแต่พอกพูนนัดหมายจนเต็มปฏิทินไปหมด ลืมคุณค่าของการได้ใช้เวลาพูดคุย หยอกล้อกับคนรอบตัวหมดสิ้น แต่ก็มีบางครั้งที่ฉันอยากลบความทรงจำบางอย่างทิ้ง – ไม่อยากรอให้แก่ไปกว่านี้ ไม่อยากรอให้เข้าหน้าร้อนก่อน ไม่อยากรอให้เป้าหมายบางอย่างสำเร็จ ไม่อยากรอให้อะไรๆมันง่ายขึ้น
ในทุกฤดูกาลของชีวิต มีความทรงจำเพิ่มเข้ามาเสมอ เช่นเดียวกับความสัตย์ซื่อของพระเจ้า ความทรงจำล้ำค่าเมื่อได้มองภาพถ่ายเก่าๆ จำได้ถึงความรู้สึกวางใจในพระเจ้าในทุกย่างก้าวแห่งการผจญภัย
เมื่อหนังสือฟีลิปปีถูกเขียนขึ้นมา เป็นจดหมายฝาก เป็นธรรมเนียมปฏิบัติในสมัยนั้น สองสามประโยคแรกในจดหมายของ อ.เปาโล ที่จริงเหมือนเป็น “คำสรุป” ที่ผู้เขียนเขียนก่อนจบ คือย้อนกลับไปเขียนสองสามประโยคแรกเป็นคำสรุป
นี่เป็นคำสรุปของ อ.เปาโลในจดหมายฝากที่งดงามถึงคริสตจักรในเมืองฟีลิปปี :
“เปาโลและทิโมธี ผู้รับใช้ของพระเยซูคริสต์ เรียน บรรดาธรรมิกชนทุกท่านในพระเยซูคริสต์ซึ่งอยู่ในเมืองฟีลิปปี รวมทั้งบรรดาผู้ปกครองดูแลและมัคนายก ขอให้พระคุณและสันติสุขจากพระเจ้าพระบิดาของเราและจากพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า จงดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระเจ้าทุกครั้งที่ระลึกถึงท่านทั้งหลาย” (ฟีลิปปี 1:1-3)
จดหมายหลายฉบับที่ อ.เปาโลเขียนมุ่งหมายเพื่อแก้ปัญหา หรือเตือนให้คริสตชนติดตามพระเยซูคริสต์ แต่ฉบับนี้แตกต่าง ท่านถูกจองจำอยู่เมื่อเขียนจดหมายฉบับนี้ ผู้เชื่อในฟีลิปปีเสนอช่วยสนับสนุนงานของท่านขณะที่ท่านอยู่ในคุก ทำให้ท่านไม่ทุกข์ใจมากนัก และนำมาซึ่งความชื่นชมยินดี
คำสรุปของท่านนั้นพูดอย่างเรียบง่ายว่า “ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระเจ้าทุกครั้งที่ระลึกถึงท่านทั้งหลาย” ฉันสงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้นในชีวิตฉัน ถ้ามุ่งเน้นอยู่ที่คำสรุปก่อน
- แน่นอนมีความไม่เข้าใจ และถกเถียงกัน แต่เมื่อมองภาพรวมใหญ่ มีความทรงจำดีๆอยู่มากมายในนั้น เราต้องผ่านเรื่องนี้ไปให้ได้
- ใช่ ชีวิตมีเรื่องยุ่งมากมาย แต่เมื่อมองเห็นความสำคัญ ความทรงจำจะมามาก่อนความสำเร็จ ดังนั้นขอให้ช้าลง และใช้ช่วงเวลาดีๆด้วยกันเพื่อเก็บเป็นความทรงจำ
- ค่ะ บางฤดูกาลของชีวิตก็ไม่ง่าย แต่ให้พิจารณาดูว่าพระเจ้าทรงทำสิ่งใดบ้างในท่ามกลางฤดูกาลเหล่านั้น แทนที่อยากจะลบมันไปจากความทรงจำ
ครั้งสุดท้ายที่เราไปพบคุณพ่อ ท่านกำลังร้องเพลงสมัยเด็กๆ เป็นช่วงเวลาที่หายากยิ่ง ยังจำได้เราร้องประโยคสุดท้ายไปด้วยกัน
ความทรงจำเป็นของขวัญล้ำค่า – ขอพระเจ้าทรงช่วยเรา ให้สร้าง ปกป้อง และให้คุณค่าแก่ช่วงเวลาแห่งความทรงจำที่มีความสุขนั้น
โดย Susie Eller
Encouragement for today devotion (Proverbs 31 Ministries) : www.christianity.com
(Cr.ภาพ dreamstime.com)