ผจญภัยในความเชื่อ
ฉะนั้นเราจึงไม่ย่อท้อ ถึงแม้ว่าสภาพภายนอกของเรากำลังทรุดโทรมไป แต่สภาพภายในนั้นก็ได้รับการเปลี่ยนใหม่ทุกๆ วัน เพราะว่าความยากลำบากชั่วคราวและเล็กน้อยของเรา จะทำให้เรามีศักดิ์ศรีนิรันดร์มากมายอย่างไม่มีที่เปรียบ เราไม่ได้เอาใจใส่ในสิ่งที่มองเห็น แต่เอาใจใส่ในสิ่งที่มองไม่เห็น เพราะว่าสิ่งที่มองเห็นนั้นไม่ยั่งยืน แต่สิ่งที่มองไม่เห็นนั้นถาวรนิรันดร์ (2โครินธ์ 4:16-18)
ความเจ็บปวดและวิกฤติเป็นมิตรที่คุ้นเคยเสมอในชีวิตฉัน เพื่อนคนหนึ่งเคยบอกว่าฉันน่าจะไปออกเรียลลิตี้โชว์ตามทีวี เพราะไม่มีใครคิดว่าฉันจะรอดไปได้วันต่อวัน
ความจริงคือเราอยู่ในโลกที่เสื่อมถอย การทดลองและปัญหาจะไม่หายไปจากโลก ฉันเคยขอพระเจ้าบ่อยครั้งให้ตัวเองเป็นกรณียกเว้น แต่ไม่เคยเกิดขึ้น – ในฝั่งนี้ของสวรรค์ – แต่มันทำให้ฉันได้พบความจริงอันน่าทึ่งที่ทำให้ผ่านได้ทุกเสี้ยวนาทีที่คอยอยู่
เราจะให้ทรัพย์สมบัติในที่มืดแก่เจ้า และให้ขุมทรัพย์ในที่ลี้ลับ เพื่อเจ้าจะรู้ว่าเราคือยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอล ผู้เรียกเจ้าตามชื่อของเจ้า (อิสยาห์ 45:3)
พระเจ้าทรงดำเนินไปก่อนหน้าเรา และซ่อนขุมทรัพย์ไว้ในทุกใจกลางการทดลอง ทรงเก็บทรัพย์สมบัติไว้ให้เราในที่ลี้ลับ จะพบขุมทรัพย์นั้นได้ ต้องผ่านเข้าไปในการทดสอบและทดลองก่อน ทรัพย์สมบัติเหล่านั้นจะพบได้เมื่อเราเดินหน้าฝ่าความกลัวเข้าไป
พระเจ้าเลือกที่จะฝากความชื่นชมยินดี และทรัพย์สมบัติล้ำค่าของพระองค์ไว้ในความโศกเศร้าที่ลึกล้ำ มีเพลงๆหนึ่งที่ฉันชอบฟังอยู่เสมอ คือเพลง “พระพร”
ถ้าพระพรของพระองค์มาในสายฝน?
ถ้าการรักษาของคุณมาทางม่านน้ำตา?
ถ้าค่ำคืนนับพันที่ฉันหลับไม่ลง แต่รู้ว่าพระองค์ทรงอยู่ด้วย?
ถ้าพระเมตตาของพระองค์สำหรับชีวิตนี้ซ่อนมาในการทดลอง?
ทำให้ฉันสงสัยว่าการทดลอง และความเจ็บปวดทางกาย เป็นความรักและพระเมตตาของพระเจ้าสำหรับฉันหรือ? ความเจ็บปวดที่รู้สึกอยู่ทำให้ฉ้นรู้จักพระเจ้ามากขึ้น เข้าใจมากขึ้น และสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดของผู้อื่นหรือ?
ใช่ค่ะ … และฉันรู้ดี ความเปราะบางในความเป็นมนุษย์เป็นสิ่งย้ำเตือนเสมอว่าที่นี่ไม่ใช่บ้าน ทุกสิ่งที่นี่เป็นเพียงของชั่วคราว มันทำให้ฉันดีใจเป็นที่สุด สิ่งที่รออยู่ในอนาคตเป็นสิ่งที่ไม่อาจจินตนาการได้ โลกนี้ไม่ใช่บ้านของเรา สวรรค์เท่านั้นที่เป็น!
เฟรเดอริค บุคเนอร์ เรียกสิ่งนี้ว่า “ผู้อารักขาความเจ็บปวด” “นึกถึงความเจ็บปวดสม่ำเสมอ” บุคเนอร์แนะนำว่า “ที่เราต้องนึกถึงช่วงเวลาแห่งความเจ็บปวดเพราะเวลาเหล่านั้น คุณจะสัมผัสและเข้าใจถึงความเจ็บปวดในหัวใจของผู้อื่น – รู้จักก้นบึ้งของความทุกข์ที่ผ่านมา นึกถึงเวลาแห่งความเศร้าโศก เพราะนั่นเป็นเวลาที่คุณจะรู้จักความอ่อนแอที่สุดและใจที่แตกสลายของคุณ และสัมผัสได้ถึงฤทธิอำนาจของพระเจ้าที่สถิตอยู่และนำให้คุณผ่านไปได้”
นี่คือสิ่งท้าทายในแต่ละวันของฉัน – จับจ้องอยู่ที่พระองค์ ไม่เหลือบมองไปที่สถานการณ์ ตราบเท่าที่ยังมีลมหายใจ ฉันจะสู้ต่อ จะลงสนามและแข่งขันตามที่ได้รับมอบหมาย ต่อสู้ในสงครามแห่งนิรันดร์กาล เดิมพันครั้งนี้คุ้มที่สุดในชีวิต มีชีวิตนิรันดร์เป็นเป้าหมาย เมื่อผู้คนเห็นเราเดินฝ่าพายุของโลกนี้ด้วยกำลังและฤทธิอำนาจที่ไม่อาจอธิบายได้ พวกเขาต้องอยากรู้ว่าอะไร ทำไม และอย่างไร
พระเยซูทรงเป็นคำตอบของ “อะไร อย่างไร และทำไม” อย่าท้อนะคะเพื่อนๆ พระเจ้าทรงอยู่ด้วย พระองค์ไม่ประหลาดพระทัยหรือหวั่นไหวในความทุกข์ยากของเรา น้ำตาทุกหยดของคุณทรงเก็บไว้แล้ว
พระองค์ทรงนับการระหกระเหินของข้าพระองค์ทรงเก็บน้ำตาของข้าพระองค์ใส่ขวดของพระองค์ไว้น้ำตานั้นไม่อยู่ในบันทึกของพระองค์หรือพระเจ้าข้า? (สดุดี 56:8)
วันหนึ่งข้างหน้าจะทรงเทน้ำตากลับสู่ชีวิตคุณ ดั่งสายฝนที่นำความสดชื่น สันติสุข และความชื่นชมยินดีกลับคืน ก่อนถึงวันนั้น ให้เราเข้ามาพักพิงในพระองค์ รอคอย และเรียนรู้จักพระองค์ เพื่อทุกคนที่เห็นจะประหลาดใจและสงสัยว่าเหตุผลแท้จริงคืออะไร
ฉันจะไว้วางใจพระเจ้า จะเดินหน้าฝ่าพายุไปในความเชื่อ จะไม่สงสัยหรือรีรอ จะอธิษฐานด้วยใจมุ่งมั่นและกล้าหาญ เพราะพระเจ้าทรงรอสดับอยู่ …
ขอให้เราเดินหน้าในความเชื่อและความไว้วางใจไปด้วยกันนะคะ
โดย Mary Southerland
อนุญาตโดย Girlsfriend in God : www.crosswalk.com
(Cr. ภาพ dryldeese)