“จงเป็นแบบอย่างที่ดี จงแสดงความกรุณาต่อคนที่ไร้ความเมตตา จงให้อภัยแก่คนที่ไม่สมควรจะได้รับ จงรักอย่างไม่มีเงื่อนไข การกระทำของคุณจะสะท้อนตัวตนของคุณอยู่เสมอ!”
(Be an example… Show kindness to unkind people. Forgive people who don’t deserve it. Love unconditionally. Your actions always reflect who you are.)
คนบางคนเป็นอย่างที่เขาเป็นอยู่ เพราะเขาไม่มีหรือไม่เคยเห็นแบบอย่างที่ดีกว่าที่เขาเคยประสบมา!
ในอดีต… เขาเห็นแบบอย่างใกล้ตัวของเขาเป็นอย่างไร เขาก็เลียนแบบหรือกระทำตามนั้นโดยไม่รู้ตัว ซึ่งหากว่าเขามีแบบอย่างที่ดีกว่าที่เขาเคยมี วันนี้ของเขาก็น่าดีกว่าวันวาน นั่นคือ เขาคงจะเป็นคนที่มีคุณลักษณะนิสัยที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ในเวลานี้!
ดังนั้น ที่ผ่านมาหากเขาเลือกเกิด หรือเลือกโตด้วยตนเองไม่ได้ ก็ขอให้เรายอมรับตัวของเขาที่เป็นอยู่ในเวลาปัจจุบัน เพราะเขาคือผลิตผลของอดีต (ที่ทำตามแบบอย่างที่เขาเคยเห็นไม่ว่าจะโดยเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม) ด้วยเหตุนี้ ขอให้วันนี้เรามีใจเมตตาต่อพวกเขา โดยมาทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดีกว่าที่พวกเขาเคยเห็น
ดุจดังคำกล่าวที่ว่า…
“เด็กผู้ชายจำเป็นต้องได้เห็น(แบบอย่างของ) สุภาพบุรุษ(บุรุษที่ดี) เพื่อที่เขาจะได้กลายเป็นสุภาพบุรุษ(บุรุษที่ดี) เช่นกัน!”
(Boys have to see A good man In order to turn A good man.)
ดังนั้น การเป็นแบบอย่างที่ดีของเรา จึงมีสำคัญมากพอพอกับที่การเป็นแบบอย่างที่ดีของผู้อื่นนั้นมีอิทธิพลต่อความคิดและการกระทำของเราเช่นกัน!
พระเยซูคริสต์ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เราเห็นและลงมือทำตามในหลาย ๆ เรื่อง ยกตัวอย่างที่บันทึกไว้ในพระธรรม 1เปโตร ว่า พระคริสต์ทรงทนทุกข์เพื่อเป็นแบบอย่างให้เราดำเนินตามรอยพระบาทของพระองค์
“เพราะพระเจ้าทรงเรียกพวกท่านเพื่อจุดประสงค์นี้ เพราะว่าพระคริสต์ทรงทนทุกข์เพื่อพวกท่าน พระองค์ทรงวางแบบอย่างแก่พวกท่าน เพื่อท่านจะได้ดำเนินตามรอยพระบาทของพระองค์” (1เปโตร 2:21)
คำถามคือ พระองค์ทรงวางแบบอย่างอะไรไว้ให้แก่เรา?
- พระองค์ไม่ทำบาป
- พระองค์ไม่ล่อลวง (หรือปล่อยให้คำล่อลวงออกจากพระโอษฐ์ของพระองค์)
- พระองค์ไม่ได้กล่าวคำหยาบคายตอบโต้ผู้ใด
- พระองค์ไม่ทรงขู่อาฆาตในยามที่ผู้อื่นทำให้พระองค์ทนทุกข์
- พระองค์ทรงมอบพระองค์เองไว้แก่พระเจ้า ด้วยความไว้วางใจ
- พระองค์ทรงยอมรับโทษ เกิดบาดแผลและตายแบกรับบาปของเราไว้ที่พระกายของพระองค์ เพื่อไถ่บาปของเรา
- พระองค์ทรงพร้อมเลี้ยงดูจิตวิญญาณของเรา และช่วยเราให้ดำเนินชีวิตในความชอบธรรม
“พระองค์ไม่ได้ทรงทำบาปเลย และไม่พบการล่อลวงในพระโอษฐ์ของพระองค์เลย เมื่อเขากล่าวคำหยาบคายต่อพระองค์ พระองค์ไม่ได้ทรงกล่าวตอบเขาด้วยคำหยาบคายเลย เมื่อพระองค์ทรงทนทุกข์ พระองค์ไม่ได้ทรงขู่อาฆาต แต่ทรงมอบพระองค์เองไว้แก่พระเจ้าผู้ทรงพิพากษาอย่างยุติธรรม พระองค์เองได้ทรงรับแบกบาปทั้งหลายของเราไว้ในพระกายของพระองค์ ที่ต้นไม้นั้น เพื่อว่าเราจะตายต่อบาปได้ และดำเนินชีวิตเพื่อความชอบธรรม ด้วยบาดแผลของพระองค์ พวกท่านจึงได้รับการรักษาให้หาย เพราะว่าพวกท่านได้หลงเจิ่นไปเหมือนแกะ แต่เดี๋ยวนี้ได้กลับมาหาพระผู้เลี้ยงและผู้ดูแลวิญญาณจิตของพวกท่านแล้ว” (1เปโตร2:22-25)
ดังนั้น วันนี้ ขอให้ชีวิตของเรามาเลียนแบบตัวอย่างอันล้ำเลิศของพระองค์ และลงมือปฏิบัติตาม โดยไม่รีรอ เพราะเราเชื่อมั่นว่า การกระทำตามแบบอย่างของพระคริสต์นี้ จะส่งผลดีต่อบรรดาผู้คนที่กำลังเฝ้าดูชีวิตของเราอยู่ (ไม่ว่าเราจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม) รวมทั้งจะส่งผลดีกลับคืนมาสู่ตัวของเราเองในบั้นปลายด้วย
เห็นด้วยไหมครับ?
-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-
twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/lifeanswer, facebook.com/lifeanswer
(Cr.ภาพ faithgateway.com)