“จงชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าทุกเวลา ข้าพเจ้าขอย้ำอีกครั้งว่าจงชื่นชมยินดีเถิด”
(Rejoice in the Lord always; again I will say, rejoice.) (ฟิลิปปี 4:4)
คนเราจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างไร หากไม่มีสิ่งใดที่ทำให้เขาชื่นชมยินดี บนเส้นทางแห่งชีวิตนั้น?
ดังนั้น ไม่ว่าชีวิตของเราจะเจอะเจอกับอะไร เราควรจะมีสิ่งที่ชูใจที่ทำให้ชีวิตของเรามีเรี่ยวแรงที่จะเดินหน้าต่อไป
อ.เปาโล เป็นเอกบุรุษในประวัติศาสตร์ของโลก เป็นผู้ที่พระเจ้าทรงใช้สานงานขององค์พระเยซูคริสต์ และพลิกโลกนี้ด้วยข่าวประเสริฐของพระเจ้า ผ่านการอุทิศทุ่มเทในการประกาศเผยแพร่อย่างสุดตัวของท่าน
ชีวิตของ อ.เปาโล หรือที่รู้จักกันทั่วไปในนามของ “เซนต์ ปอล” (Saint Paul) เป็นเรื่องราวที่น่าทึ่งยิ่งนัก!
ชีวิตของท่านนั้นแสนลำบากยากแค้น แสนเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า แสนอันตรายและเสี่ยงชีวิตยิ่งนัก ดังที่ท่านได้พรรณนาประสบการณ์ชีวิตอันน่าอัศจรรย์ใจของท่านบางส่วนไว้ดังนี้
“แต่เราแสดงตัวเป็นคนปรนนิบัติของพระเจ้าในทุกทาง โดยมีความทรหดอดทนเป็นอย่างมากในความยากลำบาก ความลำเค็ญ ในเหตุวิบัติ การถูกเฆี่ยน และการถูกจำคุก ในเหตุการณ์วุ่นวาย ในการตรากตรำ ในการอดหลับอดนอน ในการอดอาหารโดยความบริสุทธิ์ ความรู้ ความอดทน และความกรุณา โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ โดยความรักอย่างจริงใจ โดยถ้อยคำสัตย์จริง โดยฤทธิ์เดชของพระเจ้า โดยการใช้ความชอบธรรมเป็นอาวุธทั้งด้วยมือขวาและมือซ้าย ทั้งในขณะมีเกียรติและขณะไร้เกียรติ ขณะถูกดูหมิ่นและขณะได้รับการยกย่อง เมื่อถูกกล่าวหาว่าเป็นคนหลอกลวง แต่ยังเป็นคนซื่อสัตย์ ว่าเป็นคนที่ไม่มีใครรู้จัก แต่ยังเป็นคนที่ใครๆ รู้จักดี เป็นคนที่กำลังจะตาย แต่ดูสิ ยังมีชีวิตอยู่ เป็นคนถูกเฆี่ยนแต่ยังไม่ตาย เป็นคนมีความทุกข์แต่ยังยินดีอยู่เสมอ เป็นคนยากจนแต่ยังทำให้คนจำนวนมากมั่งมี เป็นคนไม่มีอะไรเลยแต่ยังเป็นเจ้าของทุกสิ่ง” (2โครินธ์ 6:4-10)
และใน
“เขาเป็นคนปรนนิบัติของพระคริสต์หรือ ข้าพเจ้าเป็นดีกว่าพวกเขาเสียอีก (ข้าพเจ้าพูดอย่างคนบ้า) ข้าพเจ้าตรากตรำยิ่งกว่าพวกเขา ข้าพเจ้าติดคุกมากกว่าพวกเขา ข้าพเจ้าถูกโบยตีมากมาย ข้าพเจ้าหวิดตายบ่อยๆ พวกยิวเฆี่ยนข้าพเจ้าห้าครั้ง ครั้งละสามสิบเก้าที ข้าพเจ้าถูกตีด้วยไม้สามครั้ง ถูกก้อนหินขว้างครั้งหนึ่งข้าพเจ้าเผชิญภัยเรือแตกสามครั้ง ข้าพเจ้าลอยอยู่ในทะเลวันหนึ่งกับคืนหนึ่ง ข้าพเจ้าเดินทางบ่อยๆ ข้าพเจ้าเผชิญภัยในแม่น้ำ เผชิญโจรภัย เผชิญภัยจากชนชาติของข้าพเจ้าเอง เผชิญภัยจากคนต่างชาติ เผชิญภัยในเมือง เผชิญภัยในป่า เผชิญภัยในทะเล เผชิญภัยจากพี่น้องจอมปลอม ต้องตรากตรำและลำบาก ต้องอดหลับอดนอนบ่อยๆ ต้องหิวและกระหาย ต้องอดข้าวบ่อยๆ ต้องทนหนาวและเปลือยกาย นอกจากนั้นยังมีสิ่งอื่นที่กดดันข้าพเจ้าอยู่ทุกๆ วัน คือความกังวลเกี่ยวกับคริสตจักรทั้งหมดใครบ้างที่อ่อนแอและข้าพเจ้าไม่อ่อนแอด้วย ใครบ้างที่ถูกชักนำให้หลง และข้าพเจ้าไม่ทุกข์ร้อน” (2โครินธ์ 11:23-29)
หากว่าเราเผชิญกับเหตุการณ์เหล่านั้น เราคงทนได้เพียงไม่กี่น้ำ เพราะสภาพที่น่าหดหู่ น่าเจ็บปวด น่ากลัว น่าสงสาร น่าท้อใจ น่าสิ้นหวัง ฯลฯ เช่นที่ อ.เปาโล เผชิญ เป็นเรื่องที่ยากจะทนรับไว้ได้จริง ๆ แต่ท่านก็ฟันฝ่าผ่านมาได้ ท่านจึงเป็นผู้ที่กล่าวได้อย่างเต็มปากว่า…
“ข้าพเจ้าเผชิญได้ทุกอย่างโดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า”
(I can do all things through him who strengthens me.) ( ฟิลิปปี 4:13)
ท่านรู้จักกับองค์พระคริสต์เป็นส่วนตัวจริง ๆ ท่านจึงได้รับพลังจากพระองค์อย่างเหลือล้น ทำให้ท่านมีความยินดีได้อยู่เสมอ ไม่ว่าท่านจะเผชิญกับสถานการณ์ใดในชีวิตท่านจึงย้ำอยู่เสมอให้เรามีความยินดีในชีวิตที่ติดตามพระคริสต์ด้วยเช่นกัน เพราะท่านมั่นใจในคำสัญญาของพระเยซูคริสต์ ที่จะอยู่กับท่านและพวกเราเสมอไป
“และสอนพวกเขาให้ถือรักษาสิ่งสารพัดที่เราสั่งพวกท่านไว้ และนี่แน่ะ เราจะอยู่กับท่านทั้งหลายเสมอไป จนกว่าจะสิ้นยุค” (มัทธิว 28:20)
ท่านจึงปราศจากความกังวล ปราศจากความกลัว และมีแต่ความปีติยินดีในชีวิต และการรับใช้
เราทั้งหลายก็มี “พระคริสต์” องค์เดียวกับท่าน
เราทั้งหลายจึงควรที่จะมีความชื่นชมยินดีเช่นเดียวกับที่ท่านมี!
มิใช่หรือ? …
-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-
twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/lifeanswer, facebook.com/lifeanswer
(Cr.ภาพ deepenyourfaith.com)