การฟื้นฟูในนีนะเวห์
พระวจนะของพระยาห์เวห์มาถึงโยนาห์ บุตรอามิททัยว่า “จง ลุกขึ้นไปยังนีนะเวห์นครใหญ่ และร้องกล่าวโทษชาวเมืองนั้น เพราะความชั่วของเขาทั้งหลายได้ขึ้นมาอยู่ต่อหน้าเราแล้ว” (โยนาห์ 1:1-2)
คุณอาจพูดว่าโยนาห์เป็นพวกเข็ดขยาดทะเลของแท้ เมื่อพระเจ้าสั่งให้ไปนีนะเวห์ ไปประกาศให้คนที่นั่นกลับใจ ท่าทีที่โยนาห์ตอบสนองคือ “ไม่มีทางเสียละ! คนพวกนั้นชั่วร้ายจะตาย จ้างก็ไม่ไป”
เป็นความจริงที่ชาวนีนะเวห์โหดร้าย พวกเขาขึ้นชื่อเรื่องความโหด เวลาเข้ายึดครองบางประเทศได้ จะทรมานเชลยสงครามก่อนฆ่าทิ้ง พวกเขาเผาทั้งเป็นเด็กทั้งหญิงและชาย ทรมานนักโทษ ถลกหนังตามร่างกายและปล่อยให้ไปตายกลางแดด และแทนที่จะทำในที่ปิดบัง พวกเขากลับทำในที่โล่งแจ้ง พร้อมทั้งเชิญชวนให้ประชาชนออกมาเฉลิมฉลอง และยังตั้งอนุสาวรีย์ความโหดของพวกตนขึ้นมาด้วย
อีกเหตุผลที่โยนาห์ไม่ยอมไปนีนะเวห์ เพราะเป็นเมืองหลวงของอัสซีเรีย ศัตรูตัวฉกาจของอิสราเอล โยนาห์เป็นคนอิสราเอลที่รักชาติ คิดดูดีแล้ว ถ้าไม่ไปประกาศที่นีนะเวห์ พระเจ้าจะพิพากษาชนชาตินั้นเอง — แปลว่าศัตรูอิสราเอลจะลดลงไปอีกหนึ่ง
และจากที่ต้องผจญภัยหลายอย่าง ในที่สุดโยนาห์ก็ยอมไปประกาศที่นีนะเวห์ — และผลก็คือเกิดการฟื้นฟูจิตวิญญาณใหญ่ที่สุดในพระคัมภีร์
อย่างไม่สำเหนียก คนนีนะเวห์ไม่รู้เลยว่าวันเวลาของพวกเขาถูกนับถอยหลังแล้ว อัสซีเรียเป็นเมืองมหาอำนาจที่ปกครองในยุคนั้น เนื่องจากเป็นเมืองมหาอำนาจนานกว่า 200 ปี ต้องใช้เวลากว่าสามวัน ถึงจะเดินรอบเขตเมืองหลวงที่มีประชากรราวล้านคนได้ นับเป็นเมืองใหญ่สุดในยุคโบราณ แต่อีกไม่นาน บาบิโลนจะเข้ามายึดเมืองนี้ พระเจ้าจึงให้โอกาสสุดท้ายแก่ชาวนีนะเวห์
ถ้าพระเจ้าสามารถใช้คนอย่างโยนาห์นำการฟื้นฟูมาไปสู่นีนะเวห์ได้ แน่นอนพระองค์สามารถใช้คนอย่างคุณและผมนำการฟื้นฟูมาสู่ประเทศได้
โดย: Pastor Greg Laurie
อนุญาตโดย Harvest Ministries with Greg Laurie
PO Box 4000,Riverside,CA92514
(Cr. ภาพ frankboulet.com)