การฟื้นฟูเริ่มด้วยการอธิษฐาน
จงขอแล้วจะได้ จงหาแล้วจะพบ จงเคาะแล้วจะเปิดให้แก่พวกท่าน (มัทธิว 7:7)
ในประวัติศาสตร์ ไม่มีการฟื้นฟูใดเกิดขึ้นโดยไม่มีการอธิษฐาน – การฟื้นฟูเริ่มต้นด้วยการอธิษฐาน
พระเจ้าตรัสว่า “ถ้าประชากรของเราผู้ซึ่งเขาเรียกกันโดยนามของเรานั้นจะ ถ่อมตัวลง อธิษฐานและแสวงหาหน้าของเรา ทั้งหันเสียจากทางชั่วของพวกเขา เราก็จะฟังจากสวรรค์ และจะให้อภัยแก่บาปของเขาและจะรักษาแผ่นดินของเขาให้หาย” (2พงศาวดาร 7:14)
สังเกตุดู พระเจ้าตรัสว่า “อธิษฐานและแสวงหาหน้าของเรา” เราไม่ควรอธิษฐานอย่างเดียว แต่เราต้องแสวงหาพระพักตร์ของพระองค์ด้วย มีความแตกต่าง เราอาจอธิษฐานว่า “ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงส่งการฟื้นฟูลงมา อาเมน” ถึงเวลาทานข้าวเที่ยงแล้ว หรือเราอาจอธิษฐานว่า “ข้าแต่พระเจ้า เราแสวงหาพระพักตร์ของพระองค์. . . เราร้องทูลต่อพระองค์ . . .ข้าแต่พระเจ้าเราวิงวอนขอต่อพระองค์ ขอพึ่งพิงพระองค์สุดหัวใจ ขอพระองค์ส่งการพลิกฟื้นให้อเมริกาตื่นจากหลับไหล” พูดอีกแบบ เป็นการอธิษฐานที่ไม่ยอมรับคำปฏิเสธ
เราคิดเหมาเอาเองหรือที่อธิษฐานแบบนั้น? ไม่หรอกครับ เพราะพระเยซูตรัสว่า “จงขอแล้วจะได้ จงหาแล้วจะพบ จงเคาะแล้วจะเปิดให้แก่พวกท่าน (มัทธิว 7:7) แปลได้อีกแบบคือ “ทูลขอต่อไป แสวงหาต่อไป เคาะต่อไป” และพระเยซูตรัสต่อไปว่า “เพราะว่าทุกคนที่ขอก็ได้ และทุกคนที่แสวงหาก็พบ ทุกคนที่เคาะก็จะเปิดให้เขา” (ข้อ 8)
เมื่อเราอธิษฐานขอการฟื้นฟู เรากำลังอธิษฐานตามน้ำพระทัยพระเจ้า เมื่อเราอธิษฐานขอความรอดให้แก่คนที่เรารัก เรากำลังอธิษฐานตามน้ำพระทัยพระองค์ เราต้องยืนหยัดเดินหน้าในคำอธิษฐานและแสวงหาพระพักตร์ ไม่ใช่เลิกแล้วละไป
เราไม่สามารถจัดงานฟื้นฟูได้ตามลำพัง แต่เราสามารถทูลวิงวอนเผื่อใครบางคนได้ บางทีเราอาจกำลังเข้าสู่การจัดเตรียมของพระองค์ เราจึงต้องอธิษฐานนำ และมุ่งหน้าเข้าสู่พื้นที่แห่งการจัดเตรียมของพระองค์
เราไม่ควรแค่อธิษฐาน แต่ควรแสวงหาพระพักตร์พระเจ้าด้วย
โดย: Pastor Greg Laurie
อนุญาตโดย Harvest Ministries with Greg Laurie
PO Box 4000,Riverside,CA92514
(Cr. ภาพ bloomimagecorbis)