ความจริงที่ยากเย็น
เพราะฉะนั้นในวันนี้ข้าพเจ้าขอยืนยันต่อท่านทั้งหลายว่า แม้ท่านทุกคนจะหลงหายไป ข้าพเจ้าก็พ้นโทษแล้ว เพราะว่า ข้าพเจ้าไม่ได้ละเว้นในการกล่าวเรื่องพระดำริทั้งสิ้นของพระเจ้าให้ท่านฟัง (กิจการ 20:26-27)
บางครั้งมันยากที่จะพูดความจริง ผมคิดว่าพวกแพทย์ที่นำเลือดหรือตัวอย่างชิ้นเนื้อที่สงสัยไปตรวจอย่างละเอียด แล้วพบความผิดปกติ แม้พวกเขาอยากจะบอกคนไข้ว่าทุกอย่างมันปกติ แต่ก็ต้องพูดความจริงเพื่อจะสามารถทำการรักษาได้
หนังสือดาเนียลในพระคัมภีร์เดิม เราอ่านพบว่าเมื่อดาเนียลต้องเปิดเผยความจริงที่ยากเย็นให้กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ ท่านพูดว่า “ข้าแต่พระราชา เพราะฉะนั้นขอทรงรับคำแนะนำของข้าพระบาท ขอฝ่าพระบาททรงเลิกทำบาปเสียโดยการทำความชอบธรรม และเลิกทำบาปชั่วโดยการสำแดงความกรุณาต่อผู้ถูกบีบบังคับ เผื่อว่าความเจริญของฝ่าพระบาทอาจจะยืดยาวไปอีกได้” (4:27) พูดอีกแบบ “การพิพากษากำลังจะมาถึง แต่ยังมีความหวังถ้าท่านจะสำนึกผิดกลับใจ”
ทำนองเดียวกัน ในฐานะคริสเตียนเราต้องประกาศความจริงที่พระเจ้าเปิดเผย อ เปาโลบอกกับพวกผู้ใหญ่ในคริสตจักรเอเฟซัส “เพราะฉะนั้นในวันนี้ข้าพเจ้าขอยืนยันต่อท่านทั้งหลายว่า แม้ท่านทุกคนจะหลงหายไป ข้าพเจ้าก็พ้นโทษแล้ว เพราะว่าข้าพเจ้าไม่ได้ละเว้นในการกล่าวเรื่องพระดำริทั้งสิ้นของพระเจ้าให้ท่านฟัง (กิจการ 20:26-27) แต่บางครั้งเราก็แอบตัดบางสิ่งที่ทำให้เราไม่สบายใจออกไป เช่นคำว่านรกหรือการพิพากษา เราจะพูดทำนองว่า “เชื่อในพระเยซู พระองค์จะทำชีวิตคุณให้เติมเต็มและมีความสุข ชีวิตจะมีแต่ความชื่นชมยินดี และความพึงพอใจ”
ถ้ามีคนตอบว่า “ก็ฉันไม่ได้อยากเชื่อในพระเยซู อะไรจะเกิดขึ้นหรือถ้าฉันไม่เชื่อ?”
เราต้องบอกความจริง แต่ไม่ใช่ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า เราต้องบอกด้วยน้ำตานองหน้า มันไม่ง่ายที่จะบอกใครๆว่า “พระคัมภีร์กล่าวว่ามีการพิพากษา และถ้าเราไม่เชื่อในพระเยซู จะมีที่ๆหนึ่งเรียกว่านรกรออยู่” เราจึงต้องพูดความจริงครับ
เราต้องบอกความจริง แต่ไม่ใช่ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า เราต้องบอกด้วยน้ำตานองหน้า
โดย: Pastor Greg Laurie
อนุญาตโดย Harvest Ministries with Greg Laurie
PO Box 4000,Riverside,CA92514
(Cr. ภาพ mentalfloss.com)