Categories
บทเรียนพระคัมภีร์

บทเรียนพระธรรมดาเนียล บทที่ 4

ปฏิมากรทองคำ & เตาไฟ

พระธรรม        ดาเนียล 3:1-30

อ้างอิง             ดนล. 1:6,7,17;2:12-14;4:1;5:11,13;6:7,13,20,25

บทนำ              แม้เราจะได้รับพระพรมากมายในชีวิต เพราะความเชื่อศรัทธาในพระเจ้า แต่เราอาจประสบกับอุบัติภัยอย่างไม่คาดฝัน เพราะการยืนหยัดในความเชื่อของเราเช่นกัน ดังนั้นขอให้เราตื่นตัว หนักแน่น และพร้อมเผชิญกับวิกฤติต่าง ๆ ของชีวิตด้วยการมอบชีวิตให้กับพระเจ้าด้วยความไว้วางใจอย่างสิ้นเชิง!

บทเรียน

3:1 “กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ทรงสร้างปฏิมากรรูปหนึ่งด้วยทองคำ สูง 27 เมตร กว้างเกือบ 3 เมตร ทรงตั้งไว้ ณ ที่ราบดูราในมณฑลบาบิโลน” 

   (King Nebuchadnezzar made an image of gold, whose height was sixty cubits and its breadth six cubits. He set it up on the plain of Dura, in the province of Babylon.)

3:2 “แล้วกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์รับสั่งให้ประชุมพวกอุปราช องคมนตรี ผู้ว่าราชการมณฑล มนตรี นายคลัง ผู้พิพากษา ตุลาการ และบรรดาเจ้าหน้าที่ของมณฑล ให้เข้ามาในงานฉลองปฏิมากรซึ่งกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้ทรงตั้งขึ้น” 

  (Then King Nebuchadnezzar sent to gather the satraps, the prefects, and the governors, the counselors, the treasurers, the justices, the magistrates, and all the officials of the provinces to  come to the dedication of the image that King Nebuchadnezzar had set up.)

3:3 “แล้วพวกอุปราช องคมนตรี ผู้ว่าราชการมณฑล มนตรี นายคลัง ผู้พิพากษา ตุลาการ และบรรดาเจ้าหน้าที่ทั้งหลายของมณฑลได้เข้ามาประชุมเพื่องานฉลองปฏิมากร ซึ่งกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้ทรงตั้งขึ้น เมื่อเขาทั้งหลายมายืนอยู่หน้าปฏิมากร ซึ่งกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้ทรงตั้งขึ้น” 

  (Then the satraps, the prefects, and the governors, the counselors, the treasurers, the justices, the magistrates, and all the officials of the provinces gathered for the dedication of the image that  King Nebuchadnezzar had set up. And they stood before the image that Nebuchadnezzar had set)

3:4 “โฆษกก็ประกาศเสียงดังว่า “พระราชามีพระราชโองการมายังชนทุกชาติทุกเผ่าทุกภาษา” 

   (And the herald proclaimed aloud, “You are commanded, O peoples, nations, and languages, )

3:5 “เมื่อท่านทั้งหลายได้ยินเสียงเขาสัตว์ ปี่ พิณเขาคู่ พิณสี่สาย พิณใหญ่ ปี่ถุง และเครื่องดนตรีทุกชนิด ให้ท่านกราบลงนมัสการปฏิมากรทองคำ ซึ่งกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้ทรงตั้งไว้”

    (that when you hear the sound of the horn, pipe, lyre, trigon, harp, bagpipe, and every kind of music, you are to fall down and worship the golden image that King Nebuchadnezzar has set up.)

3:6 “ผู้ใดไม่กราบนมัสการก็ให้โยนผู้นั้นเข้าไปในเตาที่ไฟลุกอยู่ทันที” 

    (And whoever does not fall down and worship shall immediately be cast into a burning fiery furnace.)

3:7 “เพราะฉะนั้นพอประชาชนได้ยินเสียงเขาสัตว์ ปี่ พิณเขาคู่ พิณสี่สาย พิณใหญ่ ปี่ถุง และเครื่องดนตรีทุกชนิด ชนทุกชาติทุกเผ่าทุกภาษาก็กราบนมัสการปฏิมากรทองคำซึ่งกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้ทรงตั้งไว้”

    (Therefore, as soon as all the peoples heard the sound of the horn, pipe, lyre, trigon, harp, bagpipe, and every kind of music, all the peoples, nations, and languages fell down and  worshiped the golden image that King Nebuchadnezzar had set up.)

3:8 “ในครั้งนั้นพวกเคลเดียบางคนมาเข้าเฝ้า และฟ้องพวกยิวโดยเจตนาร้าย” 

   (Therefore at that time certain Chaldeans came forward and maliciously accused the Jews.)

3:9 “เขาทูลกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ว่า “ข้าแต่พระราชา ขอทรงพระเจริญเป็นนิตย์” 

    (They declared to King Nebuchadnezzar, “O king, live forever! )

3:10 “ข้าแต่พระราชา ฝ่าพระบาททรงออกกฤษฎีกาแล้วว่า ทุกคนที่ได้ยินเสียงเขาสัตว์ ปี่ พิณเขาคู่ พิณสี่สาย พิณใหญ่ ปี่ถุง และเครื่องดนตรีทุกชนิด จะต้องกราบนมัสการปฏิมากรทองคำ” 

    (You, O king, have made a decree, that every man who hears the sound of the horn, pipe, lyre, trigon, harp, bagpipe, and every kind of music, shall fall down and worship the golden image.)

3:11 “ผู้ใดไม่กราบนมัสการก็จะถูกโยนเข้าไปในเตาที่ไฟลุกอยู่”

    (And whoever does not fall down and worship shall be cast into a burning fiery furnace.)

3:12 “มีคนยิวบางคนที่ฝ่าพระบาทแต่งตั้งให้เป็นผู้บริหารมณฑลบาบิโลนคือ ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก ข้าแต่พระราชา คนเหล่านี้ไม่เชื่อฟังกฤษฎีกาของฝ่าพระบาท เขาไม่ยอมปรนนิบัติบรรดาพระของฝ่าพระบาท หรือนมัสการปฏิมากรทองคำซึ่งฝ่าพระบาทได้ทรงตั้งไว้

     (There are certain Jews whom you have appointed over the affairs of the province of Babylon: Shadrach, Meshach, and Abednego. These men, O king, pay no attention to you; they do not serve your gods or worship the golden image that you have set up.”)

3:13 “แล้วเนบูคัดเนสซาร์กริ้วจัด มีรับสั่งให้นำตัวชัดรัค เมชาคและอาเบดเนโกเข้ามา แล้วมีผู้พาคนเหล่านี้เข้ามาเฝ้ากษัตริย์” 

   (Then Nebuchadnezzar in furious rage commanded that Shadrach, Meshach, and Abednego be brought. So they brought these men before the king.)

3:14 “เนบูคัดเนสซาร์ตรัสแก่เขาว่า “ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกเอ๋ย เป็นความจริงหรือไม่ ที่เจ้าไม่ยอมปรนนิบัติบรรดาพระของเราหรือนมัสการปฏิมากรทองคำซึ่งเราได้ตั้งไว้?” 

   (Nebuchadnezzar answered and said to them, “Is it true, O Shadrach, Meshach, and Abednego,  that you do not serve my gods or worship the golden image that I have set up?)

3:15 “เอาเถอะ ถ้าเจ้าพร้อมใจแล้ว พอเจ้าได้ยินเสียงเขาสัตว์ ปี่ พิณเขาคู่ พิณสี่สาย พิณใหญ่ ปี่ถุง และเครื่องดนตรีทุกชนิด เจ้าจงกราบนมัสการปฏิมากรซึ่งเราได้สร้างไว้ แต่ถ้าเจ้าไม่นมัสการ ก็จะต้องโยนเจ้าเข้าไปในเตาที่ไฟลุกอยู่ทันที แล้วพระองค์ไหนจะช่วยกู้เจ้าให้พ้นจากมือของเราได้?”

   (Now if you are ready when you hear the sound of the horn, pipe, lyre, trigon, harp, bagpipe, and  every kind of music, to fall down and worship the image that I have made, well and good. But if you do not worship, you shall immediately be cast into a burning fiery furnace. And who is the god who will deliver you out of my hands?”)

3:16 “ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกทูลพระราชาว่า “ข้าแต่เนบูคัดเนสซาร์ ข้าพระบาททั้งหลายไม่จำเป็นจะต้องตอบฝ่าพระบาทในเรื่องนี้” 

   (Shadrach, Meshach, and Abednego answered and said to the king, “O Nebuchadnezzar, we have no need to answer you in this matter.)

3:17 “ข้าแต่พระราชา ถ้าพระเจ้าของพวกข้าพระบาท ผู้ซึ่งพวกข้าพระบาทปรนนิบัตินั้น พอพระทัยจะช่วยกู้พวกข้าพระบาทให้พ้นจากเตาที่ไฟลุกอยู่ พระองค์ก็จะทรงช่วยกู้พวกข้าพระบาทให้พ้นจากพระหัตถ์ของฝ่าพระบาท” 

  (If this be so, our God whom we serve is able to deliver us from the burning fiery furnace, and he will deliver us out of your hand, O king.)

3:18 “ถึงแม้ไม่เป็นเช่นนั้น ข้าแต่พระราชา ขอฝ่าพระบาททรงทราบว่า พวกข้าพระบาทจะไม่ปรนนิบัติพระของฝ่าพระบาท หรือนมัสการปฏิมากรทองคำซึ่งฝ่าพระบาทได้ทรงตั้งขึ้น

   (But if not, be it known to you, O king, that we will not serve your gods or worship the golden  image that you have set up.)

3:19 “แล้วเนบูคัดเนสซาร์ทรงเกรี้ยวกราดยิ่งนัก พระพักตร์ของพระองค์ก็แสดงความไม่พอพระทัยชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก พระองค์มีรับสั่งให้ทำเตาไฟให้ร้อนกว่าปกติอีกเจ็ดเท่า”

    (Then Nebuchadnezzar was filled with fury, and the expression of his face was changed against Shadrach, Meshach, and Abednego. He ordered the furnace heated seven times more than it was  usually heated.)

3:20 “และพระองค์มีรับสั่งให้บางคนที่มีกำลังมากในกองทัพมามัดชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก และให้โยนเข้าไปในเตาที่ไฟลุกอยู่”

  (And he ordered some of the mighty men of his army to bind Shadrach, Meshach, and Abednego, and to cast them into the burning fiery furnace.)

3:21 “แล้วคนเหล่านี้ก็ถูกมัดไว้ขณะที่ใส่เสื้อ กางเกง หมวก และเครื่องแต่งกายอื่นๆ และถูกโยนเข้าไปในเตาที่ไฟลุกอยู่”

  (Then these men were bound in their cloaks, their tunics, their hats, and their other garments, and they were thrown into the burning fiery furnace.) 

3:22 “เนื่องจากพระบัญชาของกษัตริย์นั้นเร่งด่วนมาก และเตาไฟก็ร้อนจัด เปลวไฟจึงได้ฆ่าคนที่อุ้มชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก” 

  (Because the king’s order was urgent and the furnace overheated, the flame of the fire killed  those men who took up Shadrach, Meshach, and Abednego.)

3:23 “และชายทั้งสามนี้คือ ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกก็ตกลงไปในเตาไฟที่ลุกอยู่ทั้งๆ ที่ยังถูกมัด”

  (And these three men, Shadrach, Meshach, and Abednego, fell bound into the burning fiery furnace.)

3:24 “ขณะนั้นกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ประหลาดพระทัย ทรงลุกขึ้นโดยฉับพลัน พระองค์ตรัสกับบรรดาพระสหายของพระองค์ว่า “เรามัดสามคนโยนเข้าไปในไฟไม่ใช่หรือ?” เขาทูลตอบพระราชาว่า “ข้าแต่พระราชา จริง พ่ะย่ะค่ะ” 

  (Then King Nebuchadnezzar was astonished and rose up in haste. He declared to his counselors, “Did we not cast three men bound into the fire?” They answered and said to the king, “True, O  king.”)

3:25 “พระองค์ตรัสตอบว่า “แต่เราเห็นสี่คนกำลังเดินอยู่กลางไฟ ไม่ถูกมัดและไม่เป็นอันตราย รูปร่างของคนที่สี่นั้นดูเหมือนองค์เทพบุตร

   (He answered and said, “But I see four men unbound, walking in the midst of the fire, and they are not hurt; and the appearance of the fourth is like a son of the gods.”)

3:26 “แล้วเนบูคัดเนสซาร์เสด็จมาใกล้ประตูเตาที่ไฟลุกอยู่นั้น ตรัสว่า “ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกผู้รับใช้ของพระเจ้าสูงสุด จงออกมาเถิด จงมาที่นี่” แล้วชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกก็เดินออกมาจากไฟ”

  (Then Nebuchadnezzar came near to the door of the burning fiery furnace; he declared, “Shadrach, Meshach, and Abednego, servants of the Most High God, come out, and come here!” Then Shadrach, Meshach, and Abednego came out from the fire.)

3:27 “พวกอุปราช องคมนตรี ผู้ว่าราชการมณฑล และพระสหายของกษัตริย์ก็ห้อมล้อมเข้ามา เห็นว่าไฟไม่มีอำนาจอะไรเหนือร่างกายของคนเหล่านี้ ผมบนศีรษะของเขาก็ไม่งอ เสื้อก็ไม่เสียหาย ไม่มีกลิ่นไฟที่ตัวพวกเขาเลย” 

  (And the satraps, the prefects, the governors, and the king’s counselors gathered together and  saw that the fire had not had any power over the bodies of those men. The hair of their heads was not singed, their cloaks were not harmed, and no smell of fire had come upon them. )

3:28 “เนบูคัดเนสซาร์ตรัสว่า “สาธุการแด่พระเจ้าของชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก พระองค์ผู้ทรงใช้ทูตสวรรค์มาช่วยกู้ผู้รับใช้ของพระองค์ ผู้ที่วางใจในพระองค์ ไม่ฟังคำบัญชาของกษัตริย์ และยอมพลีชีวิตของเขาเสียดีกว่าปรนนิบัติและนมัสการพระอื่น นอกจากพระเจ้าของพวกเขาเอง”

  (Nebuchadnezzar answered and said, “Blessed be the God of Shadrach, Meshach, and Abednego, who has sent his angel and delivered his servants, who trusted in him, and set aside the king’s command, and yielded up their bodies rather than serve and worship any god except their own God.)

3:29 “เพราะฉะนั้นเราจึงออกกฤษฎีกาว่า ชนทุกชาติทุกเผ่าทุกภาษาคนใด ที่กล่าวลบหลู่พระเจ้าของชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก จะถูกทึ้งแขนขาออกเสีย และบ้านเรือนของเขาจะถูกทำให้เป็นเศษเล็กเศษน้อย เพราะไม่มีพระอื่นใดที่สามารถช่วยกู้แบบนี้ได้” 

  (Therefore I make a decree: Any people, nation, or language that speaks anything against the God  of Shadrach, Meshach, and Abednego shall be torn limb from limb, and their houses laid in ruins,  for there is no other god who is able to rescue in this way.” )

3:30 “แล้วกษัตริย์ทรงเลื่อนยศชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก ให้สูงขึ้นอีกในมณฑลบาบิโลน”

   (Then the king promoted Shadrach, Meshach, and Abednego in the province of Babylon.)

 

ข้อมูลมีประโยชน์

3:1       “ปฏิมากร” (image) –ในบางฉบับแปลว่า “เทวรูป” –เป็นรูปปั้นขนาดใหญ่ บุด้วยแผ่นทองคำ สูง (รวมฐาน) 60 ศอก (ประมาณ 27 เมตร) กว้าง 6 ศอก (2.7 เมตร) ปท. อสธ.5:14 – อสย.46:6;ยรม.16:20;ดนล.3:14;ฮบก.2:19

“ที่ราบดูรา” (on the plain of Dura) = อาจอยู่ห่างจากบาบิโลนไปทางใต้ไม่กี่กิโลเมตร หรืออาจเป็นคำนามทั่วไปแปลว่า “พื้นที่ซึ่งมีกำแพงปิดล้อม”

3:2       “อุปราช” (the satraps) –บางฉบับแปลว่า “เสนาบดี”  -อสธ.1:1

“อุปราช องคมนตรี ผู้ว่าราชการมณฑล มนตรี นายคลัง ผู้พิพากษา ตุลาการ และบรรดาเจ้าหน้าที่ของมณฑล” (the satraps the prefects, and the governors, the counselors, the treasurers, the justices, the magistrates, and all the officials of the provinces) บางฉบับแปลว่า “เสนาบดี ข้าหลวงภาค  ผู้ว่าการ  ราชมนตรี  ขุนคลัง  ผู้พิพากษา  ตุลาการ และเจ้าหน้าที่ของทุกมณฑล”

= คนเหล่านี้ต้องมารวมตัวยืนต่อหน้าเทวรูปนี้ และกระทำสัตย์สาบานตนที่จะภักดีต่ออาณาจักรบาบิโลนที่ตั้งขึ้นใหม่นี้ (เทวรูปน่าจะเป็น เทวรูปพระเนโบ ซึ่งใช้เป็นพยางค์ต้นของชื่อ เนบูคัดเนสซาร์ (2พกษ.24:1)

3:4       “ทุกเผ่าทุกภาษา” (peoples, nations, and languages) = บาบิโลนของเนบูคัดเนสซาร์ กลายมาเป็นมหานครที่มีประชากรจากหลากหลายประเทศ หลายเชื้อชาติ ที่พูดภาษาต่าง ๆ กัน  – ดนล.4:1;6:25; วว.10:11

3:5       “พิณสี่สาย พิณใหญ่ ปี่ถุง” (trigon, harp, bagpipe) –คำที่แปลคำเหล่านี้ ดาเนียลยืมมาจากภาษากรีก นักดนตรี + เครื่องดนตรีกรีกถูกเอ่ยถึงในจารึกต่าง ๆ ของอัสซีเรีย ตั้งแต่ก่อนสมัยเนบูคัดเนสซาร์

“ให้ท่านกราบลงนมัสการปฏิมากรทองคำ” (you are to fall down and worship the golden image)

–อพย.20:4-5

3:6       “ผู้ใดไม่กราบนมัสการ ก็ให้โยนผู้นั้นเข้าไปในเตาที่ไฟลุกอยู่ทันที” (whoever does not fall down and worship shall immediately be cast into a burning fiery furnace.)  -ยรม.29:22;ดนล.3:11,15, 21;5:19;6:7;มธ.13:42,50;วว.13:15

3:7       “ที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ทรงสร้างขึ้น” (that King Nebuchadnezzar had set up) -3:5,10,15

3:8       “พวกเคลเดีย” ( Chaldeans) –บางฉบับแปลว่า “โหราจารย์”

-พวกโหราจารย์บางคนมาฟ้องกษัตริย์เรื่องพวกยิว (ลดรูปจากคำว่า “ชาวยูดาห์”) –ยรม.34:9

3:9       “ขอทรงพระเจริญเป็นนิตย์” (O king, live forever!) –นหม.2:3;ดนล.5:10;6:6

3:10     “ออกกฤษฎีกา” (made a decree) –ดนล.6:12

3:12     “คนเหล่านี้ ไม่เชื่อฟัง กฤษฎีกาของฝ่าพระบาท เขาไม่ยอมปรนนิบัติบรรดาพระของฝ่าพระบาท หรือนมัสการปฏิมากรทองคำ ซึ่งฝ่าพระบาทได้ทรงตั้งไว้” (These men, O king, pay no attention to you; they do not serve your gods or worship the golden image that you have set up.)

= พวกเขาเชื่อฟังพระเจ้ามากกว่ากษัตริย์  (อพย.20:3-5) –ดนล.2:49;6:13;อธส.3:3

3:13     “เนบูคัดเนสซาร์กริ้วจัด” (hen Nebuchadnezzar in furious rage) –ดนล.2:12

3:14     “เป็นความจริงหรือไม่… ที่เจ้าไม่ยอมปรนนิบัติบรรดาพระของเรา” (“Is it true, O Shadrach, Meshach, and Abednego, that you do not serve my gods) –อสย.46:1;ยรม.50:2

3:15     “แล้วพระองค์ไหมจะช่วยกู้เจ้าให้พ้นจากมือของเราได้?” (And who is the god who will deliver you out of my hands?)  = คำสบประมาทโอ้อวดอันเป็นลักษณะของผู้ปกครองที่เย่อหยิ่งแห่งโมเสโปเตเมีย

–อสย.36:18-20;2พศด.32:15

3:17     “ถ้าพระเจ้าของพวกข้าพระบาท…พอพระทัยจะช่วยกู้…พระองค์ก็จะทรงช่วยกู้ข้าพระองค์”

(If this be so, our God whom we serve is able to deliver us from the burning fiery furnace, and he will deliver us out of your hand, O king.) = พระเจ้าสามารถช่วยกู้ได้ – ข.26-27;4:37;6:16-22;ฮบ.11:34;รม.11:23;2คร.9:8;ฮบ.7:25;ยด.24-25

3:18     “ถึงแม้ไม่เป็นเช่นนั้น” (But if not) = แม้พระเจ้าไม่ทรงช่วยหรือไม่ว่าพระเจ้าจะตัดสินพระทัยช่วยพวกเขาหรือไม่ (ข.17) พวกเขาก็ศรัทธามอบชีวิตให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระเจ้าอย่างเต็มเปี่ยม แต่พวกเขาจะไม่ปรนนิบัติเทวรูปหรือพระเหล่านั้นเด็ดขาด  – ปท.อพย.1:17;ยชว.24:15;ดนล.3:28

3:19     “ให้ทำเตาไฟให้ร้อนกว่าปกติอีกเจ็ดเท่า” (the furnace heated seven times more than it was usually heated.)  -อาจเป็นสำนวนโวหาร หมายความว่า “ให้ทำให้ร้อนที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” (7 เป็นสัญลักษณ์ของความสมบูรณ์)

3:25     “เทพบุตร” (a son of the gods) –เนบูคัดเนสซาร์ พูดจากภูมิหลังของการนับถือเทพเจ้าหลายองค์ จึงคิดว่า คนทั้ง 4 นั้น เป็นเทวบริวาร (หรือทูตสวรรค์ ,ข.28) ซึ่งพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุดของชาวยิวส่งมา (6:22)

3:26     “พระเจ้าสูงสุด” (the Most High God) = แท้จริงกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์เคยยอมรับมาแล้วว่า พระเจ้าของดาเนียลเป็นพระเจ้าที่เหนือพระทั้งหลายและทรงเป็นองค์เจ้านายเหนือพระราชาทั้งปวง (2:47) ปท.4:2,34

3:27     “พวกอุปราช องคมนตรี ผู้ว่าราชการมณฑล และพระสหายของกษัตริย์” (the satraps, the prefects, the governors, and the king’s counselors) –ดนล.3:2;6:7

“ก็ห้อมล้อมเข้ามา” (gathered together ) –สดด.91:3-11;อสย.43:2;ฮบ.11:32-34

“ไฟ” (the fire) –ดนล.6:23

3:28     “พระองค์ผู้ทรงใช้ทูตสวรรค์ช่วยกู้ผู้รับใช้ของพระองค์” (who has sent his angel and delivered his servants) –สดด.34:7;97:10;กจ.12:11;ดนล.6:22;กจ.5:19

“ผู้วางใจในพระองค์” (who trusted in him) -6:23;สดด.11:16;23:31,52;26:1;84:12;สภษ.3:5; ฉธบ.31:20;โยบ 13:15

3:29     “เราจึงออกกฤษฎีกา” (I make a decree) –ดนล.6:26

“บ้านเรือนของเราจะถูกทำให้เป็นเศษเล็กเศษน้อย” (their houses laid in ruins) –อสร.6:11

“เพราะไม่มีพระอื่นใดที่สามารถช่วยกู้แบบนี้ได้” (for there is no other god who is able to rescue in this way) -2:5;อสย.40:18-20;41:24;44:17; ปท.ยน.14:6

3:30     “ได้สูงขึ้นอีกในมณฑลบาบิโลน” (… promoted … in the province of Babylon.) –ดนล.2:49

คำถามนำอภิปราย

  1. คุณเคยได้รับคำสั่งจากผู้มีอำนาจปกครองคุณให้ทำบางสิ่งบางอย่างที่คุณไม่ต้องการกระทำบ้างหรือไม่? เรื่องอะไร? อะไรคือเหตุผลที่คุณใช้เป็นหลักในการตัดสินใจ?
  2. โทษที่คุณเคยได้รับสูงสุดจากการปฏิเสธไม่ทำตามคำสั่งของผู้มีอำนาจคืออะไร? แล้วผลลัพธ์เป็นอย่างไร?
  3. คุณเคยถูกบางคนมุ่งร้ายจ้องเล่นงานคุณด้วยเจตนาร้ายบ้างหรือไม่? ในเรื่องอะไร? อย่างไร? และทำไมเขาจึงมุ่งร้ายคุณ? แล้วคุณผ่านช่วงเวลาดังกล่าวมาได้อย่างไร?
  4. คุณเคยถูกท้าทายความเชื่อในพระเจ้าของคุณที่รุนแรงที่สุดในเรื่องอะไร? แล้วคุณจัดการกับมันอย่างไร? ผลที่เกิดขึ้นคืออะไร?
  5. ในชีวิตของคุณ เคยประสบกับเหตุร้ายใดที่ร้ายแรงดุจการถูกโยนเข้าไปในเตาไฟที่กำลังลุกอยู่บ้างหรือไม่? เพราะอะไร? แล้วคุณผ่านพ้นมาได้อย่างไร?
  6. คุณมีคำพยานเรื่องใดที่สำแดงถึงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าผ่านการปกป้องคุ้มครองหรือความอัศจรรย์ที่ใคร ๆ ที่เห็นล้วนยอมรับด้วยความยำเกรงพระองค์?
  7. คุณเคยได้รับการอวยพรจากพระเจ้าเพราะความซื่อสัตย์ภักดีที่คุณมีต่อพระองค์ในเรื่องใดบ้าง? (แบ่งปัน)

ศจ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์