Categories
บทเรียนพระคัมภีร์

บทเรียนพระธรรมดาเนียล บทที่ 3

พระสุบินของกษัตริย์ (2)

พระธรรม        ดาเนียล 2:24-45

อ้างอิง             ดนล.1:6-7,17-20,2:6,10-14,22,28,44-45;3:30;4:5,9,25-26;5:11-13;6:13,27;7:5-7,23;8:17,25;11:36

บทนำ             ดาเนียลรู้ความลี้ลับของความฝันจากการเปิดเผยของพระเจ้า เราก็เรียนรู้จักความจริงที่ซ่อนไว้ในพระวจนะของพระองค์ จากการเปิดเผยของพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระเจ้าเป็นผู้ครอบครองทุกสิ่ง ให้เราติดตามและรับใช้พระองค์ด้วยความเชื่อฟังและวางใจตลอดไป

 

บทเรียน

2:24 “แล้วดาเนียลก็เข้าไปหาอารีโอค ผู้ซึ่งกษัตริย์แต่งตั้งให้ประหารนักปราชญ์ของบาบิโลน ท่านได้เข้าไปและ​กล่าวว่า “ขออย่าประหารนักปราชญ์ของบาบิโลน โปรดนำข้าพเจ้าเข้าเฝ้าพระราชา และข้าพเจ้าจะถวายคำ​แก้ฝันแก่พระราชา

       (Therefore Daniel went in to Arioch, whom the king had appointed to destroy the wise men of Babylon. He went and said thus to him: “Do not destroy the wise men of Babylon; bring me in before the king, and I will show the king the interpretation.”)

2:25 “แล้วอารีโอคก็รีบนำดาเนียลเข้าเฝ้ากษัตริย์ และทูลพระองค์ว่า “ข้าพระบาทพบชายคนหนึ่ง ในพวกที่ถูก​กวาดเป็นเชลยจากยูดาห์ ผู้จะทูลให้พระราชาทราบคำแก้พระสุบินได้” 

      (Then Arioch brought in Daniel before the king in haste and said thus to him: “I have found  among the exiles from Judah a man who will make known to the king the interpretation.) 

2:26 “กษัตริย์จึงตรัสแก่ดาเนียลผู้มีชื่อว่าเบลเทชัสซาร์ว่า “เจ้าสามารถให้เรารู้ถึงความฝันที่เราได้ฝันและคำแก้ฝัน​นั้นได้หรือ?” 

     (The king declared to Daniel, whose name was Belteshazzar, “Are you able to make known to me the dream that I have seen and its interpretation?) 

2:27 “ดาเนียลทูลกษัตริย์ว่า “ไม่มีนักปราชญ์ หรือหมอดู หรือโหร หรือหมอดูฤกษ์ยามคนใดเปิดเผยความลึกลับซึ่ง​พระราชาไต่ถามแด่พระองค์ได้” 

       (Daniel answered the king and said, “No wise men, enchanters, magicians, or astrologers can  show to the king the mystery that the king has asked,)

2:28 “แต่มีพระเจ้าองค์หนึ่งในฟ้าสวรรค์ผู้ทรงเปิดเผยความลึกลับทั้งหลาย และพระองค์ทรงให้พระราชาเนบูคัด‌เนสซาร์รู้ถึงสิ่งซึ่งจะเกิดขึ้นในยุคสุดท้าย และนิมิตที่ผุดขึ้นในพระเศียรของพระองค์บนพระแท่นบรรทมนั้นเป็น​ดังนี้ พ่ะย่ะค่ะ” 

      (but there is a God in heaven who reveals mysteries, and he has made known to King Nebuchadnezzar what will be in the latter days. Your dream and the visions of your head as you  lay in bed are these) 

2:29 “ข้าแต่พระราชา ขณะเมื่อฝ่าพระบาทบรรทมบนพระแท่น พระดำริในเรื่องซึ่งจะเกิดมาภายหลังได้ผุดขึ้น และ​พระองค์นั้นผู้ทรงเปิดเผยความลึกลับก็ทรงให้ฝ่าพระบาทรู้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น”

      (To you, O king, as you lay in bed came thoughts of what would be after this, and he who reveals  mysteries made known to you what is to be.)

2:30 “ส่วนข้าพระบาทนั้น ได้รับการเปิดเผยความลับลึกนี้ ไม่ใช่เพราะข้าพระบาทมีปัญญามากกว่าคนอื่นๆ ที่ยังมี​ชีวิตอยู่ แต่เพื่อพระราชาจะรู้คำแก้พระสุบิน และเพื่อฝ่าพระบาทจะเข้าใจพระดำริในพระทัยของฝ่าพระบาท”

      (But as for me, this mystery has been revealed to me, not because of any wisdom that I have  more than all the living, but in order that the interpretation may be made known to the king, and that you may know the thoughts of your mind.)

2:31 “ข้าแต่พระราชา ฝ่าพระบาททอดพระเนตร และดูเถิด มีปฏิมากรขนาดใหญ่ ปฏิมากรนี้มหึมาจริงๆ และสุกใส​ยิ่งนัก ตั้งอยู่เฉพาะพระพักตร์ฝ่าพระบาท และรูปร่างน่ากลัว” 

      (“You saw, O king, and behold, a great image. This image, mighty and of exceeding brightness, stood before you, and its appearance was frightening.)

2:32 “หัวของปฏิมากรนี้เป็นทองนพคุณ อกและแขนเป็นเงิน ท้องและโคนขาเป็นทองสัมฤทธิ์” 

 (The head of this image was of fine gold, its chest and arms of silver, its middle and thighs of  bronze, )

2:33 “ขาเป็นเหล็ก เท้าเป็นเหล็กปนดิน” 

     (its legs of iron, its feet partly of iron and partly of clay. )

2:34 “ขณะพระองค์ทอดพระเนตร มีหินก้อนหนึ่งถูกตัดออกมาไม่ใช่ด้วยมือมนุษย์ หินนั้นกระทบปฏิมากรที่เท้าอันเป็นเหล็กปนดิน ทำให้มันแตกเป็นชิ้นๆ” 

     (As you looked, a stone was cut out by no human hand, and it struck the image on its feet of iron and clay, and broke them in pieces. them could be found. But the stone that struck the image became a great mountain and filled the whole earth.)

2:35 “แล้วส่วนเหล็ก ดินเหนียว ทองสัมฤทธิ์ เงิน และทองคำ ก็แตกเป็นชิ้นๆ พร้อมกัน กลายเป็นเหมือนแกลบจากลานนวดข้าวในฤดูร้อน ลมก็พัดพาเอาไปทั่ว จึงหาร่องรอยไม่พบอีกเลย แต่ก้อนหินที่กระทบปฏิมากรนั้นกลายเป็นภูเขาใหญ่จนเต็มพิภพ”

     (Then the iron, the clay, the bronze, the silver, and the gold, all together were broken in pieces, and became like the chaff of the summer threshing floors; and the wind carried them away, so that not a trace of them could be found. But the stone that struck the image became a great  mountain and filled the whole earth.)

2:36 “นี่เป็นพระสุบิน พ่ะย่ะค่ะ บัดนี้เหล่าข้าพระบาทขอกราบทูลคำแก้พระสุบินให้พระราชาทรงทราบ”

                 (“This was the dream. Now we will tell the king its interpretation.)

2:37 “ข้าแต่พระราชา พระราชาเหนือพระราชาทั้งหลาย ผู้ซึ่งพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ได้ประทานราชอาณาจักร อานุภาพ ฤทธิ์เดช และศักดิ์ศรี” 

       (You, O king, the king of kings, to whom the God of heaven has given the kingdom, the power,  and the might, and the glory)

2:38 “และได้ทรงมอบบรรดามนุษย์ สัตว์ในท้องทุ่งและนกบนฟ้า ไม่ว่าจะอาศัยอยู่ที่ใด ไว้ในพระหัตถ์ของฝ่าพระบาท ให้ฝ่าพระบาทปกครองทุกอย่าง เศียรทองคำนั้นคือฝ่าพระบาทเอง” 

       (and into whose hand he has given, wherever they dwell, the children of man, the beasts of the  field, and the birds of the heavens, making you rule over them all—you are the head of gold. )

2:39 “ต่อจากฝ่าพระบาทไป จะมีราชอาณาจักรด้อยกว่าของฝ่าพระบาทปรากฏขึ้น และยังมีราชอาณาจักรที่สามเป็นทองสัมฤทธิ์ ซึ่งจะปกครองอยู่ทั่วพิภพ”

      (Another kingdom inferior to you shall arise after you, and yet a third kingdom of bronze, which  shall rule over all the earth.) 

2:40 “และจะมีราชอาณาจักรที่สี่ แข็งแรงดั่งเหล็ก เพราะเหล็กตีสิ่งทั้งหลายให้หักและแตกเป็นชิ้นๆ อย่างไร ราชอาณาจักรนั้นจะหักและทุบสิ่งเหล่านี้ดังเหล็กซึ่งทุบให้แหลกอย่างนั้น”

      (And there shall be a fourth kingdom, strong as iron, because iron breaks to pieces and shatters  all things. And like iron that crushes, it shall break and crush all these.) 

2:41 “ดังที่ฝ่าพระบาททอดพระเนตร เท้าและนิ้วเท้าเป็นดินของช่างปั้นหม้อบ้าง เหล็กบ้าง จะเป็นราชอาณาจักรที่แตกแยก แต่ความแข็งของเหล็กจะยังอยู่ในนั้นบ้าง ดังที่ฝ่าพระบาททอดพระเนตรเหล็กปนดินเหนียว”

       (And as you saw the feet and toes, partly of potter’s clay and partly of iron, it shall be a divided  kingdom, but some of the firmness of iron shall be in it, just as you saw iron mixed with the soft  clay.) 

2:42 “และนิ้วเท้าเป็นเหล็กปนดินอย่างไร ราชอาณาจักรนั้นจึงแข็งแรงบ้างเปราะบ้างอย่างนั้น”

       (And as the toes of the feet were partly iron and partly clay, so the kingdom shall be partly strong and partly brittle.)

2:43 “ดังที่ฝ่าพระบาททอดพระเนตรเหล็กปนดินเหนียว พวกเขาพยายามจะมีเอกภาพด้วยการสมรส แต่จะไม่ยึดกันแน่น เช่นเดียวกับที่เหล็กไม่ประสมเข้ากับดิน”

       (As you saw the iron mixed with soft clay, so they will mix with one another in marriage, but they  will not hold together, just as iron does not mix with clay.)

2:44 “และในสมัยของพระราชาเหล่านั้น พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์จะทรงสถาปนาราชอาณาจักรหนึ่ง ซึ่งไม่มีวันถูกทำลาย หรือถูกมอบให้ชนชาติอื่น ราชอาณาจักรนั้นจะทำให้ราชอาณาจักรเหล่านี้ทั้งหมดแตกเป็นชิ้นๆ จนพินาศไป และราชอาณาจักรนั้นจะตั้งมั่นอยู่เป็นนิตย์” 

     (And in the days of those kings the God of heaven will set up a kingdom that shall never be destroyed, nor shall the kingdom be left to another people. It shall break in pieces all these kingdoms and bring them to an end, and it shall stand forever)

2:45 “ดังที่ฝ่าพระบาททอดพระเนตรก้อนหินถูกตัดออกจากภูเขา ไม่ใช่ด้วยมือมนุษย์ และก้อนหินนั้นได้ทำให้เหล็กทองสัมฤทธิ์ ดินเหนียว เงิน และทองคำแตกเป็นชิ้นๆ พระเจ้ายิ่งใหญ่ได้ทรงให้พระราชารู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ พระสุบินนั้นเป็นจริง และคำแก้พระสุบินก็แน่นอน

      (just as you saw that a stone was cut from a mountain by no human hand, and that it broke in  pieces the iron, the bronze, the clay, the silver, and the gold. A great God has made known to  the king what shall be after this. The dream is certain, and its interpretation sure.”)

2:46 “แล้วกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ก็ทรงกราบลงและเคารพดาเนียล และทรงบัญชาให้นำเครื่องบูชาและเครื่องหอมมาถวายดาเนียล”

       (Then King Nebuchadnezzar fell upon his face and paid homage to Daniel, and commanded that an offering and incense be offered up to him.) 

2:47 “กษัตริย์ตรัสกับดาเนียลว่า“แน่นอนทีเดียว พระเจ้าของท่านทรงเป็นพระเจ้าเหนือพระทั้งหลายและทรงเป็นองค์‍เจ้านายเหนือพระราชาทั้งปวง ทรงเป็นผู้เปิดเผยความลึกลับเพราะท่านสามารถเปิดเผยความลึกลับนี้ได้” 

        (The king answered and said to Daniel, “Truly, your God is God of gods and Lord of kings, and  a revealer of mysteries, for you have been able to reveal this mystery.)

2:48 “แล้วกษัตริย์ทรงให้ดาเนียลเป็นใหญ่ และประทานของกำนัลใหญ่จำนวนมาก อีกทั้งทรงแต่งตั้งให้เป็นผู้ครอบครองมณฑลทั้งหมดของบาบิโลน และเป็นประธานองคมนตรีของนักปราชญ์ทั้งสิ้นของบาบิโลน” 

      (Then the king gave Daniel high honors and many great gifts, and made him ruler over the whole province of Babylon and chief prefect over all the wise men of Babylon.)

2:49 “ดาเนียลก็ทูลขอต่อกษัตริย์ และพระองค์ทรงตั้งชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก เป็นผู้บริหารมณฑลบาบิโลน แต่ดาเนียลยังคงอยู่ในราชสำนัก”

       (Daniel made a request of the king, and he appointed Shadrach, Meshach, and Abednego over  the affairs of the province of Babylon. But Daniel remained at the king’s court.)

 

ข้อมูลมีประโยชน์

2:24     “อารีโอค” (Arioch) –ดนล.2:14

2:25     “ข้าพระบาทพบชายคนหนึ่งในพวกที่ถูกกวาดเป็นเชลยจากยูดาห์” (I have found among the exiles  from Judah a man) –ฉธบ.21:10;ดนล.1:6;5:13;6:13

2:26     “เบลเทชัสซาร์” (Belteshazzar) –ดนล.1:7

2:27     “ไม่มี…คนใดเปิดเผยความลึกลับซึ่งพระราชาไต่ถามแด่พระองค์ได้” (No …. can show to the king the  mystery that the king has asked) –ดนล.2:10;ปฐก.41:8

2:28     “แต่มีพระเจ้าองค์หนึ่งในฟ้าสวรรค์ ผู้ทรงเปิดเผยความลึกลับทั้งหลาย” ((but there is a God in heaven  who reveals mysteries) – ปฐก.40:8;ยรม.10:7;อมส.4:13

“ทรงให้พระราชาเนบูคัดเนสซาร์รู้ถึงสิ่งซึ่งจะเกิดขึ้นในยุคสุดท้าย” (and he has made known to  King Nebuchadnezzar what will be in the latter days)  -สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต –ปฐก.49:1;

ดนล.10:14;มธ.24:6;วว.1:1

“ที่ผุดขึ้นในพระเศียร” (the visions of your head lay) = ที่ผ่านเข้ามาในพระดำริ –ดนล.4:5

“บนพระแท่นบรรทม”  (in bed are these)  -สดด.4:4; ปท.อสค.28:3;ดนล.1:20

2:29     “พระองค์นั้นผู้ทรงเปิดเผยความลึกลับ” (he who reveals mysteries) = พระเจ้า (ข.47)

“ให้ฝ่าพระบาทรู้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น” (made known to you what is to be) –ปฐก.41:25

2:30     “ได้รับการเปิดเผยความลับลึกนี้” (this mystery has been revealed)= ได้ให้ความล้ำลึกนี้ประจักษ์แจ้ง

–อสย.45:3;ดนล.1:17;อมส.4:13

2:31     “มีปฏิมากรขนาดใหญ่” (This image, mighty ) = รูปปั้นขนาดมหึมา – ฮบก.1:7

“รูปร่างน่ากลัว” (its appearance was frightening) = น่าครั่นคร้าม – อสย.25:3-5

2:32-43 = พรรณนาถึงรูปปั้น(ปฏิมากร) ในส่วนต่าง ๆ

  1. หัวของปฏิมากรเป็นทองนพคุณ = บาบิโลนใหม่ (ข.38;ยรม.51:7)
  2. อก และแขนเป็นเงิน = อาณาจักรเปอร์เซีย ซึ่งกษัตริย์ไซรัสสถาปนาขึ้นในปี 539 ก.ค.ศ. (วันที่บาบิโลนถูกทำลาย)
  3. ท้อง และโคนขา = ทองสัมฤทธิ์ = อาณาจักรกรีก ซึ่งอเล็กซานเดอร์มหาราช สถาปนาขึ้นราวปี 330 ก.ค.ศ.
  4. ขาเป็นเหล็ก เท้าเป็นเหล็กปนดิน = อาณาจักรโรมัน
  1. นิ้วเท้า(ในข้อ 4) = บางคนเข้าใจว่า หมายถึงสมาพันธรัฐในสมัยต่อมา ซึ่งยึดครองดินแดนที่แต่ก่อนอยู่ในการควบคุมของอาณาจักรโรมัน

– การลดทอนค่าของโลหะจากทองไปเป็นเงิน เป็นทองสัมฤทธิ์  เหล็ก และดิน

= การอธิบายถึงศักดานุภาพที่ค่อย ๆ ลดลง (ข.39) ของผู้ปกครองในแต่ละอาณาจักรที่ปกครองต่อ ๆ มาจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช ของเนบูคัดเนสซาร์ ไปจนถึงระบอบสาธารณรัฐ และประชาธิปไตย ที่มีการตรวจสอบ และถ่วงดุล(ในลักษณะสภาซีเนต และที่ประชุมของโรมัน)

2:33     “เท้าเป็นเหล็กปนดิน” (its feet partly of iron and partly of clay) = มีส่วนที่แข็งแกร่ง และส่วนที่

เปราะบาง (ข.42)

2:34     “ถูกตัดออกมาไม่ใช่ด้วยมือมนุษย์” (was cut out by no human hand) –โยบ 12:19;ศคย.4:6

“ทำให้มันแตกเป็นชิ้นๆ ” (filled the whole earth)  = ทำให้แตกกระจาย – ดนล.2:44-45;8:25;

สดด.1:4;37:10;อสย.17:13;41:15-16;อสย.2:3;มคา.4:1;ศคย.12:3

2:35     “ทำให้มันแตกเป็นชิ้น ๆ” (were broken in pieces) = แหลกเป็นชิ้น ๆ – ลก.20:18

“ลมก็พัดพาเอาไปทั่ว” ( and the wind carried them away) –สดด.1:4;37:10;

= ลมพัดปลิวหายไปไม่เหลือร่องรอย – อสย.17:13;41:15-16

“กลายเป็นภูเขาใหญ่” (became a great mountain) = กลับกลายเป็นภูเขามหึมา  -อสย.2:3;มคา.4:1

“จนเต็มพิภพ” ( filled the whole earth) = ปกคลุมทั่วโลก – ศคย.12:3

2:36     “ขอกราบทูลคำแก้พระสุบินให้พระราชาทรงทราบ” (tell the king its interpretation) –ปฐก.41:12

2:37     “พระราชาเหนือพระราชาทั้งหลาย” (the king of kings)  = บางฉบับ แปลว่า “จอมกษัตริย์” หมายถึงกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด – ปท. ข.47;อสร.7:12;1ทธ.6:15;วว.17:14;19:16

2:38     “ไม่ว่าจะอาศัยอยู่ที่ใด” (wherever they dwell) –ยรม.27:6;ดนล.4:21-22;5:18

2:39     “ซึ่งจะปกครองอยู่ทั่วพิภพ” (shall rule over all the earth) –ดนล.7:5

2:40     “จะหักและทุบสิ่งเหล่านี้ดังเหล็กซึ่งทุบให้แหลกอย่างนั้น” (it shall break and crush all these)

-ดนล.7:7,23

2:43     “พวกเขาพยายามจะมีเอกภาพด้วยการสมรส” (so they will mix with one another in marriage)

= ภาษาอาราเมคแปลตรงตัวว่า “ปนกันด้วยเชื้อสายของมนุษย์”

2:44     “อาณาจักรนั้นจะทำให้ราชอาณาจักรเหล่านี้ทั้งหมดแตกเป็นชิ้นจนพินาศไป” (It shall break in pieces all these kingdoms bring them to an end) –ปฐก.27:29;สดด.2:9;110:5;มธ.21:43-44;1คร.15:24;  1ซมอ.9:20;ฮกก.2:22 -บางฉบับแปลว่า “อาณาจักรจะบดขยี้อาณาจักรอื่น ๆ ทั้งปวงจนราบคาบ”

“ราชอาณาจักรนั้นจะตั้งมั่นอยู่เป็นนิตย์” (and it shall stand forever)

= อาณาจักรนี้(เป็นอาณาจักรที่ 5) คือ อาณาจักรนิรันดร์ของพระเจ้า(วว.11:15)ที่จะยั่งยืนมั่นคงตลอดกาล

= สร้างขึ้นบนซากปรักหักพังของอาณาจักรต่าง ๆ ของโลกที่เต็มไปด้วยบาป และสิ้นสลายไป

-อาณาจักรของพระเจ้าจะขยายแผ่คลุมไป “ทั่วโลก” (ข.35) จนถึง “ฟ้าใหม่และโลกใหม่”

(วว.21:1)  -สดด.145:13;อสย.9:7;ดนล.4:34;6:26;7:14,27;อบด.1:21;มคา.5:7,13;ลก.1:33;วว.11:5

2:45     “ทอดพระเนตรก้อนหิน” (just as you saw that a stone ) = บางฉบับแปลว่า “นิมิตเรื่องหิน”

–อสย.28:16;   “ไม่ใช่ด้วยมือมนุษย์”  (by no human hand) –ดนล.8:25

“ได้ทรงให้พระราชารู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้” (has made known to the king what shall be after this) = ให้ฝ่าพระบาททราบถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต – ปฐก.41:25

“พระสุบินในนั้นเป็นจริงและคำแก้พระสุบินก็แน่นอน” (The dream is certain, and its interpretation sure)  = ความฝันนั้นเป็นความจริง และการตีความนี้ก็เชื่อถือได้ –วว.22:6

2:46     “แล้วกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ก็ทรงกราบลง และเคารพดาเนียล” (Then King Nebuchadnezzar fell upon  his face and paid homage to Daniel)  = บางฉบับแปลว่า “กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ก็ทรงทรุดองค์ลงกราบดาเนียล” – ดนล.8:17;กจ.10:25

“ทรงบัญชาให้นำเครื่องบูชา” (commanded that an offering) –กจ.14:13

2:47     “แน่นอนทีเดียว พระเจ้าของท่านเป็นพระเจ้าเหนือพระทั้งหลาย” ( Truly, your God is God of gods and  Lord of kings) = พระเจ้าของท่านทรงเป็นพระเจ้าเหนือพระทั้งหลายแน่นอน  -ฉธบ.10:17;ดนล.11:36

“ทรงเป็นองค์เจ้านายเหนือพระราชาทั้งปวง” (Lord of kings) = บางฉบับแปลว่า “ทรงเป็นจอมราชัน”  –ดนล.4:25;1ทธ.6:15

“ทรงเป็นผู้เปิดเผยความลึกลับ” (a revealer of mysteries) = ผู้เปิดเผยความล้ำลึกทั้งมวล

–ดนล.2:22,28

“เพราะท่านสามารถเปิดเผยความล้ำลึกนี้ได้” (for you have been able to reveal this mystery)

–ดนล.4:9;1คร.14:25

2:48     “แล้วกษัตริย์ทรงให้ดาเนียลเป็นใหญ่” (Then the king gave Daniel high honors) = ให้ดำรงตำแหน่งสูง – 2พกษ.25:28

“ทรงแต่งตั้งให้เป็นผู้ครอบครองมณฑลทั้งหมดของบาบิโลน และเป็นประธานองคมนตรีของนักปราชญ์ทั้งสิ้นของบาบิโลน” (made him ruler over the whole province of Babylon and chief prefect over all the wise men of Babylon) –อสธ.8:2;ดนล.1:20;2:6;4:9;5:11;8:27

= เปรียบดาเนียลแห่งบาบิโลนได้กับ โยเซฟแห่งอียิปต์ (ปฐก.41:41-43)

2:49     “ดาเนียลก็ทูลขอต่อกษัตริย์” (Daniel made a request of the king) = ดาเนียลทูลขอให้เนบูคัดเนสซาร์แบ่งอำนาจบริหารของตนให้แก่เพื่อนทั้ง 3 คน โดยที่ดาเนียลยังคงอยู่ที่ราชสำนัก –ดนล.1:7;3:30;6:2

คำถามนำอภิปราย

  1. คุณเคยกล้าหาญเข้าไปหาหรือขอเข้าไปหา “ผู้ใด” ที่ให้คุณให้โทษแก่คุณด้วยความมั่นใจว่า พระเจ้าจะช่วยคุณให้รอดพ้นบ้างหรือไม่? (แบ่งปัน)
  2. คุณดำเนินชีวิตจนเป็นที่รักหรือเป็นที่ยอมรับน่าเชื่อถือของผู้ที่ไม่ได้เชื่อพระเจ้า จนพวกเขายินดีช่วยเหลือคุณในเรื่องต่าง ๆ หรือไม่? เรื่องอะไร? คุณทำอย่างไร? (แบ่งปัน)
  3. คุณยอมรับหรือไม่ว่า “สติปัญญา” , “ความรู้” และ “ความสามารถ” (รวมทั้งทรัพย์สิ่งของ ตำแหน่ง ชื่อเสียง ฐานะ  ฯลฯ)  ของคุณล้วนเป็นมาจากพระเจ้าทั้งนั้น?  การยอมรับเช่นนี้ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตการทำงานและการรับใช้ของคุณอย่างไรบ้าง?
  4. คุณเคยมีประสบการณ์กับ “ความฝัน” หรือ “นิมิต” ที่มีความหมาย และส่งผลกระทบต่อชีวิตของคุณอย่างรุนแรงหรือไม่? อย่างไร?
  5. คุณเคยรับรู้ความจริงในเรื่องอะไรที่ทำให้ “ตื่นเต้น” หรือ “ตกใจ” บ้างหรือไม่? เรื่องอะไรและ อย่างไร?
  6. การที่คุณรู้ว่า ผู้มีอำนาจปกครอง ทุกอาณาจักร ในทุกยุคทุกสมัย ล้วนแล้วแต่อยู่ใต้อำนาจของพระเจ้าที่จะให้อยู่หรือจะให้ไป ได้ส่งผลอย่างไรต่อชีวิตของคุณ?
  7. คุณเคยได้รับการเคารพให้เกียรติจากผู้มีอำนาจปกครองบ้างหรือไม่? ในเรื่องอะไร? และอย่างไร? คุณรู้สึกอย่างไร และส่งผลกระทบต่อคุณอย่างไรบ้าง?
  8. เกียรติที่คุณเคยได้รับสูงสุดในชีวิตคืออะไร? (แบ่งปัน)
  9. คุณเคยแบ่งปัน “เกียรติ” , “อำนาจ” และ “สิ่งดี” ใด ๆ ให้แก่มิตรสหายของคุณบ้างหรือไม่? อย่างไร? (แบ่งปัน)

ศจ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์