ด้วยหวังว่าจะได้ชีวิตนิรันดร์ ซึ่งพระเจ้าผู้ไม่ทรงมุสาเลยได้ทรงสัญญาไว้ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ (ทิตัส 1:2)
เราพูดถึงพระคัมภีร์ว่าถูกต้องและไม่มีสิ่งใดที่ผิดพลาด แต่ที่สำคัญกว่าคือการที่เราเชื่อว่าพระวจนะของพระเจ้านั้นเป็นความจริง ครบถ้วนและสมบูรณ์พร้อม?
ครับ ถ้าตอนใดตอนหนึ่งในพระวจนะของพระองค์ไม่เป็นความจริง เราก็อาจด่วนสรุปผิดๆว่าพระเจ้านั้นมุสา
แต่พระเจ้าไม่อาจมุสาได้! ทุกถ้อยคำในพระคัมภีร์เราสามารถวางใจได้
บิลลี่ เกรแฮม เคยสรุปไว้ในช่วงต้นงานพันธกิจของท่าน และท่านอธิษฐานว่า “ข้าแต่พระเจ้า ลูกได้เห็นการเปลี่ยนแปลงมากมายโดยฤทธิอำนาจพระวจนะของพระองค์ และลูกรู้ดีว่าพระองค์ทรงอยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงนี้ … ลูกขอน้อมรับไว้ด้วยความเชื่อ … และวางใจว่าพระองค์จะทำให้ลูกเข้าใจความหมายของพระวจนะได้อย่างถูกต้องชัดเจน”
เอฟ บี เมเยอร์ หนึ่งในผู้เขียนบทเฝ้าเดี่ยวที่ยิ่งใหญ่ตลอดกาลกล่าวว่าถ้ามีพระสัญญาใดของพระเจ้าไม่เป็นจริง “สวรรค์ก็คงต้องนุ่งห่มผ้ากระสอบ ดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์คงต้องย้ายออกจากที่นั่งประจำ จักรวาลจะสั่นหวั่นไหว และลมพายุจะพัดแรงกล้า คร่ำครวญอยู่ในสรรพสิ่งทรงสร้าง คลื่นแห่งความไม่แน่นอนจะโถมใส่อย่างรุนแรง … แต่ว่าพระเจ้าไม่ทรงมุสา”
พระเจ้าแห่งความจริงไม่อาจมุสาหรือบันดาลให้เกิดเรื่องมุสาได้ สรรเสริญในสิ่งที่พระองค์เป็น – ความจริงแท้ และคู่ควรยิ่งกับการวางใจ
โดย Pastor Adrian Rogers’ daily devotional
อนุญาตโดย Love worth finding Ministries: www.lwf.org
(Cr. ภาพ kookaijoyce)