Categories
บทเรียนพระคัมภีร์

บทเรียนพระธรรม “ดาเนียล” บทที่ 1

4 หนุ่ม  โดดเด่น

พระธรรม        ดาเนียล 1:1-21

อ้างอิง             2พกษ.24:1,10-16,20:17-18;2พศด.36:5-6,10;อสย.39:7-8

บทนำ             ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพใด

ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด

เราสามารถถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า และเป็นพยานเพื่อพระองค์ได้เสมอ หากเรามีชีวิตและจุดยืนที่แน่วแน่ในพระองค์!

บทเรียน

1:1 “ในปีที่สามของรัชกาลเยโฮยาคิมกษัตริย์ของยูดาห์ เนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์ของบาบิโลนเสด็จมายังกรุงเยรูซาเล็ม และ​ทรงล้อมเมืองไว้” 

      (In the third year of the reign of Jehoiakim king of Judah, Nebuchadnezzar king of Babylon came to Jerusalem and besieged it.)

1:2 “และองค์เจ้านายทรงมอบเยโฮยาคิมกษัตริย์ของยูดาห์ไว้ในหัตถ์ของท่าน พร้อมทั้งภาชนะบางชิ้นแห่งพระนิเวศของ​พระเจ้า และท่านก็นำภาชนะเหล่านั้นมายังแผ่นดินชินาร์ มายังนิเวศแห่งพระของท่าน และบรรจุภาชนะเหล่านั้นไว้ใน​คลังของพระของท่าน” 

      (And the Lord gave Jehoiakim king of Judah into his hand, with some of the vessels of the house of God.   And he brought them to the land of Shinar, to the house of his god, and placed the vessels in the  treasury of his god.)

1:3 “แล้วกษัตริย์นั้นทรงบัญชาอัชเปนัสหัวหน้าขันทีของท่านไปนำคนอิสราเอลบางคน ทั้งเชื้อพระวงศ์และเชื้อสายขุนนาง 

       (Then the king commanded Ashpenaz, his chief eunuch, to bring some of the people of Israel, both of  the royal family and of the nobility,)

1:4 “พวกหนุ่มๆ ที่ปราศจากตำหนิ มีรูปร่างหน้าตาดี เชี่ยวชาญในสรรพปัญญา มีความรู้ ความเข้าใจ และความสามารถที่​จะรับใช้ในวังกษัตริย์ และทรงให้สอนวรรณคดีและภาษาของคนเคลเดียแก่พวกเขา” 

      (youths without blemish, of good appearance and skillful in all wisdom, endowed with knowledge,  understanding learning, and competent to stand in the king’s palace, and to teach them the literature  and language of the Chaldeans.)

1:5 “กษัตริย์ทรงกำหนดอาหารชั้นสูงและเหล้าองุ่นซึ่งกษัตริย์เสวยแก่เขาเหล่านั้นทุกวัน พวกเขารับการเลี้ยงดูอยู่สามปี เมื่อครบกำหนดเวลานั้นแล้ว พวกเขาก็เข้ารับราชการ” 

       (The king assigned them a daily portion of the food that the king ate, and of the wine that he drank. They were to be educated for three years, and at the end of that time they were to stand before the king.)

1:6 “ในบรรดาคนเหล่านั้น มีคนเผ่ายูดาห์คือดาเนียล ฮานันยาห์ มิชาเอล และอาซาริยาห์” 

       (Among these were Daniel, Hananiah, Mishael, and Azariah of the tribe of Judah.)

1:7 “และหัวหน้าขันทีตั้งชื่อให้ใหม่ ดาเนียลนั้นเรียกว่าเบลเทชัสซาร์ ฮานันยาห์เรียกว่าชัดรัค มิชาเอลเรียกว่า เมชาค และ​อาซาริยาห์เรียกว่าอาเบดเนโก”

        (And the chief of the eunuchs gave them names: Daniel he called Belteshazzar, Hananiah he called  Shadrach, Mishael he called Meshach, and Azariah he called Abednego.)

1:8 “แต่ดาเนียลตั้งใจว่าจะไม่ทำให้ตัวเป็นมลทินด้วยอาหารชั้นสูงของกษัตริย์ หรือด้วยเหล้าองุ่นซึ่งพระองค์เสวยท่านจึง​ขอหัวหน้าขันทีให้อนุญาตเพื่อท่านจะไม่ทำตัวเองเป็นมลทิน” 

      (But Daniel resolved that he would not defile himself with the king’s food, or with the wine that he drank.  Therefore he asked the chief of the eunuchs to allow him not to defile himself.)

1:9 “และพระเจ้าทรงให้หัวหน้าขันทีชอบและสงสารดาเนียล” 

       (And God gave Daniel favor and compassion in the sight of the chief of the eunuchs,)

1:10 “หัวหน้าขันทีกล่าวแก่ดาเนียลว่า “ข้าเกรงว่าพระราชาเจ้านายของข้า ผู้ทรงกำหนดอาหารและเครื่องดื่มของพวกเจ้าจะทอดพระเนตรเห็นว่า พวกเจ้ามีหน้าซูบซีดกว่าบรรดาคนหนุ่มอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน พวกเจ้าก็จะทำให้ชีวิตของ​ข้ามีอันตรายเพราะพระราชา” 

        (and the chief of the eunuchs said to Daniel, “I fear my lord the king, who assigned your food and your drink; for why should he see that you were in worse condition than the youths who are of your own age?  So you would endanger my head with the king.”)

1:11 “แล้วดาเนียลกล่าวแก่มหาดเล็กผู้ที่หัวหน้าขันทีกำหนดให้ดูแลดาเนียล ฮานันยาห์ มิชาเอลและอาซาริยาห์ว่า” 

        (Then Daniel said to the steward whom the chief of the eunuchs had assigned over Daniel, Hananiah,  Mishael, and Azariah,)

1:12 “ขอทดลองผู้รับใช้ของท่านสักสิบวัน ขอนำผักมาให้เรากินและน้ำมาให้เราดื่ม” 

         (“Test your servants for ten days; let us be given vegetables to eat and water to drink.)

1:13 “แล้วให้ท่านตรวจดูหน้าตาของเรา เทียบกับหน้าตาของบรรดาคนหนุ่มผู้รับประทานอาหารชั้นสูงของพระราชา และ​เมื่อท่านเห็นอย่างไร แล้วจงทำแก่ผู้รับใช้ของท่านอย่างนั้น” 

       (Then let our appearance and the appearance of the youths who eat the king’s food be observed by  you, and deal with your servants according to what you see.” )

1:14 “เขาก็ยอมทำตามคำขอของคนเหล่านั้นในเรื่องนี้ และทดลองพวกเขาอยู่สิบวัน” 

         (So he listened to them in this matter, and tested them for ten days.)

1:15 “เมื่อครบสิบวันแล้วจึงเห็นว่าบรรดาคนเหล่านั้นรูปร่างหน้าตาดีกว่า และเนื้อหนังเปล่งปลั่งกว่าบรรดาคนหนุ่มที่รับ‍ประทานอาหารชั้นสูงของกษัตริย์” 

          (At the end of ten days it was seen that they were better in appearance and fatter in flesh than all the  youths who ate the king’s food.)

1:16 “ดังนั้นมหาดเล็กจึงเอาอาหารชั้นสูงส่วนของพวกเขาและเหล้าองุ่นซึ่งเขาควรจะได้ดื่มนั้นไปเสียแล้วให้ผักแทน”

           (So the steward took away their food and the wine they were to drink, and gave them vegetables.)

1:17 “คนหนุ่มทั้งสี่คนนี้ พระเจ้าประทานความรู้ ความเข้าใจในวรรณกรรมทั้งปวง และปัญญา และดาเนียลเข้าใจนิมิต และความฝันทุกประการ”

           (As for these four youths, God gave them learning and skill in all literature and wisdom, and Daniel had  understanding in all visions and dreams.)

1:18 “พอถึงกำหนดเวลาที่กษัตริย์ทรงบัญชาให้นำเขาทั้งหลายเข้าเฝ้าหัวหน้าขันทีจึงนำเขาทั้งหลายเข้ามาเฝ้าเนบูคัดเนสซาร์”

           (At the end of the time, when the king had commanded that they should be brought in, the chief of the eunuchs brought them in before Nebuchadnezzar.)

 1:19 “และกษัตริย์ก็ทรงสัมภาษณ์พวกเขา ในบรรดาคนหนุ่มเหล่านั้นไม่พบสักคนหนึ่งที่เหมือนดาเนียล ฮานันยาห์  มิชาเอล และอาซาริยาห์ เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงได้เข้ารับราชการ” 

        (And the king spoke with them, and among all of them none was found like Daniel, Hananiah,  Mishael, and Azariah. Therefore they stood before the king.)

1:20 “ในบรรดาเรื่องราวอันเกี่ยวกับปัญญาและความรอบรู้ซึ่งกษัตริย์ตรัสถามพวกเขา ทรงเห็นว่าพวกเขาดีกว่าพวกโหร​ และพวกหมอดูทั้งหมดซึ่งอยู่ในอาณาจักรของพระองค์สิบเท่า”

      (And in every matter of wisdom and understanding about which the king inquired of them, he found them ten times better than all the magicians and enchanters that were in all his kingdom.)

1:21 “และดาเนียลก็ได้รับราชการเรื่อยมาจนต้นรัชกาลกษัตริย์ไซรัส”

        (And Daniel was there until the first year of King Cyrus.)

ข้อมูลมีประโยชน์

1:1       “ในปีที่ 3 ของรัชกาลเยโฮยาคิมกษัตริย์ของยูดาห์” (In the third year of the reign of Jehoiakim king of Judah) = ตรงกับปีที่ 605 ก่อน ค.ศ   (การเริ่มครองราชย์จะนับเริ่มจากวันปีใหม่หลังจากขึ้นครองราชย์ ในปี 608 ก.ค.ศ. ตามระบบคำนวณของบาบิโลน) แต่หากตามระบบของยูดาห์ จะนับปีที่ขึ้นครองราชย์เป็นปีที่ 1 ตอนนี้ จึงจะกลายเป็น “ปีที่ 4” แห่งรัชกาลเยโฮยาคิม (ยรม.25:1;46:2) ตามระบบของยูดาห์

“เยโฮยาคิม” (Jehoiakim) เป็นกษัตริย์แห่งยูดาห์ (2พกษ.23:34;2พศด.36:5-8;ยรม.46:2)

“เนบูคัดเนสซาร์” (Nebuchadnezzar) = กษัตริย์แห่งบาบิโลน ขึ้นครองราชย์ในปี 605 ก.ค.ศ.

(ยรม.25:1;28:14;2พกษ.24:1)  ;  “บาบิโลน” (Babylon) –ยรม.50:1

“มายังกรุงเยรูซาเล็มและทรงล้อมเมืองไว้” (came to Jerusalem and besieged it.) –2พกษ.24:1; 2พศด.36:5-7;ยรม.35:11

1:2   “นำ…ไปยังแผ่นดินชินาร์” (brought them to the land of Shinar) = ยูดาห์ถูกกวาดต้อนไปบาบิโลน เพราะไม่เชื่อฟังคำเตือนจากพระเจ้าเรื่องการกระทำตามพันธสัญญาปีสะบาโต และเรื่องรูปเคารพ (ลนต.25:4;26:27-35;ฉธบ.28:15-68;2พกษ.25:1;2พศด.36:20-21)

-การกวาดต้อนคนยูดาห์ไปบาบิโลนครั้งนี้ เป็นครั้งแรก (ปี 605 ก.ค.ศ.) ซึ่งมีดาเนียลติดไปด้วย และครั้งที่ 2 (ปี 597 ก.ค.ศ.) มีเอเสเคียลไปด้วย และครั้งที่ 3 (ปี 586 ก.ค.ศ.) เป็นครั้งที่บาบิโลนทำลายกรุงเยรูซาเล็ม และทำลายพระวิหารที่ซาโลมอนสร้าง – 2พกษ.24:13

“ไว้ในคลังของพระของท่าน” (placed the vessels in the treasury of his god) = เทพเจ้าของพวกบาบิโลน หมายถึง พระมาร์ดุค (อสย.45:4;2พศด.36:7;ยรม.27:19-20;ศคย.5:5-11)

1:3       “ทั้งเชื้อพระวงศ์และเชื้อสายขุนนาง” ( both of the royal family and of the nobility) –2พกษ.20:18; 24:15;อสย.39:7

1:4       “รูปร่างหน้าตาดี” (of good appearance) –ปฐก.39:6

“เชี่ยวชาญในสรรพปัญญา มีความรู้” (skillful in all wisdom, endowed with knowledge  ) –ดนล.1:17

“สอนวรรณคดีและภาษาของคนเคลเดีย” (to teach them the literature and language of the Chaldeans) –เคลเดีย = บาบิโลน

-การสอนนี้รวมถึงวรรณกรรมที่เป็นอักษร คูนิฟอร์ม ภาษาสุเมเรียน และอัคเคเดียน ซึ่งมีระบบการเขียนพยางค์ที่ซับซ้อน แต่ภาษาที่ใช้สื่อสารกันปกติทั่วไปในบาบิโลน (ซึ่งมีหลายเชื้อชาติ) กลับเป็นภาษาอารเมค ซึ่งเขียนด้วยพยัญชนะที่เข้าใจง่าย (2:4)  -อสร.4:7

1:5   “กษัตริย์ทรงกำหนดอาหารชั้นสูงและเหล้าองุ่น” (The king assigned them a daily portion of the food that the king ate, and of the wine that he drank) ดนล.1:8,10

          “ซึ่งกษัตริย์เสวย” (the king ate) = จากโต๊ะเสวย –อสธ.2:9

“รับการเลี้ยงดูอยู่สามปี” (to be educated for three years) –ดนล.1:18

“พวกเขาก็เข้ารับราชการ” (at the end of that time they were to stand before the king)

–ดนล.1:19;อสธ.2:5-6

:6       “ดาเนียล” (Daniel) –ชื่อ “ดาเนียล” แปลว่า “พระเจ้าทรงเป็นผู้พิพากษา (ของข้าพเจ้า)”

“ฮานันยาห์” (Hananiah ) แปลว่า “พระยาห์เวห์ทรงสำแดงพระคุณ”

“มิซาเอล” (Mishael) แปลว่า “ใครจะเป็นอย่างพระเจ้าได้”

“อาซาริยาห์” (Azariah) แปลว่า “พระยาห์เวห์ทรงช่วย”

1:7       “ตั้งชื่อให้ใหม่” (gave them names)  = เพื่อแสดงว่า บัดนี้ คนหนุ่มเหล่านี้ตกอยู่ใต้สิทธิอำนาจของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แล้ว (ปฐก.17:5;41:45;2พกษ.23:34;24:17)

“เบลเทชัสซาร์” (Belteshazzar) เป็นภาษาบาบิโลนแปลว่า “พระเบล (พระมาร์ดุค) ปกป้องชีวิตเขา”

–ดนล.2:26;4:8;5:12;10:1

“ซัดรัค” (Shadrach) แปลว่า “บัญชาของพระอาคู”  (เทพดวงจันทร์ของชาวสุเมเรียน)

“อาเบดเนโก” (Abednego) แปลว่า “ผู้รับใช้ของพระเนโก” (เนโบ/พระนาบู)–อสย.39:7;ดนล.2:49;3:12

1:8       “ตั้งใจว่าจะไม่ทำให้ตัวเป็นมลทิน” (But Daniel resolved that he would not defile himself) ตั้งปณิธานไว้ว่า จะไม่ยอมให้ตัวเองเป็นมลทิน–อสค.4:13-14

“ด้วยอาหารชั้นสูงของกษัตริย์หรือด้วยเหล้าองุ่น ซึ่งพระองค์เสวย” (with the king’s food, or with the wine that he drank)

–คนอิสราเอลถือว่าอาหารจากโต๊ะเสวยของเนบูคัดเนสซาร์ เป็นมลทิน เพราะอาหารส่วนแรกได้ถวายแก่รูปเคารพ เหล้าองุ่นส่วนหนึ่งก็เทถวายบนแท่นบูชาแด่พระต่างชาติ รวมทั้งเนื้อสัตว์ก็เป็นมลทินตามระเบียบพิธีกรรม ไม่ได้ฆ่าหรือเตรียมตามธรรมบัญญัติของยิวกำหนดไว้

1:9       “พระเจ้าทรงให้หัวหน้าขันทีชอบและสงสารดาเนียล” (God gave Daniel favor and compassion in the sight of the chief of the eunuchs) = พระเจ้าทรงนำชีวิตของดาเนียล คล้ายคลึงกับชีวิตของโยเซฟหลายประการ (ปฐก.39-41) ปท.สภษ.16:7  ;    “สงสาร” = เห็นใจ –1พกษ.8:50

1:10     “ผู้ทรงกำหนดอาหารและเครื่องดื่มของพระเจ้า”(who assigned your food and your drink)–ดนล.1:5

1:12     “ขอทดลองผู้รับใช้ของท่าน” (Test your servants ) = ดาเนียลหาทางออกที่ดี โดยเสนอทางเลือกแทนการแข็งข้อ  ;  “สักสิบวัน” (for ten day) ; “สิบ” = สัญลักษณ์ของความสมบูรณ์

1:13     “และเมื่อท่านเห็นอย่างไรแล้วจงทำแก่ผู้รับใช้ของท่านอย่างนั้น” (observed by you, and deal with your servants according to what you see.) = เมื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์แล้วก็ให้ปฏิบัติกับดาเนียลตามที่เห็นสมควร –ดนล.1:16

1:14     “ทดลองพวกเขาอยู่สิบวัน” (tested them for ten days) –วว.2:10

1:15     “รูปร่างหน้าตาดีกว่าและเนื้อหนังเปล่งปลั่งกว่าบรรดาคนหนุ่มที่รับประทานอาหารชั้นสูงของกษัตริย์” (they were better in appearance and fatter in flesh than all the youths who ate the king’s food)  –อพย.23:25

1:16    “แล้วให้ผักแทน” (gave them vegetables) = ให้คนทั้ง 4 รับประทานผัก (มังสวิรัติ) แทน –ดนล.1:12-13

1:17     “พระเจ้าประทานความรู้ ความเข้าใจในวรรณกรรมทั้งปวงและปัญญา” (God gave them learning and skill in all literature and wisdom) –โยบ 12:13;ดนล.2:23;คส.1:9;ยก.1:5

“ดาเนียลเข้าใจนิมิต และความฝันทุกประการ” (Daniel had understanding in all visions and dreams    ) –ดาเนียลได้พิสูจน์ให้เห็นว่า วรรณกรรมทั้งปวงของคนต่างชาติทั้งสิ้นล้วนไร้ค่า (วว.2:2-11;4:6-7) มีแต่การสำแดงของพระเจ้าเท่านั้นที่ทำให้ดาเนียลทำนายฝันได้อย่างถูกต้อง (2:17-28)

–ดนล.2:19,30;5:11;7:1;8:1

1:18     “พอถึงกำหนดเวลา” (the end of the time) = ครบกำหนดที่กษัตริย์ทรงบัญชา –ดนล.1:5

1:19     “พวกเขาจึงได้เข้ารับราชการ” ( Therefore they stood before the king) –ปฐก.41:8

1:20     “พวกโหร” และ “หมอดู” (the magicians and enchanters) –บางฉบับแปลว่า “พวกเล่นอาคมและนักเวทนมตร์” –ปฐก.41:8;  “สิบเท่า”( ten times)–1พกษ.4:30;อสธ.2:15;อสค.28:3;ดนล.2:13;28,4:18;6:3

1:21     “ก็ได้รับราชการเรื่อยมา” (Daniel was there)= รับราชการอยู่ในบาบิโลน

“จนต้นรัชกาลกษัตริย์ไซรัส” (until the first year of King Cyrus) = ปีที่หนึ่งที่กษัตริย์ไซรัสครองราชย์เหนือบาบิโลน (ปี 539 ก.ค.ศ.) – ดาเนียลใช้ชีวิตในบาบิโลนประมาณ 70 ปี และยังมีชีวิตอยู่จนถึงปี 537 ก.ค.ศ. (10:1) และได้เห็นบรรดาเชลยเดินทางจากบาบิโลนกลับสู่ยูดาห์

คำถามนำอภิปราย

  1. คุณเคยตกอับจนต้องอยู่ภายใต้อุ้งมือของใครบางคนหรือไม่? ทำไม?
  2. คุณเคยถูกกดดัน บังคับหรือถูกเรียกร้องให้ทำสิ่งที่ฝืนใจ หรือฝืนจิตสำนึกของคุณที่ยากจะบ่ายเบี่ยงหลีกเลี่ยงบ้างไหม ? เรื่องอะไร? แล้วคุณรอดตัวออกมาได้อย่างไร?
  3. คุณเคยมีประสบการณ์กับการใช้สติปัญญาที่พระเจ้าประทานให้มา ในการแก้ปัญหาได้อย่างไม่น่าเชื่อบ้างหรือไม่? เรื่องอะไร และอย่างไร?
  4. คุณได้รับการฝึกฝนอบรมจนเกิดทักษะพิเศษเฉพาะในด้านใดบ้าง แล้วคุณได้ใช้ความชำนาญหรือความเชี่ยวชาญนั้นอย่างไรบ้าง? มีอะไรบ้างที่คุณใช้เพื่อขยายแผ่นดินของพระเจ้า?
  5. เวลานี้คุณมีสุขภาพที่แข็งแรงหรืออ่อนแอ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? คุณจะทำอะไรได้บ้างที่ทำให้คุณมีพลานามัยที่ดีกว่าเดิมหรือดีกว่าคนอื่น ๆ ?
  6. คุณเคยมีประสบการณ์กับนิมิตหรือความฝันบ้างหรือไม่? อย่างไร? แล้วคุณเคยเข้าใจในนิมิต/ความฝันในเรื่องใดบ้างหรือไม่? อย่างไร? และมีอะไรเป็นผลตามมา?
  7. คุณเคยรับใช้ในหลวงหรือผู้ปกครองประเทศหรือผู้มีตำแหน่งสูงในรัฐบาล (หรือราชการ) บ้างหรือไม่? ด้านใดแล้วผลเป็นอย่างไร? ทำไม?
  8. คุณเคยมีประสบการณ์ในการเป็นพยานเรื่องพระเจ้าให้แก่คนในตำแหน่งสูงบ้างหรือไม่? กับใคร? ที่ไหน?  เมื่อไร? แล้วผลเป็นอย่างไร?
  9. คุณเคยมีประสบการณ์กับการก้าวหน้าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในอาชีพการงานบ้างหรือไม่? อย่างไร? แล้วมีส่วนต่อการรับใช้พระเจ้าของคุณบ้างหรือไม่?  อย่างไร?

 

ศจ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์