แต่ว่าเรามีของมีค่านี้อยู่ในภาชนะดิน เพื่อให้เห็นว่า ฤทธิ์เดชอันเลิศนั้นเป็นของพระเจ้าไม่ได้มาจากตัวเราเอง (2โครินธ์ 4:7)
ผมอ่านพบว่ามีบางคนยอมจ่ายหนึ่งล้านดอลล่าร์สำหรับกีต้าร์ เฟนเดอร์ สตราโตคาสเตอร์
ทำไมแพงขนาดนั้น? เพราะเป็นกีต้าร์ที่บ็อบ ดีแลน ใช้เล่นในเทศกาลดนตรีที่นิวพอร์ทในปี 1965
เป็นเทศกาลดนตรีที่มีความหมายสำหรับความเป็นดีแลน ที่เปลี่ยนจากอคูสติกกีต้าร์ (ไม่ใช้เครื่องขยายเสียง) มาเป็นกีต้าร์ ไฟฟ้า พวกรุ่นเก่าหัวโบราณยุคนั้นถึงกับพูดว่านี่เท่ากับเป็นการหักหลังกันเลยทีเดียว
แต่ราคากีต้าร์ตัวนั้นก็ยังพอรับได้ถ้าเทียบกับคนที่ยอมจ่าย 380,000 ดอลล่าร์ไปกับกีต้าร์ที่ถูกไฟเผา กีต้าร์ตัวนั้นก็รุ่นเฟนเดอร์ สตราโตคาสเตอร์เหมือนกัน แต่คนเล่นคือ จิมมี่ เฮนดริกซ์ ในเทศกาลดนตรีพอพ มอนเทอร์เร่ย์ จิมมี่เล่นเพลง “Wild Thing” แล้วก็จุดไฟเผากีต้าร์!
คุณค่าของกีต้าร์ทั้งสองตัวนี้ขึ้นอยู่กับใครเป็นคนเล่น ถ้าเป็นผมเล่นก็คงไม่มีราคาค่างวดอะไร แต่ถ้าเป็นเฮนดริกซ์ หรือ ดีแลน หรือ เอริค แคลพตัน แน่นอนราคาต้องพุ่งขึ้นทะลุฟ้า
ความยิ่งใหญ่ของสาวกไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเขาเป็นใครในฐานะบุคคล แต่เพราะใครเป็นผู้เรียกเขาเข้ามาเพื่อทำหน้าที่รับใช้
“แต่ว่าเรามีของมีค่านี้อยู่ในภาชนะดิน เพื่อให้เห็นว่าฤทธิ์เดชอันเลิศนั้นเป็นของพระเจ้า ไม่ได้มาจากตัวเราเอง เราถูกขนาบรอบข้าง แต่ก็ไม่ถึงกับกระดิกไม่ไหว เราจนปัญญาแต่ก็ไม่ถึงกับหมดมานะ เราถูกข่มเหงแต่ก็ไม่ถูกทอดทิ้ง เราถูกตีลงแล้ว แต่ก็ไม่ถึงตาย” (2โครินธ์ 4:7-9)
ความยิ่งใหญ่ของสาวกไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเขาเป็นใครในฐานะบุคคล แต่เพราะใครเป็นผู้เรียกเขาเข้ามาเพื่อทำหน้าที่รับใช้นะครับ
โดย: Pastor Greg Laurie
อนุญาตโดย Harvest Ministries with Greg Laurie
PO Box 4000,Riverside,CA92514
(Cr.ภาพ Thevisiblevoice.net)