และขอทรงโปรดยกหนี้ของข้าพระองค์ เหมือนข้าพระองค์ยกหนี้ผู้ที่เป็นหนี้ข้าพระองค์นั้น (มัทธิว 6:12 KJV)
ความอาฆาตบาดหมางระหว่างสกุลแฮทฟีลด์ และสกุลแม็คคอย เป็นเรื่องหนึ่งที่กินเวลายาวนานในประวัติศาสตร์อเมริกา ครอบครัวหนึ่งอยู่ทางเวอร์จิเนียตะวันตก อีกครอบครัวอยู่เคนทัคกี้ ตรงข้ามกันมีแม่น้ำใหญ่บิ๊กแซนดี้คั่นกลาง ความขัดแย้งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ คนหนึ่งถูกฆ่า แล้วก็อีกคน กว่าเรื่องนี้จะจบลงมีคนต้องตายไปกว่าสองโหลทีเดียว
สังคมของเราไม่ให้คุณค่ากับการให้อภัย ที่จริงการให้อภัยบ่อยครั้งกลับถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความอ่อนแอ ไม่มีทางสู้ สังคมของเราเอื้อให้มีการแก้แค้นและชดใช้ เราเชื่อในคำกล่าวโบราณว่า “แค้นนี้ต้องชำระ”
แต่ที่เราเรียนรู้จากคำอธิษฐานของพระเยซู พระองค์ทรงสอนเราให้อธิษฐานว่า “และขอทรงโปรดยกหนี้ของข้าพระองค์ เหมือนข้าพระองค์ยกหนี้ผู้ที่เป็นหนี้ข้าพระองค์นั้น” (มัทธิว 6:12 KJV)
คำว่า “หนี้” ในพระคำข้อนี้อาจแปลได้ว่า “ความบาป” พูดอีกอย่าง ขอทรงโปรดให้อภัยความบาปผิดของเรา – สิ่งที่เราละเมิด ความบกพร่อง ความขุ่นเคืองใจที่เราทำและเราเป็นหนี้พระองค์
ในทางกลับกัน เราอาจคิดว่าวันๆเราไม่ได้ทำบาปอะไร แม้เราจะไม่ได้ละเมิดพระบัญญัติข้อใด แต่เราก็ไปไม่ถึงมาตรฐานของพระเจ้า เรามีความคิดและทัศนคติที่ไม่ถูกต้อง เราทำบาปที่ขัดต่อพระบัญชา ไม่ทำดีเมื่อมีโอกาส พระคัมภีร์กล่าวว่า “ถ้าเราทั้งหลายจะว่าเราไม่มีบาป เราก็ลวงตนเอง และสัจจะไม่ได้อยู่ในเราเลย” (1ยอห์น 1:8)
เราต้องทูลขอพระเจ้าทุกวันให้ยกโทษบาปผิดของเรา และเมื่อได้รับการอภัยแล้ว เราควรมอบให้ผู้อื่นด้วย ตามที่พระเยซูสอน ให้อภัยต่อผู้อื่นอย่างกว้างขวางและตลอดเวลา เพราะนี่คือผลที่เกิดจากความซาบซึ้งและความเข้าใจในพระกรุณาที่พระเจ้าประทานอภัยให้แก่เรา
พูดง่ายๆคือ คนที่ได้รับการอภัยควรจะเป็นคนที่อภัยให้ผู้อื่นได้
โดย: Pastor Greg Laurie
อนุญาตโดย Harvest Ministries with Greg Laurie
PO Box 4000,Riverside,CA92514
(Cr. ภาพ science-all.com)