การงานของแต่ละคนก็จะได้ปรากฏให้เห็น เพราะวันเวลาจะให้เห็นได้ชัดเจน เพราะว่าจะเห็นชัดได้ด้วยไฟ ไฟนั้นจะพิสูจน์ให้เห็นการงานของแต่ละคนว่าเป็นอย่างไร (1โครินธ์ 3:13)
ภาพยนตร์เรื่อง ชินดเลอรส์ลิสท์ เล่าเรื่องจริงของออสการ์ ชินดเลอร์ นักธุรกิจชาวเยอรมันที่จ้างชาวยิวเข้ามาทำงาน เมื่อท่านเห็นพวกนาซีบุกเข้าไปในบริเวณที่พักของชาวยิว และลงมือยิงผู้คนอย่างเลือดเย็น ท่านรู้สึกสะเทือนใจมาก ตัดสินใจจะใช้ชีวิตที่เหลือ พยายามช่วยชีวิตชาวยิวพวกนั้นไว้ และท่านทำได้ดีทีเดียว
ตอนท้ายของภาพยนตร์ สงครามใกล้จบ โรงงานของชินดเลอร์ปิดตัวลง และท่านได้ช่วยชีวิตชาวยิวไว้มากกว่าพันคน ท่านไปคร่ำครวญกับเพื่อนที่เป็นหุ้นส่วนธุรกิจ อิทชาก สเติร์น ว่าท่านน่าจะทำได้มากกว่านี้ รู้สึกว่าตนเองทำได้ไม่มากพอ
ท่านพูดทำนองว่า “ฉันคนเดียว คนเดียวเท่านั้น ไม่สามารถทำทุกสิ่งได้ แต่ก็ได้ทำบางสิ่ง และสิ่งที่ทำได้คือสิ่งที่ควรทำ และสิ่งที่ฉันควรทำ ด้วยพระคุณของพระเจ้า ฉันจะทำ”
หนุ่มสาวบางคนละจากเส้นทางรุ่งโรจน์ในอาชีพมาสู่พันธกิจการพัฒนาประเทศ บางคนอาจพูดว่า “น่าเสียดาย” หรือคุณอาจละความสนุกหรือกิจกรรมบางอย่าง เพราะไม่อยากให้วิญญาณแห้งเหี่ยว และบางคนอาจพูดว่า “น่าเสียดาย รู้มั้ยคุณเสียอะไรไปบ้าง?” หรือคุณตระหนักได้ว่างานในแผ่นดินของพระเจ้าคุ้มแก่การลงทุนกว่าเรื่องเงินทอง คุณจึงสัตย์ซื่อและทุ่มเทให้กับงานนั้นอย่างสม่ำเสมอ บางคนอาจพูดว่า “น่าเสียดาย น่าจะเก็บเอาไว้ให้ตัวเอง”
หรือคุณอาจตัดสินใจว่าจะมีชีวิตเพื่อตัวเอง ทำทุกสิ่งที่อยากทำกับชีวิตตัวเอง และพระเจ้าตรัสว่า “น่าเสียดาย”
เราจำเป็นต้องทำในสิ่งที่เราสามารถทำได้ ขณะที่ยังทำได้ เพราะผมเชื่อว่าในวันสุดท้าย เราได้แต่หวังว่าน่าจะทำให้มากกว่านี้
โดย: Pastor Greg Laurie
อนุญาตโดย Harvest Ministries with Greg Laurie
PO Box 4000,Riverside,CA92514
(Cr. ภาพ larryleecaplin.com)