ฝ่ายเอลียาห์ชาวทิชบีผู้ซึ่งตั้งอาศัยอยู่ในกิเลอาด ได้ทูลอาหับว่า “พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ผู้ซึ่งข้าพระบาทปฏิบัติทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด จะไม่มีน้ำค้างหรือฝนในปีเหล่านี้ นอกจากตามคำของข้าพระบาท” (1พงศ์กษัตริย์ 17:1)
เอลียาห์มีข่าวบางอย่างที่ต้องนำไปบอกบางคน มันไม่ใช่เรื่องง่าย – ไปบอกอาหับว่าจะไม่มีฝนอีกเป็นเวลานาน และจะเกิดการกันดารแห้งแล้ง –
แต่เอลียาห์ก็ซื่อสัตย์ นำข่าวที่พระเจ้าตรัสนี้ไปส่งให้ผู้รับ
ทำนองเดียวกัน พระเจ้าประทานข่าวให้เราไปบอก และมันก็ไม่ง่าย ความจริงที่พวกเราคริสเตียนเชื่อว่าพระเยซูทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า และพระองค์ทรงเป็นทางเดียวไปถึงพระบิดา ถึงจะเป็นข่าวที่ไม่น่าสนใจในสังคมยุคนี้ แต่เราเป็นเพียงผู้สื่อสาร หน้าที่ของเราคือนำสิ่งที่พระเจ้าตรัสไปป่าวประกาศ
เราควรต้องนำข่าวนี้ไปบอกด้วยท่าทีแห่งความเมตตาสงสาร และด้วยพระคุณเท่าที่ทำได้ ในโคโลสี 4:6 กล่าวว่า “จงให้วาจาของท่านประกอบด้วยเมตตาคุณเสมอ ปรุงด้วยเกลือให้มีรส เพื่อท่านจะได้รู้จักตอบให้จุใจแก่ทุกคน” แต่ความจริงคือ “…บรรดาคนที่ปรารถนาจะดำเนินชีวิตตามทางของพระเจ้า ในพระเยซูคริสต์จะถูกกดขี่ข่มเหง” (2ทิโมธี 3:12) ผู้สื่อสารจะต้องเผชิญกับสิ่งเหล่านี้
ผู้คนมากมายบอกว่าพวกเขาอยากจะอดทน แต่จริงๆแล้วที่พวกเขากลับทำคือยอมรับและเห็นด้วย ผมคิดว่าคริสเตียนเป็นคนที่อดทนมาก ผมอาจไม่เห็นด้วยกับบางคน แต่ผมจะไม่ไปคัดค้านหรือบอกให้เขาหยุดพูด แต่ก็มีบางคนมาพูดกับคริสเตียนว่า “คุณอย่าไปมองแบบนั้น อย่าแสดงความเห็นแบบนั้นออกไปเลย”
พวกเขาไม่เพียงแต่บอกให้เราหยุดพูด แต่ต้องการให้เราอดทนต่อสิ่งที่พวกเขาเชื่อ ให้เรายอมรับและเห็นด้วย
เรื่องแบบนี้จะมาหาที่หน้าประตูบ้านผู้เชื่อทุกคนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง รูปแบบและวิธีการอาจต่างกันไป
คำถามคือ : เราจะยืนหยัดต่อพระวจนะของพระเจ้า หรือยืนอยู่บนโคลนตมแห่งสังคมที่พร้อมจะดูดเราไว้?
โดย: Pastor Greg Laurie
อนุญาตโดย Harvest Ministries with Greg Laurie
PO Box 4000,Riverside,CA92514
(Cr.ภาพ highlight.kapook.com)