“หลักฐานสำคัญ Easter คือ
Empty Cross -กางเขนว่างเปล่า
Angels’ witness -ทูตสวรรค์แจ้งข่าว
Satan’s defeat -ซาตานพ่ายแพ้
Testimony of disciples -สาวกเป็นพยาน
Empty tomb -อุโมงค์ว่างเปล่า
Risen Christ -พระคริสต์เป็นขึ้นแล้ว!”
ปกติ หากผู้ใดตาย เรื่องราวของเขาก็มักจบลงที่ความเศร้าโศก!
แต่เมื่อองค์พระเยซูคริสต์ตาย เรื่องราวของพระองค์กลับไม่จบลงตรงนั้น! เพราะภายใน 3 วันพระองค์ทรงเป็นขึ้นจากตาย และปรากฏกายต่อหน้าสักขีพยานนับไม่ถ้วนหลายครั้งหลายครา ..ทั้ง..
…ต่อหน้าทูตสวรรค์
…ต่อหน้ามารีย์ ชาวมักดารา
…ต่อหน้ากลุ่มผู้หญิงทั้ง 3 คน (มารีย์ มักดารา, มารีย์มารดาของยากอบและนางสะโลเม)
…ต่อหน้าเปโตร
…ต่อหน้าสาวก 2 คน (เคลโอปัส กับเพื่อน)
…ต่อหน้าสาวก 10 คน (ยกเว้นยูดาสกับโธมัส)
…ต่อหน้าสาวก 10 คน และโธมัส
…ต่อหน้าสาวก 7 คน (เปโตร, โธมัส,นาอานาเอล, ยากอบ, ยอห์น และสาวกอีก 2 คน)
…ต่อหน้าพี่น้องกว่า 500 คน
…ต่อหน้ายากอบ น้องชายของพระเยซูผู้เป็นผู้นำคริสตจักรแห่งแรก
…ต่อหน้าอัตรทูตทั้งหมด (11 คน)
…ต่อหน้าสเทเฟน
…ต่อหน้าเปาโล
…ต่อหน้ายอห์น (สาวกคนที่พระเยซูทรงรักในตอนที่เขาชราภาพ) ฯลฯ
การเป็นขึ้นจากตายขององค์พระเยซูคริสต์ ในวันอีสเตอร์นี้ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด เพราะเป็นการพิสูจน์ว่าองค์พระเยซูคริสต์เป็นพระเจ้าผู้ทรงรับสภาพของมนุษย์ ถูกตรึงตาย ได้พิชิตความตายด้วยการเป็นขึ้นมาใหม่อีกครั้งได้อย่างอัศจรรย์และสง่างาม องค์พระเยซูคริสต์ได้ตรัสไว้ล่วงหน้าแล้วว่า พระองค์จะต้องทนทุกข์ทรมาน ถูกตรึงตายและจะเป็นขึ้นใหม่ในวันที่ 3 และสุดท้ายทุกอย่างก็เป็นจริงตามพระดำรัสของพระองค์!
“พระองค์ตรัสกับเขาว่า “มีคำเขียนไว้อย่างนั้นว่า พระคริสต์จะต้องทรงทนทุกข์ทรมาน และทรงเป็นขึ้นมาจากความตายในวันที่สาม และจะต้องประกาศทั่วทุกประชาชาติในพระนามของพระองค์ ให้เขากลับใจใหม่รับการยกบาป ตั้งต้นที่กรุงเยรูซาเล็ม” (ลก.24:146-47)
หลังจากพระคริสต์ทรงถูกตรึงสิ้นพระชนม์ และนำพระศพมาฝังไว้ในอุโมงค์ จนกระทั่งเช้าตรู่วันอาทิตย์ ทูตสวรรค์ได้ยืนยันต่อบรรดาผู้ที่ไปหาพระศพของพระองค์ที่อุโมงค์ฝังศพว่า พระองค์ไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว แต่พระองค์ทรงเป็นขึ้นมาแล้ว!
“[พระองค์ไม่อยู่ที่นี่ แต่ทรงเป็นขึ้นมาแล้ว] จงระลึกถึงคำที่พระองค์ได้ตรัสกับท่านทั้งหลาย เมื่อพระองค์ยังอยู่ในแคว้นกาลิลี” (ลก.24:6)
ดังนั้น เรื่องราวข่าวดีแห่งวันอีสเตอร์ จึงให้ความหวังแก่เราทุกคนที่ได้ยิน และผู้ใดก็ตามที่ยอมรับพระคุณที่พระคริสต์ประทานให้นั้น ผู้นั้นก็จะได้รับความรอดนิรันดร์!
เพราะเหตุที่องค์พระเยซูคริสต์ทรงเป็นขึ้นมาจากความตาย งานศพจึงกลายเป็นงานเลี้ยงเฉลิมฉลองในทันที! เหมือนดังที่ John Blanchard กล่าวไว้ว่า
“ The Easter story ends not with a funeral but with a festival.”
(เรื่องราววันอีสเตอร์ไม่ได้จบลงที่งานศพ แต่จบด้วยงานฉลอง!)
การที่องค์พระเยซูคริสต์ทรงเป็นขึ้นจากตาย ตามคำตรัสของพระองค์ จึงกลายเป็นเครื่องยืนยันว่า พระสัญญาทั้งหมดของพระองค์ที่ให้ไว้แก่เรา จะต้องเป็นความจริงด้วยอย่างแน่นอน! ดุจดังที่ John Boys กล่าวไว้ว่า…
“ The Resurrection of Christ is the Amen of all His Promises.”
(การเป็นขึ้นมาจากตายของพระคริสต์ เป็นคำยืนยันว่า พระสัญญาทั้งปวงของพระองค์จะเกิดขึ้นเป็นจริงด้วย)
ในวันนี้ ขอให้เราทั้งหลายมาเป็นพยานให้พระคริสต์ด้วยการดำเนินชีวิตแห่งชัยชนะเหนืออุปสรรค ปัญหา การทดลองและบาปของเรา ดุจดังที่พระคริสต์ได้พิชิตศัตรูตัวสุดท้าย คือ ความตายแล้ว!
…จะดีไหมครับ?
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-
twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/ lifeanswer,
(Cr.ภาพ tonynaccarato.com)