Categories
บทเรียนพระคัมภีร์

บทเรียนพระธรรม 1ยอห์น (1)

พระธรรม        1ยอห์น 1:1-10

อ้างอิง              ยน.1:2,14;3:19-21;11:25;14:6,15; 15:27;19:35;1ยน.2:1,11-12,28;3:1,11;4:10-12;5:17

บทนำ              เราทุกคนล้วนทำบาป เราไม่อาจมีสามัคคีธรรมกับพระเจ้าได้ แต่โดยพระคุณ พระเยซูคริสต์ทรงรักโทษบาปแทนเรา ทรงชำระเราให้บริสุทธิ์ ทรงประทานชีวิตนิรันดร์และทำให้เราสามารถมีสามัคคีธรรมกับพระเจ้า พระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณได้ ดังนั้น ขอให้เราดำเนินชีวิตในความจริงและในความสว่างด้วยความรักอย่างที่พระเจ้าทรงพระประสงค์

บทเรียน

1:1 “เราขอแจ้งเกี่ยวกับสิ่งที่มีมาตั้งแต่ปฐมกาล ซึ่งเราได้ยิน ได้เห็นกับตา ได้พินิจดู และจับต้องด้วยมือของเรานั้นคือพระวาทะแห่งชีวิต”

  (That which was from the beginning, which we have heard, which we have seen with our eyes,  which we looked upon and have touched with our hands, concerning the word of life)

1:2 “(และชีวิตที่ว่านี้ปรากฏขึ้น เราได้เห็น และเป็นพยาน และประกาศชีวิตนิรันดร์นี้กับพวกท่าน เป็นชีวิตที่ดำรงอยู่​กับพระบิดาและมาปรากฏแก่เรา)” 

  (the life was made manifest, and we have seen it, and testify to it and proclaim to you the eternal life, which was with the Father and was made manifest to us)

1:3 “สิ่งที่เราได้เห็นและได้ยินนั้น เราก็ประกาศให้พวกท่านรู้ด้วย เพื่อท่านจะได้มีสามัคคีธรรมกับเรา และเราก็มี​สามัคคีธรรมกับพระบิดา และกับพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระองค์”

  (that which we have seen and heard we proclaim also to you, so that you too may have fellowship with us; and indeed our fellowship is with the Father and with his Son Jesus Christ.)

1:4 “และเราเขียนข้อความเหล่านี้เพื่อความชื่นชมยินดีของเราจะได้เต็มเปี่ยม”

       (And we are writing these things so that our joy may be complete.)

1:5 “นี่เป็นข้อความที่เราได้ยินจากพระองค์ และบอกกับพวกท่าน คือว่าพระเจ้าทรงเป็นความสว่าง และความมืด​ในพระองค์ไม่มีเลย”

 (This is the message we have heard from him and proclaim to you, that God is light, and in him is  no darkness at all.)

1:6 “ถ้าเราจะว่า เรามีสามัคคีธรรมกับพระองค์ขณะที่ยังเดินอยู่ในความมืด เราก็โกหก และไม่ได้ดำเนินชีวิตตาม​ความจริง” 

 (If we say we have fellowship with him while we walk in darkness, we lie and do not practice the truth.)

1:7 “แต่ถ้าเราเดินอยู่ในความสว่าง เหมือนอย่างที่พระองค์สถิตในความสว่าง เราก็มีสามัคคีธรรมซึ่งกันและกันและพระโลหิตของพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระองค์ ก็ชำระเราให้ปราศจากบาปทั้งสิ้น” 

 (But if we walk in the light, as he is in the light, we have fellowship with one another, and the blood of Jesus his Son cleanses us from all sin. )

1:8 “ถ้าเรากล่าวว่าเราไม่มีบาป เราก็หลอกตัวเอง และสัจจะไม่ได้อยู่ในตัวเราเลย”

       (If we say we have no sin, we deceive ourselves, and the truth is not in us.)

1:9 “ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ทรงซื่อสัตย์และเที่ยงธรรม ก็จะทรงโปรดยกบาปของเรา และจะทรงชำระ​เราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น” 

   (If we confess our sins, he is faithful and just to forgive us our sins and to cleanse us from all unrighteousness.)

1:10 “ถ้าเรากล่าวว่าเราไม่ได้ทำบาป ก็เท่ากับเราทำให้พระองค์เป็นผู้ตรัสมุสา และพระดำรัสของพระองค์ก็ไม่ได้อยู่​ในตัวเราเลย”

    (If we say we have not sinned, we make him a liar, and his word is not in us.)

ข้อมูลมีประโยชน์

1:1-4 = บทนำของจดหมาย 1ยอห์น ใช้ประธานเดียวกันและคำหลายคำที่เหมือนกับบทนำของพระธรรมยอห์น

(1:1-4) อาทิ คำว่า ปฐมกาล, พระวาทะ และชีวิต ฯลฯ

1:1       “สิ่งที่มีมาตั้งแต่ปฐมกาล” (was from the beginning) = ที่ดำรงอยู่มาตั้งแต่แรก, ยน.1:2

“เรา” (we) = ยอห์น และอัครทูตคนอื่น ๆ

“ได้ยิน…ได้เห็นกับตา ได้พินิจดู และจับต้องด้วยมือของเรา” (have heard, have seen with our eyes which we looked upon and have touched with our hands) = ยอห์นได้พิจารณาพระวาทะ

แห่งชีวิต (พระเยซูคริสต์) อย่างละเอียดถี่ถ้วน และยืนยันว่า พระองค์ผู้ทรงดำรงอยู่ตั้งแต่นิรันดร์ กาลได้มาบังเกิดเป็นมนุษย์ (ยน.1:14) ที่มีเลือดมีเนื้อ!

“ได้เห็นกับตา” (have seen with our eyes) –ลก.24:48;ยน.1:14;19:35;กจ.4:20;2ปต.1:16;1ยน.4:14

“จับต้องด้วยมือ” (touched with our hands) –ยน.20:27

“พระวาทะแห่งชีวิต” (concerning the word of life) = พระเจ้าผู้เป็นชีวิตและทรงสำแดงชีวิต (ข.2) พระองค์สำแดงความเป็นพระเจ้าแท้และมนุษย์แท้

1:2       “และชีวิตที่ว่านี้ปรากฏขึ้น” (the life was made manifest) –ยน.1:1-4;11:25;14:6;1ทธ.3:16;

1ปต.2:20;1ยน.3:5,8

“เราได้เห็นและเป็นพยาน” (we have seen it, and testify) –ยน.15:27

“ชีวิต…ชีวิตนิรันดร์” (you the eternal life) = องค์พระเยซูคริสต์ พระองค์ได้รับการขนานนามว่า “ชีวิต” เพราะทรงเป็นผู้ทรงมีชีวิตอยู่ในพระองค์เอง (ยน.11:25;14:6) พระองค์ทรงเป็นแหล่งชีวิต และทรงมีสิทธิ์สูงสุดเหนือชีวิตทั้งหลายด้วย (5:11)

-จดหมายฉบับนี้เริ่มต้นและจบลงด้วยเรื่องชีวิตนิรันดร์ –มธ.25:46

1:3       “จะได้มีสามัคคีธรรมกับเรา” (may have fellowship with us) = มีส่วนร่วมกับเรา มีความรู้สึกร่วมใน

ประสบการณ์ที่เราได้ยิน ได้เห็น ได้สัมผัสกับองค์พระเยซูผู้เสด็จมาเป็นมนุษย์ (ข.1)

“สามัคคีธรรม” = การเป็นหนึ่งเดียวในฝ่ายจิตวิญญาณของพระคริสต์กับผู้ที่เชื่อในพระองค์

เปรียบดัง องุ่นกับแขนง (ยน.15:1-5) และศีรษะกับกาย (1คร.12:12;คส.1:18) และพระบิดากับผู้เชื่อ (6-7)

1:4       “ความชื่นชมยินดีของเรา” (that our joy ) –1ยน.2:1

= ความชื่นชมยินดีของยอห์นในองค์พระเยซูคริสต์ จะไม่สมบูรณ์ ถ้าผู้อ่านจดหมาย ฉบับนี้ไม่มีส่วนร่วมในความรู้ที่แท้จริงเรื่องพระเยซูคริสต์ (2ยน.12;ฟป.2:2)

          “จะได้เต็มเปี่ยม” (may be complete) –ยน.3:29

1:5       “นี่เป็นข้อความที่เราได้ยินจากพระองค์” (This is the message we have heard from him)

–1ยน.3:11        = จากพระเยซูคริสต์

“พระเจ้าทรงเป็นความสว่าง” ( that God is light ) = ความสว่างเป็นสัญลักษณ์แทนสิ่งที่ดี สิ่งที่จริง สิ่งที่บริสุทธิ์ –1ทธ.6:16
“ความมืด” (darkness) = สัญลักษณ์แทนสิ่งชั่วร้าย และสิ่งเท็จ (ยน.3:19-21)

1:6-7    “ยังเดินอยู่ในความมืด…เดินในความสว่าง” = 2 วิถีชีวิตที่แบบหนึ่งบริสุทธิ์ และเป็นจริง กับอีกแบบหนึ่งที่ผิดพลาดและชั่วร้าย

1:6       “เรา” (we) = ยอห์น และผู้อ่านจดหมายทั้งหลาย

“มีสามัคคีธรรมกับพระองค์” (have fellowship with him ) = ดำเนินชีวิตอย่างเป็นหนึ่งเดียวในฝ่ายพระวิญญาณกับพระเจ้า

“เดิน…ดำเนิน” (walk) = ภาพของการใช้ชีวิต

“เดินอยู่ในความมืด” (walk in darkness) –ยน.3:19-21;8:12;2คร.6:14;อฟ.5:8;1ยน.2:11

          “ไม่ได้ดำเนินชีวิตตามความจริง” (not practice the truth.) –ยน.3:19-21;1ยน.2:4;4:20

1:7       “เดินอยู่ในความสว่าง” (we walk in the light) = ดำเนินชีวิตตามความจริงและความบริสุทธิ์ -อสย.2:5

“ชำระเราให้ปราศจากบาปทั้งสิ้น” (cleanses us from all sin) = จากบาปทั้งปวง – ฮบ.9:14; วว.1:5;7:14

คำว่า “บาป” –เป็นคำสำคัญในพระธรรมเล่มนี้ ปรากฏ 27 ครั้งในภาษากรีก

1:8       “ถ้าเรากล่าวว่าเราไม่มีบาป” (If we say we have no sin) = ถ้าเราอ้างว่าเราไม่มีบาป -สภษ.20:9; ยรม.2:35;รม.3:9-19;ยก.3:2

“สัจจะไม่ได้อยู่ในตัวเราเลย” (the truth is not in us) = ความจริงไม่ได้อยู่ในตัวของเราเลย – ยน.8:44; 1ยน.2:4

1:9       “ทรงซื่อสัตย์และเที่ยงธรรม” (he is faithful and just) = ชี้ให้เห็นว่าการสนองตอบของพระเจ้าต่อผู้ที่สารภาพบาปต่อพระองค์นั้น จะสอดคล้องกับพระลักษณะของพระองค์และกับพระเมตตากรุณาคุณของพระเจ้าที่มีต่อประชากรของพระองค์ (สดด.143:1;ศคย.8:8)

= พระเจ้าสัตย์ซื่อต่อพระสัญญาของพระองค์ที่จะยกโทษให้ (ยรม.31:34;มคา.7:18-20;ฮบ.10:22-23)

          “ก็จะทรงโปรดยกบาปของเรา” (to forgive us our sins) = ก็จะอภัยบาปของเรา เพื่อเป็นการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้ากับเรา ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกบาปขวางกั้นไว้ (ปท. มธ.6:12) –สดด.32:5;51:2;สภษ.28:13

“ทรงชำระเราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น” (to cleanse us from all unrighteousness)

–มคา.7:18-20;ฮบ.10:22;1ยน.1:7

1:10     “เราไม่ได้ทำบาป” (we have not sinned ) = พวกลัทธินอสติก ไม่ยอมรับว่าการกระทำผิดศีลธรรมของคนเรานั้นเป็นบาป –1ยน.1:8

“เราทำให้พระองค์เป็นผู้ตรัสมุสา” (we make him a liar  ) -1ยน.5:10

“พระดำรัสของพระองค์ก็ไม่ได้อยู่ในตัวเราเลย” (his word is not in us) –ยน.5:38;1ยน.2:14

 คำถามนำอภิปราย

 

 

  1. คุณเคยมีประสบการณ์กับพระเจ้าแบบเป็นส่วนตัวหรือไม่? ในเรื่องอะไร? เป็นอย่างไร? เมื่อไร และ ที่ไหน? (แบ่งปัน)
  2. คุณได้เป็นพยานเรื่องประสบการณ์นั้นแก่ใครบ้างหรือไม่? ผลเป็นอย่างไร?
  3. ในเวลานี้มีใครบ้างที่มารู้จักกับพระเจ้า และมีสามัคคีธรรมร่วมกับคุณ เพราะคำพยานของคุณบ้าง?
  4. ใครคือคนที่นำคุณให้มีสามัคคีธรรมกับพระเจ้า และพี่น้องคนอื่น ๆ ? เมื่อไร? ที่ไหน? และอย่างไร?
  5. ประสบการอะไรในชีวิตที่ทำให้คุณมีความชื่นชมยินดีอย่างเต็มเปี่ยม(มากที่สุด)? (แบ่งปัน)
  6. คุณเคยรู้สึกสับสนที่เห็นคนบางคนบอกว่า เขามีสามัคคีธรรมกับพระเจ้า แต่ยังเดินอยู่ในความมืดบ้างหรือไม่? อย่างไร? (แบ่งปัน)
  7. คุณเองเคยดำเนินชีวิตขัดกับคำพูดของคุณบ้างหรือไม่? ในเรื่องใด แล้วคุณจัดการกับสภาวะเช่นนี้อย่างไร?
  8. มีบาปอะไรบ้างที่คุณเห็นมากที่สุด ในท่ามกลางคนที่บอกว่า พวกเขาเชื่อพระเจ้าแล้ว? คุณจะช่วยอะไรพวกเขาได้บ้าง ในเรื่องนี้? และอย่างไร?
  9. สำหรับคุณเอง มีบาปอะไรที่รบกวนชีวิตของคุณมากที่สุด? แล้วคุณจัดการกับมันอย่างไร? ได้ผลหรือไม่?
  10. คุณยอมรับหรือไม่ว่า คุณเองก็ทำบาป? การยอมรับเช่นนี้ ส่งผลต่อความคิดและการดำเนินชีวิตของคุณอย่างไรบ้าง?

 

ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-

twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/lifeanswer, facebook.com/lifeanswer

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.